Dining Out

อิ่มเอมกับ 2 in 1 ทั้งเป็ดโฟร์ซีซั่นส์และติ่มซำ Royal China @ทองหล่อ 10

Pinterest LinkedIn Tumblr


บรรดานักชิมเคยจัด10 อันดับร้านอาหารชื่อดังในมหานครลอนดอนที่ใครไปเที่ยวแล้วจะต้องแวะไปชิมให้ได้เรียกได้ว่าเป็นDestination Restaurant ทีเดียว อย่างน้อย 2 อันดับในนั้นก็มีบรรดาคนไทยและคนเอเชียกระหน่ำไปกินจนกลายเป็นปรากฏการณ์เข้าแถวยาวเหยียดรออยู่หน้าร้านอย่างกับแจกฟรีจนเป็นที่คุ้นตาของนักท่องเที่ยวและชาวลอนดอนนั่น คือร้าน เป็ดย่างร้านโฟร์ซีซันส์และ ติมซำ ร้านRoyal China

บังเอิญว่าร้านโฟร์ ซีซั่นและRoyal China เป็นเจ้าของเดียวกัน เมื่อเห็นว่าคนเอเชียชื่นชอบกันนักหนาจึงนำทั้งสองร้านมาขยายสาขาในแถบเอเชียหลายแห่งด้วยกัน สำหรับเมืองไทยนั้นก็ไม่มีโอกาสลิ้มลองกับเขาเหมือนกันคือเมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมาทายาทเจ้าของร้านได้ร่วมทุนกับหนุ่มนักการเงินปริญญ์ พานิชภักดิ์ เปิดร้านเป็ดโฟร์ ซีซันส์สาขาแรกในเมืองไทยที่ห้างสยามพารากอน ปรากฏว่าได้รับการตอบรับจากเหล่านักชิมคนไทยอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง จนต้องเปิดอีกแห่งที่ห้างเมกกะ บางนา

และล่าสุดเมื่อประมาณเกือบปีนี้เองก็เปิดสาขาใหม่ล่าสุดที่ทองหล่อซอย 10 โดยใช้ชื่อยาวเหมือนมหากาพย์ว่า “ Four Seasons Royal China London – Bangkok since 1990 “ แต่ที่แตกต่างจากที่อื่น ๆ คือ ที่สาขานี้จะมีทั้งเมนูทุกอย่างที่ขายอยู่ในมหานครลอนดอนของร้านเป็ดโฟร์ซีซั่นส์และติ่มซำทุกอย่างของร้าน Royal China ซึ่งถือว่าเป็นสาขาแรกของโลกที่บริการเมนู 2 in 1 ซึ่งลูกค้าไม่ต้องเสียเวลาไปกินถึงกล 2 ร้าน เพราะมาร้านนี้ก็เลือกกินทั้งเป็ดและติมซำได้อย่างสบาย ๆ
แต่ยังเป็นที่กังขาว่าจะอร่อยเหมือนที่ลอนดอนหรืเปล่า? เพื่อรักษามาตรฐานของร้านชื่อดังจึงได้นำเชฟจีนที่ประจำอยู่ในร้านที่ลอนดอน 2 คนย้ายมาประจำอยู่ที่นี่เพื่อรับประกันทั้งสูตรและกรรมวิธีในการปรุงที่จะได้มาตรฐานเดียวกันลอนดอน

เป็ดโฟร์ ซีซั่นส์อันเลื่องชื่อที่หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทมส์ มาชิมแล้วยกย่องให้เป็นเป็ดย่างที่อร่อยที่สุดในโลก “The Best Roast Duck in the World” มีเบื้องหลังที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เริ่มด้วยการสรรหาสายพันธุ์เป็ดที่จะนำมาย่าง การหมักด้วยเครื่องเทศสูตรลับ ความพิถีพิถันในการย่าง และ “น้ำซอส” ที่ราดบนตัวเป็ด ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นการค้นคว้าจากเจ้าของร้านซึ่งเป็นชาวจีน จนกลายเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร
สำหรับสาขาที่เมืองไทยนอกจากจะสั่งเป็ดสดมาทำแล้ว ยังลงทุนฟาร์มปิดเลี้ยงเป็ดที่นำเข้าสายพันธุ์เดียวกับที่ฮ่องกงมาเลี้ยงที่เมืองไทยอีกด้วย คุณภาพเป็ดที่ได้นั้นเมื่อนำมาย่างแล้วเนื้อแน่นไม่ผิดเพี้ยนไปจากลอนดอน รสชาติยังคงความหอมของเครื่องเทศ รวมทั้งน้ำจิ้มที่ค่อนไปทางหวาน สนนราคาทั้งตัว 1,180 บาท ครึ่งตัว 650 บาท หรือถ้าสั่งเป็นจานเล็ก 380 บาท

เมนูเป็ดอีกเมนูหนึ่งที่หลายคนชื่นชอบคือ อโรเมติก ดั๊ค ใช้เป็ดตัวเดียวกับที่นำมาย่าง แต่เหมือนเป็ดพะโลทอดกรอบทั้งเนื้อและหนัง ให้กลิ่นหอมมาก เวลากินจะใช้เนื้อเป็ดห่อกับแป้งเป็นแผ่น ๆ ใส่แตงกวาและต้นหอม ราดด้วยซอสปรุงรส เหมือนกินเป็ดปักกิ่งแต่หอมอร่อยกว่า
อีก 2 เมนูที่ขึ้นคือ หมูกรอบ (270 บาท) ที่หนังบางและแทบจะไม่มีมันเลย กินได้อย่างสบายใจไม่ต้องกลัวอ้วน และหมูแดง(270 บาท)เนื้อใสน่ากินมาก เคี้ยวแล้วเนื้อนุ่มมีกลิ่นหอมหวานของเครื่องเทศ

ส่วนเมนูติมซำของRoyal China ลอนดอน ก็ได้รางวัล The Best Restaurant ประเภทติมซำอยู่หลายปีทีเดียว เมนูแนะนำคือ ขนมจีบ ฮะเก๋า กัดเข้าไปจะสัมผัสเนื้อกุ้งที่สดเด้งให้รสหวานหอม , ซาลาเปาไส้ครีมลาวา, พายหมูแดง , ก๋วยเตี๋ยวหลอด , เสี่ยงหลงเปา ,พัฟหมูแดง , เสี่ยวหลงเปาเนื้อปู , ทอดมันปลาหมึก , ปอเปียะกุ้งกระเทียม และขนมผักกาดทอดที่ผู้เขียนว่าอร่อยที่สุดเท่าที่เคยกินมา เพราะกัดลงไปจะได้กลิ่นหอมของหัวไช้เท้า ยิ่งได้ทอดโดนน้ำมันจะเพิ่มความหอมอร่อยยิ่งขึ้น ฯลฯ.
บรรยากาศของร้านนี้ตกแต่งแบบโมเดิร์นไชนีส มีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง โดยมีถึง 250 ที่นั่ง มีห้องวีไอพี 5 ห้อง ไม่ต้องเล่นเก้าอี้ดนตรีเหมือนสยามพารากอน เปิดบริการตั้งแต่ 11.00 – 22.00 น. สนใจจะไปลิ้มลองเมนูระดับThe Best Restaurant โทรสำรองที่นั่งได้ที่ 02-392-6212




ข้อมูล      “ Four Seasons Royal China London – Bangkok since 1990 “
ที่ตั้ง       ชั้น 2 @ ทองหล่อ 10 ถนนสุขุมวิท 55 แขวงคลองตันเหนือ
โทร.       02-392-6212
ภาพโดย ชาติกล้า สำเนียงแจ่ม

Comments are closed.

Pin It