>>เปิดตัวหนังสือ สวดมนต์เข้าเฝ้าพุทธองค์ รวบรวมบทสวดมนต์จากแดนพุทธภูมิถึง 30 กว่าบท ที่พระเดชพระคุณพระเทพโพธิวิเทศ ท่านเจ้าอาวาสวัดไทยพุทธคยา ประเทศอินเดีย และหัวหน้าพระธรรมทูตสายประเทศอินเดีย-เนปาล ได้เมตตานำสวดพร้อมกับพระธรรมทูตจากแดนพุทธภูมิ หนังสือสวดมนต์ที่สมบูรณ์มากที่สุด โดยทุกบทสวดมีคำแปล และที่มาของบทสวด เพิ่มบทสวดไฮไลต์ 30 บทสวดหลังทำวัตรเช้า และ 30 บทสวดหลังทำวัตรเย็น
แขกรับเชิญมีทั้งผู้จัดและนักแสดงช่อง 3 คุณทาริกา ธิดาทิตย์, คุณอรุโณชา ภาณุพันธุ์, เกรซ รัชย์ณมนทร์, จ๊ะจ๋า พริมรตา, แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ นายแพทย์วิโรจน์ ตระการวิจิตร ที่เอาธรรมปฏิบัติมาประยุกต์ใช้ในการรักษาผู้ป่วย รวมถึง Miss Ann Marie French-Cushing ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์องค์รวมระดับนานาชาติ ที่ศึกษาการทำงานระหว่างสมองและการสวดมนต์มากว่า 15 ปี ก็ได้พูดถึงอานิสงส์ประโยชน์จากการสวดมนต์ ที่ได้ทำการวิจัยทั้งในไทยและต่างประเทศ
นพ.วิโรจน์ ตระการวิจิตร ผู้อำนวยการฝ่ายแพทย์ โรงพยาบาลนครธน ผู้นำเอาธรรมปฏิบัติมาประยุกต์ใช้ในการรักษาผู้ป่วยจนเห็นผลเป็นรูปธรรม ให้ความรู้ในงานแถลงข่าวไว้ว่า
“ปัจจุบันมีผลวิจัยออกมามากมายเกี่ยวกับการสวดมนต์ที่มีผลต่อสมองและร่างกาย เมื่อวิทยาศาสตร์เข้ามามีส่วนร่วม ทำให้สามารถดึงคนรุ่นใหม่เข้ามาสนใจได้เพิ่มมากขึ้น ในวงการแพทย์ การสวดมนต์ ทำสมาธิ เจริญอานาปานสติ จะได้ผลอยู่ 3 อย่างหลักๆ คือ
1. เกิดภูมิต้านทานโรค โดยสร้างมาจากเซลล์สมองตัวหนึ่ง
2. ระบบฮอร์โมน เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงในสมองจะสร้างสมดุลให้กับร่างกาย
3. หัวใจและหลอดเลือด ความดันลดลง เป็นโรคหัวใจลดน้อยลง
เพียงแค่สวดมนต์และทำสมาธิวันละ 12 นาที นาน 8 สัปดาห์ จะเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นต่อเซลล์สมองของเราทันที
ผมมีเทคนิคการใช้หนังสือเล่มนี้ที่ทดลองแล้วได้ผลกับตัวเองด้วย คือ
1. เปิดดูทุกหน้าก่อน ทุกบทมีที่มาที่ไป บทไหนโดนใจเรา ก็ให้เริ่มต้นจากบทนั้นโดยไม่ต้องแปล แล้วจำให้ได้ จะเกิดการเชื่อมต่อให้สมองกับเราเป็นหนึ่งเดียวกัน
2. เปิดซีดีเสียงสวดมนต์ที่มีในเล่ม ฟังเสียงของครูบาอาจารย์ จะคล้ายเสียงดนตรี
3. สวดเลียนแบบเสียงเหล่านั้น โดยเปิดหนังสือประกอบ
4. สวดโดยไม่ต้องเปิดหนังสือ จนกระทั่งเสียงสวดมนต์เข้ามาอยู่ในหัวใจของเรา เมื่อความถี่ของเสียงเท่ากับความถี่ของหัวใจ ซึ่งหัวใจมีพลังมากกว่าสมอง 5,000 เท่า หัวใจจะสื่อไปสมอง แล้วสมองจะสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับเราเอง” :: Report by FLASH
Comments are closed.