ฮาเซงาวะ คะซุฮิโระ นักบริหารมือทองจากเมืองชิบะ ประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบันนั่งเก้าอี้ CEO และผู้ก่อตั้งศูนย์วิจัยศักยภาพบริษัท รวมถึงที่ปรึกษาด้านธุรกิจนานาชาติ ที่มีประสบการณ์การทำงานมากว่า 50 ปี เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดนักบริหารที่เฉียบคมและเชี่ยวชาญที่สุดในการฟื้นฟูกิจการ
ผลงานที่สร้างชื่อให้เขาคือ การขึ้นเป็น ประธานบริษัทนิคอน-เอสซีลอร์ ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัทนิคอนกับบริษัทเอสซีลอร์ ประเทศฝรั่งเศส โดยเขาสามารถพลิกฟื้นบริษัทที่ขาดทุนถึง 5,000 ล้านเยน ให้กลับมาคืนทุนได้ในปีแรก และมีกำไรจ่ายเงินปันผลได้ในปีที่ 2 จนได้รับสมญานามว่าเป็น “นักบริหารผู้กอบกู้” และได้รับฉายาว่า “คาร์ลอส กอน คนที่ 2” ซึ่ง คาร์ลอส กอน ก็คือผู้ที่ฟื้นฟูบริษัทนิสสันฯ ได้เป็นผลสำเร็จ หลังจากนั้น ฮาเซงาวะ ก็ถือได้ว่าเป็นผู้วางแผนฟื้นฟูบริษัทต่างๆ อีกกว่า 2,000 แห่งในญี่ปุ่นที่กำลังจะขาดทุนให้กลับมามีกำไรได้อีกครั้ง นอกจากนี้ ฮาเซงาวะ ยังเป็นที่ปรึกษาด้านธุรกิจระหว่างประเทศ ให้แก่บริษัทข้ามชาติหลายแห่ง และเป็นวิทยากรในหลักสูตรวินัยของผู้บริหารคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยจูโอ อีกด้วย
หากใครยังจำกันได้ ก่อนหน้านี้ สนพ.นานมีบุ๊คส์ ได้นำผลงานของ ฮาเซงาวะ มาแปลแล้วหนึ่งเล่มชื่อว่า “จากสมุดบันทึกของผม” (President’s Notebook) ออกมากระตุกต่อมคิดของบรรดาคอหนังสือแนวฮาวทู จนกลายเป็นหนังสือขายดีมาแล้ว จากการรวบรวมประสบการณ์ในการทำงาน และการพัฒนาตัวเองสู่ความเป็นมืออาชีพอย่างสมบูรณ์แบบ และเริ่มถ่ายทอดแนวคิดดีๆ ลงสมุดบันทึกตั้งแต่อายุ 27 ปี และทำต่อเนื่องมา 45 ปี สมุดบันทึก 200 กว่าเล่ม ได้ผนึกทั้งแง่คิด มุมมอง วิธีการแก้ปัญหามากมาย ที่ถูกพิสูจน์มาหลายต่อหลายครั้งว่า ใช้ได้จริงในธุรกิจ ทั้งระดับคนทำงาน, เจ้าของกิจการขนาด SMEs หรือจะเป็นองค์กรระดับข้ามชาติก็ตาม รวมถึงข้อคิดและประสบการณ์อันมากคุณค่า ได้ถูกถ่ายทอดผ่านการบันทึกสั้นๆ ที่อ่านง่าย ไม่ซับซ้อน แต่กระชากใจให้ต้องหยุดคิด มีความครบเครื่องทั้งในมุมมองด้านการตลาด ด้านทรัพยากรมนุษย์ ด้านการบริหารจัดการ
ครั้งนี้เขากลับมาอีกครั้งกับผลงานเขียนในชุด President’s Experience ประกอบด้วย 3 เล่มใหม่คือ พลิกวิกฤตเป็นกำไร (The President’s Notebooks 2), พลิก 8 จุดบอด สู่สุดยอดนักบริหาร (Letter from President) และ เคี่ยวคน 5% เห็นผลทั้งองค์กร (5% of People Who Control the Whole Org) ถือเป็นชุดสุดยอดตำราทางธุรกิจสำหรับนักบริหารในทุกระดับ
ทั้งนี้ ฮาเซงาวะ ยังฝากถึงเรื่องการฟื้นฟูองค์กร ภายหลังภาวะวิกฤตน้ำท่วมในประเทศไทยว่า “จากเหตุการณ์น้ำท่วมในประเทศไทย มีหลายองค์กรได้รับความเสียหาย การฟื้นฟูถือเป็นเรื่องแรกที่ต้องดำเนินการ ซึ่งสิ่งสำคัญที่ผู้บริหารไทยต้องมีคือ ความไม่ย่อท้อในการต่อสู้กับปัญหา และต้องตระหนักถึงความพร้อม ทั้งเงินทุนและทรัพยากรบุคคลในการฟื้นฟูองค์กรหลังน้ำลด โดยให้พนักงานในองค์กรทุกคนมีส่วนร่วมในการฟื้นฟู ซึ่งจุดเด่นของคนไทยคือ ความตั้งใจ และความจริงใจในการทำงาน และจุดอ่อนของคนไทยเห็นจะเป็นเรื่องการมองข้ามความสามารถของตนเอง จึงไม่ได้นำมาใช้ในการพัฒนาองค์กรอย่างเต็มที่ และไม่อยากให้คนไทยนำศักยภาพตนเองไปเปรียบเทียบกับชาติอื่น เพราะอาจเกิดความรู้สึกด้อยกว่าและท้อแท้ได้
และการทำธุรกิจนั้นมีทั้งขาขึ้นและขาลง ที่สำคัญคืออย่าถอดใจเป็นอันขาด เทคนิคในการทำงานต้องมีการขัดเกลาอยู่เสมอ ต้องมีความรู้ มีประสบการณ์ ไม่ใช่มีเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น ผมว่าคนไทยมีความตั้งใจในการทำงาน ขยันไม่แพ้คนญี่ปุ่นหรือคนชาติใดในโลก แต่สิ่งหนึ่งที่คนไทยไม่รู้คือ ไม่รู้ว่าจะพัฒนาตนเองอย่างไร ไม่อยากให้คนไทยเอาตัวเองไปเปรียบกับคนอื่น แต่ขอให้เป็นคนหมั่นสังเกต ถ้าเห็นอะไรที่สำคัญขอให้จดและซึมซับสิ่งนั้นๆ แล้วนำมาปรับปรุงตัวเอง ผมมั่นใจว่าคนไทยสามารถสู้ต่างชาติได้ อย่างไรก็ตาม คนไทยกับคนญี่ปุ่นจะต้องไปด้วยกัน”
นี่คือสิ่งที่ ฮาเซงาวะ คะซุฮิโระ เจ้าของผลงาน President’s Experience ทั้ง 4 เล่มได้ให้ข้อคิดเอาไว้ ใครที่อยากจะประสบความสำเร็จและต้องการจะเป็นสุดยอดนักบริหารอย่างเขา ห้ามพลาดผลงานที่กลั่นกรองมาจากประสบการณ์จริงเหล่านี้
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
Lifestyle
Comments are closed.