Art Eye View

ใบหน้าแห่ง “ความหวัง” ของ เฮนรี่ ลามี่

Pinterest LinkedIn Tumblr


ART EYE VIEW—หลังจากเลื่อนวันเปิดนิทรรศการแสดงผลงานศิลปะครั้งแรกในเมืองไทยมาระยะหนึ่ง

เวลานี้ผลงานศิลปะของ เฮนรี่ ลามี่ ศิลปินชาวฝรั่งเศสวัย 28 ปี พร้อมแล้วที่จะเปิดแสดงให้ผู้สนใจได้ชม ณ สองสถานที่ในกรุงเทพฯ คือ โรมแรม Sofitel So Bangkok และ Modern Gallery




ความน่าสนใจในผลงานของเฮนรี่ คือการเป็นศิลปินที่รักจะถ่ายทอดภาพใบหน้าบุคคล (Portrait) ผ่านผลงาน โดยใช้เกรียงเป็นอุปกรณ์หลักในการสร้างสรรค์ผลงานส่วนใหญ่

เริ่มจากการฝึกฝนฝีมือวาดภาพการ์ตูนเมื่ออายุ 3 ขวบ โดยได้รับการสนับสนุนจากพ่อซึ่งเป็นศิลปิน ขยับมาสู่การวาดภาพใบหน้าบุคคลต่างๆ

มาจนถึงปัจจุบันนี้ เฮนรี่ได้มีโอกาสวาดภาพใบหน้าบุคคลดังมาแล้วมากมาย รวมไปถึง นักร้องชื่อดังระดับโลก Joss Stone และ Jimmy Cliff และล่าสุดเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เฮนรี่ได้รับเชิญให้ไปวาดภาพนักร้องและศิลปินทั้งหมดในเทศกาลดนตรีและศิลปะ Malasimbo ที่ฟิลิปปินส์

ซึ่งเหตุผลที่ทำให้เขาชอบวาดภาพใบหน้าบุคคลก็เพราะว่าใบหน้าคือส่วนที่สามารถถ่ายทอดอารมณ์ของคนแต่ละคนออกมาได้อย่างแจ่มชัด

สำหรับเฮนรี่แล้วความรู้สึกในเวลาที่วาดภาพใบหน้าบุคคลที่คุ้นเคยหรือที่เพิ่งรู้จัก แทบไม่แตกต่างกัน

“เพราะเราทุกคนก็เป็นมนุษย์เหมือนกัน มีทั้งความกลัว มีทั้งความหวัง หรือในขณะที่มีเรื่องราวอะไรหลายๆอย่างในชีวิต ก็ยังมีส่วนที่มองโลกในแง่บวก พวกเรามีสิ่งเหล่านี้เหมือนๆกัน”

Lamy = เพื่อน

แต่หากถามว่าเขามีความประทับใจมากเป็นพิเศษ กับใบหน้าของบุคคลใดที่เขาได้มีโอกาสวาด ถ้าไม่นับรวมใบหน้าของคนรัก

เฮนรี่ตอบว่ามีอยู่ 2 คน คนแรกคือ Jimmy Cliff เพราะตอนที่วาดได้มีโอกาสได้เจอแบบ ได้คุยกัน แบบตัวต่อตัว

และเหมือนมีออร่า หรือพลังงานบางอย่างที่ส่งออกมาจากตัวของนักร้องดังระดับโลกคนนี้ ที่ทำให้เฮนรี่สัมผัสและรับรู้ได้ว่า ผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดา

และคนที่สองคือ เป้ – อารักษ์ อมรศุภศิริ นักแสดง นายแบบ และนักดนตรีชาวไทย ที่ก่อนหน้านี้เคยถูกรับเชิญให้มาเป็นแบบให้เฮนรี่วาดภาพสด เพื่อประชาสัมพันธ์การจัดนิทรรศการแสดงผลงานครั้งแรกในเมืองไทยครั้งนี้ของเฮนรี่

แม้ว่าทั้งเฮนรี่และเป้จะมีโอกาสที่จะได้เจอกัน ที่ร้านกาแฟ แค่ 10 นาทีเท่านั้น ก่อนที่จะวาดภาพ แต่ทั้งคู่กลับรู้สึกคลิกกันได้รวดเร็วมาก

และเมื่อได้ทำความรู้จักกันแล้ว เฮนรี่ก็ยิ่งรู้สึกว่าเป้เป็นคนน่ารักและติดดินมาก สำหรับเขา

จนถึงตอนนี้ทั้งคู่ก็ยังติดต่อไปมาหาสู่กันอยู่ และเป้ได้พาเฮนรี่ไปเที่ยว พร้อมทั้งแนะนำให้รู้จักกับเพื่อนใหม่ในเมืองไทย ซึ่งตัวเฮนรี่เองนั้นยินดีที่จะได้ทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่และได้มีเพื่อนอยู่ในทุกประเทศที่เขาเดินทางไปอยู่แล้ว

อีกทั้งนามสกุล “ลามี่” ของเขาก็ยังแปลว่า “เพื่อน” อีกด้วย


ใบหน้าแห่ง “ความหวัง”

ขณะนี้เฮนรี่ใช้ชีวิตเป็นศิลปินอิสระอยู่ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เป็นหลัก

เคยจัดแสดงผลงานมาแล้วในหลายสถานที่และหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็น เมืองลียง บ้านเกิดของเขา,ปารีส, เอ็กซ์อองโปรวองซ์, ปัวตีเย, นิวยอร์ก ฮ่องกง, โตเกีย,ว โยโกฮาม่า,ปักกิ่ง, นานกิง, สิงคโปร์, มะนิลา

และก่อนที่จะมีนิทรรศการแสดงผลงานที่ เซาโปโล ประเทศบราซิล นิทรรศการแสดงผลงานที่เมืองไทยของเฮนรี่ ในเมืองไทยในครั้งนี้ ซึ่งถูกให้ชื่อว่า HOPE หรือ ความหวัง

เพราะเฮนรี่ต้องการสื่อสารพลังในด้านบวกที่มีในตัวเขาออกไป รวมไปถึงพลังในด้านบวกที่เขาได้รับแรงบันดาลใจจากผู้คนและสิ่งต่างๆในประเทศไทย และได้สร้างสรรค์ผลงานออกมาเป็นภาพใบหน้าของเด็ก,บุคคล และรูปเคารพ ซึ่งเป็นเสมือนสัญลักษณ์แทนความหวัง หรือสิ่งที่คนไทยเคารพรักและศรัทธา

โดยผลงานในส่วนนี้จะจัดแสดงให้ชม ระหว่างวันที่ 25 มิถุนายน – 30 สิงหาคม พ.ศ.2557 ณ Modern Gallery ศูนย์การค้าโอพี การ์เด้น ถ. เจริญกรุง 36 และมีงานเปิดนิทรรศการในวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ.2557 เวลา 18.00 น.

เฮนรี่บอกด้วยว่า ตอนที่เขามาเมืองไทยครั้งแรก ขณะที่พักอยู่ในห้องพักของโรงแรม และได้เปิดไปเจอทีวีช่องหนึ่งซึ่งถ่ายทอดเกี่ยวกับ พระธรรมเทศนาของ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน

แม้เขาจะไม่ใช่นักบวช ไม่ได้นับถือศาสนาพุทธ และไม่สามารถเข้าใจในเนื้อหาของพระธรรมเทศนา แต่จากการได้ชมภาพของผู้คนที่มานั่งฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตามหาบัว และเป็นการฉายภาพเดิมซ้ำๆ ต่อเนื่องกันเป็นเวลาหลายวัน

เฮนรี่บอกว่าเขาสัมผัสได้ถึงความเป็นที่พึ่งและความเป็นที่เคารพศรัทธาของหลวงตาที่มีต่อผู้คน

จึงทำให้เขารู้สึกอินกับศาสนาพุทธ จนวาดเป็นภาพพระพักตร์ของพระพุทธรูปออกมา รวมไปถึงภาพรูปเคารพอื่นๆและภาพใบหน้าของบุคคลต่างๆที่เป็นเสมือนความหวังและที่พี่งของคนไทยหลายๆคน

ขณะที่ภาพวาดอีกส่วนหนึ่งจำนวน 4 ภาพและมีขนาดใหญ่ ได้แก่ ภาพเจ้าแม่กวนอิม,ภาพเด็ก รวมไปถึงภาพมุมมองจากโรงแรม Sofitel So Bangkok ไปยังสวนลุมพินี  และจากสวนลุมพินีมายังโรงแรมฯและหมู่ตึกใกล้ๆกัน

จะถูกจัดแสดงให้ชมระหว่างวันที่ 25 มิถุนายน – 31 กรกฎาคม 2557 ณ โรงแรม Sofitel So Bangkok ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานแถลงข่าวการจัดนิทรรศการแสดงผลงานครั้งแรกในเมืองไทยของเขา พร้อมได้นำภาพวาดทั้ง 4 ภาพออกมาให้ชมเป็นครั้งแรก

รวมไปถึงได้สร้างความประหลาดใจให้กับผู้ไปร่วมงานแถลงข่าว ด้วยการขอ “มายา” แฟนสาวลูกครึ่งฟิลิปปินส์ฝรั่งเศสแต่งงาน (หลังจากที่คิดมานานเป็นปีแต่ยังไม่รู้ว่าที่ไหนดี)

ด้วยเหตุผลที่เฮนรี่บอกว่า ถือเป็นช่วงเวลาที่ “พลังงานดีๆมาชุมนุมกัน”

ได้แก่ กำลังอยู่ในประเทศที่ทำให้เขารู้สึกดีและได้รับแรงบันดาลใจหลายอย่างในการสร้างสรรค์ผลงาน,ได้รับการสนับสนุนจากแกลเลอรี่ในเมืองไทยให้สร้างสรรค์ผลงานชุดนี้ขึ้นมาจนมีนิทรรศการจัดแสดง,เป็นวันแถลงข่าวเพื่อบอกให้ผู้สนใจ ไปชมผลงานของเขา

และเมื่อมองผ่านกระจกออกไปนอกโรงแรม ยังแอบเห็นบางสัญลักษณ์คล้ายกากบาท

พลันเปลี่ยนรูปร่างกลายเป็นรูปหัวใจ

Text : อ้อย ป้อมสุวรรณ Photo : ปวริศร์ แพงราช











ส่งข่าวสารงานศิลปะร่วมสมัย มาได้ที่ ข่าว ART EYE VIEW ของ www.astvmanager.com และ ART EYE VIEW เซกชัน Lite ในหนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ Email: thinksea@hotmail.com

และคลิกเป็น แฟนเพจ ได้ที่ http://www.facebook.com/arteyeviewnews

Comments are closed.

Pin It