Lifestyle

วินเทอร์นี้เจาะหน้าต่างสู่ใจกลางมหานครกรุงเทพที่ “อมารี วอเตอร์เกท”

Pinterest LinkedIn Tumblr


มหานครกรุงเทพ เมืองแห่งความภาคภูมิใจที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และย่านต่างๆ ให้ได้ค้นหา เมืองหลวงที่ยังคงเติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง และได้รับการขนานนามเป็น “เวนิสแห่งตะวันออก” ด้วยคูคลองเรียงร้อยหลายสายที่สร้างมาหลายร้อยปีก่อนเพื่อการค้าขายและการสัญจร


ในปัจจุบันเส้นทางประวัติศาสาตร์ยังคงมีความสำคัญไม่ต่างจากเดิม และยังเป็นวิธีการเดินทางข้ามเขตที่มีเสน่ห์ ช่วยเลี่ยงการจราจรที่ติดขัด ย่านซึ่งเป็นที่รู้จักด้วยชื่อประตูน้ำ คือจุดที่คลองไหลมาบรรจบกัน เมื่อเดินเท้าไม่ไกลจากท่าเรือหลักก็จะได้พบกับตลาดที่คึกคัก ศาลพระภูมิที่คนกราบไว้บูชา ไปจนถึงศูนย์การค้าระดับโลก ประตูน้ำ ยังเป็นที่ตั้งของโรงแรม อมารี วอเตอร์เกท กรุงเทพฯ โรงแรมที่มีชื่อมายาวนานในย่านใจกลางเมือง โดยเป็นทั้งที่สำหรับพักผ่อนหย่อนใจ พบปะ และเฉลิมฉลองสำหรับผู้คนทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะในช่วงวินเทอร์ที่ได้มาถึงแล้ว


ทันทีที่ก้าวเข้าสู่โรงแรมจะได้พบกับล็อบบี้หรูชั้นลอยสามชั้น บรรยากาศอบอุ่นด้วยสีแนวเอิร์ธโทน โดยมีแสงไฟจากโคมไฟงานศิลป์ทำมือจากแก้ว Murano 847 ชิ้น ส่องสว่างลงมากลางโถงล็อบบี้ ด้วยชื่อ “สายน้ำแห่งชีวิต” งานศิลปะชิ้นนี้ชวนให้นึกถึงสายฝนที่โปรยปราย ล้อไปกับที่ตั้งของโรงแรมซึ่งคลองสายสำคัญของกรุงเทพฯ ไหลมาบรรจบกัน และความสำคัญของสายน้ำกับวิถีชีวิตไทย


โรงแรม อมารี วอเตอร์เกท กรุงเทพฯ มีห้องพักและห้องสวีทให้บริการทั้งหมด 564 ห้องภายในตึกสูง 34 ชั้น ทุกห้องได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์แขกที่เข้าพักทั้งนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจ การตกแต่งภายในด้วยดีไซน์ร่วมสมัย พร้อมลวดลายไทยงดงามที่สะท้อนถึงเสน่ห์ของกรุงเทพฯ แขกที่เข้าพักในห้องสวีทและชั้นธุรกิจ จะได้รับสิทธิพิเศษในการเข้า Voyager Lounge ที่ตั้งอยู่บริเวณล็อบบี้ ที่จะมอบประสบการณ์เหนือระดับและบริการที่ออกแบบมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ


สำหรับห้องพรีเมียร์และห้องสวีท 2 ห้องนอน โรงแรม อมารี วอเตอร์เกท กรุงเทพฯ ได้มีการปรับโฉมดีไซน์ห้องใหม่ ที่แสดงถึงความทันสมัยและวัฒนธรรมที่ไม่เหมือนใคร ผ่านการตแต่งภายในที่ได้รับแรงบันดาลจากวิถีชีวิตเลียบคลองแสนแสบ คลองใจกลางเมือง โดยท่าเรือที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาอยู่เพียงไม่ไกลจากทางเข้าหลัก ด้วยการนำเอาลายไทยมาตีความหมายใหม่ ผ่านพรหมทอและลวดลายพิมพ์บนผนัง ตำแหน่งไฟที่จัดวางเพื่อให้นึกถึงแสงไฟถนนที่เรียงรายไปตามทางเดินเลียบคลอง ไปจนถึงกรอบรูปงานศิลปะ ที่แสดงสถานที่สำคัญต่างๆ ในย่านเมืองเก่าซึ่งอยู่ไม่ไกลจากท่าเรือทางทิศตะวันตกสุดทางทิศตะวันตกของคลอง ห้องพรีเมียร์และห้องสวีทดีไซน์ใหม่นี้มีกลิ่นอายสถานที่ตั้งของโรงแรมที่ตั้งอยู่บนอยู่สี่แยก จุดกึ่งกลางของวัฒนธรรมและความทันสมัย


ที่บริเวณชั้น 8 ของโรมแรม ยังเป็นบริเวณที่จัดไว้สำหรับการผ่อนคลายและสุขภาพ ด้วยสระว่ายน้ำสไตล์รีสอร์ตและสวนดาดฟ้า Breeze Spa ชื่อดัง และโซนฟิตเนสที่มีทั้งคอร์ทสควอช และคลาสออกกกำลังกายเป็นกลุ่ม


โรงแรมแห่งนี้ยังเหมาะกับการเป็นสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับหลากหลายโอกาส ไม่ว่าจะการประชุม มื้อค่ำสุดพิเศษ พิธีแต่งงาน การพักผ่อนกับองค์กร และงานเลี้ยงที่ออกแบบเอง ด้วยห้องบอลรูม 948 ตารางเมตรที่สามารถแบ่งได้สามตอน และยังมีห้องประชุมเล็กอีก 20 ห้อง โรงแรมสามารถรองรับแขกได้ตั้งแต่ 10 – 550 ท่าน และยังมีโซนนอกอาคารในสวนและริมสระว่ายน้ำที่รองรับได้ถึง 300 ท่าน ด้วยทีมงานที่ดูแลในส่วนของอีเวนท์โดยเฉพาะ ท่านสามารถวางใจได้ว่าทุกความต้องการจะได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง


ส่วนห้องอาหารแน่นอนว่า เมื่อมาเช็กอินที่นี่จะต้องนึกถึง “อมาญา ฟู้ด แกลเลอรี่” ห้องอาหารในคอนเซ็ปต์สตรีทฟู้ดเอเชียที่สามารถหาทานได้ตลอดทั้งวัน จุได้ถึง 450 ที่ ส่วนโซนห้องส่วนตัวสำหรับ 30 ท่าน ให้บริการมื้อเช้า ตั้งแต่เวลา 06.00 – 10.30 น มื้อกลางวันตั้งแต่เวลา 12.00 – 15.00 น. และมื้อค่ำ ตั้งแต่เวลา 18.00 – 22.30 น.


นอกจากนี้ ยังมีร้าน “เปรโก้” (Prego) บาร์ที่มีเครื่องดื่มครบครัน และพิซซ่าเตาถ่านแบบต้นตำรับเปรโก้ ซึ่งเป็นตัวตนที่เป็นที่รู้จักมายาวนานของชายผู้อยู่เบื้องหลัง อย่าง “เชฟมาร์โค บอสกาอินี” (Chef Marco Boscaini) ที่เคยโด่งดังในโรงแรมอมารี เกาะสมุย เมื่อ 19 ปีก่อน นำเสนออาหารอิตาเลียนร่วมสมัย ตั้งแต่พาสต้าเส้นสดใหม่ ไปจนถึงพิซซ่า และเมนูอื่นๆ อีกมากมาย หนึ่งในเมนูซิกเนเจอร์ที่ห้ามพลาด คือ “ริซอตโต อัลลา มอนทานารา” (Risotto Alla Montanara) ริซอตโตรสชาติเข้มข้นด้วยครีมและส่วนผสมที่ลงตัว ปิดท้ายด้วยไข่ดิบยกระดับความอร่อยอีกขั้น ความพิเศษของเมนูนนี้การันตีด้วยรางวัล “100 ริซอตโตที่ดีที่สุด” (100 Best Risottos) จากหนังสือ ‘i Risotti’ โดย Gribaudo Riso Gallo ที่รวบรวมริซอตโตรสเลิศจากทั่วทุกมุมโลก โดยมีที่นั่งทั้งโซนนอกอาคาร และโซนห้องปรับอากาศ จุได้ประมาณ 80 ที่ เปิดตั้งแต่ 06.00 – 22.00 น.

Fact File
ชื่อ : โรงแรมอมารี วอเตอร์เกท กรุงเทพฯ
ที่ตั้ง : 847 ถนนเพชรบุรี กรุงเทพฯ 10400
ติดต่อ : โทรศัพท์ 0-2653-9000 อีเมล์ reservations.watergate@amari.com

Comments are closed.

Pin It