Advice

ฮอร์โมนป่วน-คุมอาหารเกิน ..ปัจจัยสำคัญเกิดสิว

Pinterest LinkedIn Tumblr

By Lady Manager

สาวเราจำนวนไม่น้อย มีปัญหาสิวเป็นประจำ แถมยังเกิดได้ง่าย แค่เจอฝุ่นนิด อาการเปลี่ยนแปลงหน่อย ก็สิวเห่อเต็มหน้า แม้จะทายาทานยา สารพัดวิธีก็ไม่หายขาด สิวเจ้ากรรมยังวนเวียน โผล่มาสกัดความงามอยู่เป็นประจำ

“เรื่องของฮอร์โมน (hormone) ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญมากของการเกิดสิว ซึ่งการที่ผู้หญิงในปัจจุบันสิวเยอะขึ้น ต้องบอกเลยว่า เหตุผลหนึ่งที่พบคือ ความเครียดต่างๆ ทั้งการใช้งานผิวหนัก, ความเครียด, การพักผ่อนน้อย ทุกอย่างล้วนมีผลกับผิว และทำให้การควบคุมรักษาสิวมีผลด้วย

การรักษาสิวหลักๆ ส่วนใหญ่จะทำโดยการให้ทายาก่อนในขั้นต้น แต่เราพบว่ามีคน 60-70% ที่ทายาแล้วรู้สึกว่าเอาอยู่ แต่คนอีก 30-40% เหมือนเขาหยุดยาไม่ได้เลย พอหยุดเมื่อไหร่ สิวก็กลับมาเป็นอีก กลุ่มนี้คือ สิวที่เกิดจากการมีปัจจัยกระตุ้นจากภายใน แต่บังเอิญเขายังไม่ทราบสาเหตุ” นพ.สมบูรณ์ รุ่งพรชัยAmerican Board Anti-Aging Medicine แพทย์ประจำ Apex Profound Beauty อธิบายถึงต้นตอของปัญหาสิว ที่เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย โดยเฉพาะจากปัจจัยภายในร่างกายของตัวเอง

คุณหมอว่า สิวที่เกิดจากการแพ้ภายนอก เช่น แพ้ฝุ่น ควัน หรือเครื่องสำอางนั้น ถือเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ แต่หากระบบภูมิคุ้มกันภายในร่างกายคุณแข็งแรง สิวก็ไม่สามารถมาบุกได้ง่ายๆ หรอกจ้า

“ในความจริงแล้ว เรื่องฝุ่นละอองก็ทำให้เกิดสิวได้ แต่เป็นส่วนน้อย เพราะจริงๆ แล้ว ผิวเราควรจะมีสารเคลือบปกป้องผิวที่ดี แต่ถ้าผิวสูญเสียความสมดุลในร่างกายไปปุ๊บ ผิวเราก็จะไวต่อสิ่งกระตุ้นมากกว่าที่ควรจะเป็น เช่น บางคนแพ้เหงื่อแพ้ฝุ่นละออง แต่พอมาคิดดูว่าบ้านก็มีฝุ่นเยอะมาตั้งแต่เด็ก ก็ไม่เห็นเป็นอะไร ไม่เห็นแพ้เลย ทำไมเพิ่งมาเป็นตอนอายุเยอะแล้ว ดังนั้นปัจจัยภายในนี่หล่ะที่เป็นตัวกระตุ้น”
ฮอร์โมนเปลี่ยน – ลดความอ้วน – ได้รับสารปนเปื้อน ปัจจัยสำคัญทำคุณเป็นสิว

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องผิว อธิบายต่อถึงกลไกภายในร่างกาย ที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดสิวได้

“ปัจจัยจากภายในที่กระตุ้นสิวได้ มีกลไก 3 ประการ อย่างแรกคือ ในผู้หญิงที่ฮอร์โมนจะมีการทำงานเป็นรอบเดือน ซึ่งพบว่า ฮอร์โมนที่ควบคุมประจำเดือนของผู้หญิง สัมพันธ์กับเรื่องการตอบสนองความเครียดด้วย ฉะนั้นเวลาที่ผู้หญิงเครียดมากๆ ไม่ว่าจะเครียดจากอารมณ์ หรือเครียดทางกาย เช่น พักผ่อนน้อย เดินทางเยอะ ต้องอ่านหนังสือหนัก หรือแม้แต่งานบางประเภทที่นอนไม่เป็นเวลา ทานข้าวไม่เป็นเวลา อันนี้ร่างกายถือว่าเครียดหมดเลย

และพอเครียดปุ๊บ ร่างกายจะดึงพลังในการผลิตฮอร์โมนส่วนหนึ่งไป เพื่อให้เราจัดการกับความเครียดได้ เราจะได้ไม่รู้สึกอ่อนแอ ซึ่งการที่ร่างกายต้องดึงพลังงานส่วนนี้ไป ทำให้เกิดการขาดความสมดุลด้านฮอร์โมนเพศ เมื่อฮอร์โมนไม่สมดุล ก็เกิดเป็นสิวขึ้นมา

ประเด็นที่สองคือ ปัจจัยเรื่องของการขาดความสมดุลในด้านโภชนา ปัจจุบันเราพบว่า คุณผู้หญิงส่วนใหญ่ หรือแม้แต่เด็กผู้ชายก็ตาม เวลาที่เขากลัวอ้วน หรือควบคุมน้ำหนักนานๆ เขาก็จะกินอาหารไขมันต่ำ (Low fat) ซึ่งเวลาที่กินอาหารไขมันต่ำ มันทำให้มีความเสี่ยงที่จะขาดสารอาหารบางประเภทมากขึ้น โดยเฉพาะวิตามินที่สำคัญต่อเรื่องผิว เช่นวิตามินดี (Vitamin D) วิตามินเอ (Vitamin A) เมื่อร่างกายไม่มีไขมัน เราก็ดูดซึมวิตามินเอวิตามินดีที่มีอยู่ในผักผลไม้เข้าสู่ร่างกายไม่ได้ เพราะฉะนั้นในระยะยาว ผิวจะอ่อนแอ และเซนซิทีฟมาก”

ต่อมาคือเรื่องของ การเป็นภูมิแพ้ เพราะปัจจุบันเราพบสารพิษจากสิ่งแวดล้อมรอบตัวเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นภาชนะที่บรรจุอาหารทั้งพลาสติก, โฟม ที่เราใส่อาหารร้อนๆ บางทีก็มีสารเคมีปนเปื้อนเข้ามา ซึ่งสารเหล่านี้เข้ามากวนการทำงานของฮอร์โมนด้วย ทำให้ผู้หญิงบางคนมีอาการผิดปกติก่อนเป็นรอบเดือน เช่นเป็นสิวก่อนมีรอบเดือน เมื่อก่อนไม่เคยเป็นสิวก่อนมีรอบเดือนแต่ระยะหลังเป็น หรือพวกสารเคมี, สารปรุงแต่ง ที่ผสมในอาหารสำเร็จรูป บางครั้งเราเผลอไปทานอาหารสำเร็จรูปมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะมองในแง่ความสะดวกสบาย ซึ่งมันแตกต่างจากวิถีชีวิตในอดีต ฉะนั้นปัจจัย 3 ประการนี้แหละ ที่ทำให้ปัจจุบันผู้หญิงเป็นสิวกันมากขึ้น”
สร้างสมดุลให้ร่างกาย แนวทางรักษาสิวที่ต้นตอ !

“วิธีการรักษาสิว เราต้องสังเกตตัวเองก่อนว่า ปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวทั้ง 3 อย่างที่หมอพูดไปเราลดได้หรือยัง อย่างความเครียด ดูก่อนสิว่าเราจัดการกับความเครียดได้หรือเปล่า ลองเลี่ยงอาหารที่เรารู้ว่ามันมีสารปนเปื้อน หรือใช้สารเคมีปรุงแต่งไปก่อน รวมถึงพยายามหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีรอบตัว เช่น ผม หากไม่จำเป็นก็อาจจะใช้สิ่งเติมแต่งใช้น้อยลง ใช้แค่แชมพูอย่างเดียวก็พอ หรือลดการใช้น้ำหอมไปก่อน นั่นคือ ระยะที่ 1 ให้ลดปัจจัยกระตุ้นด้วยตัวเองก่อน”

ทว่าหากลดสารพัดปัจจัยกระตุ้นแล้ว สิวก็ยังเห่อเต็มหน้า การมาพบแพทย์เพื่อตรวจวิเคราะห์ ก็เป็นหนทางช่วยปรับสมดุลให้ร่างกายคุณได้ โดยขั้นตอนการคืนสมดุลก็ไล่เรียงตั้งแต่ตรวจสภาพผิวตรวจร่างกาย ไปจนถึงเจาะเลือดตรวจวัดระดับฮอร์โมน

“ในขั้นแรกคือ การตรวจสภาพผิว เพราะ 1 ใน 3 ของคนที่เป็นสิว แล้วมาหาหมอ เป็นภูมิแพ้เป็นผื่นเรื้อรัง แต่ไม่เคยรักษา พอผื่นมันอยู่ไปนานๆ ก็ทำให้ผิวมันเสียภูมิต้านทาน ทำให้สิวเกิดขึ้นมา ฉะนั้นการรักษาก็คือต้องรักษาทั้งสิว และผื่นด้วย ฉะนั้นการตรวจสภาพผิวจึงมีความจำเป็น อันที่ 2 ตำแหน่งการเกิดสิว ก็สามารถจะเดาได้ เช่น ขึ้นแต่บริเวณรอบหน้า อันนี้หมอก็จะเดาว่า ต้องสัมผัสกับโทรศัพท์เยอะหรือเปล่า ชอบเอามือมาลูบผมหรือเปล่า

และก่อนจะมาถึงขั้นตรวจเลือดนั้น ในความจริงต้องบอกเลยว่า เรื่องสิวต้องเป็นเรื้อรังจริงๆ เราถึงจะให้เจาะตรวจเลือด เราจะพยายามให้ใช้วิธีหลบเลี่ยงปัจจัยต่างๆ ไปก่อน แต่ถ้าสุดท้ายแล้วไม่หาย และอาการชัดเจนมากเลย เช่น ชอบเป็นสิวเวลาอดนอน หรือเป็นเวลาก่อนที่ประจำเดือนจะมา อันนี้เราก็เดาได้แล้วว่า น่าจะเกี่ยวกับฮอร์โมน ซึ่งคุณหมอบางท่านก็อาจจะแนะนำให้ทานฮอร์โมนไปเลย แต่โดยส่วนตัวผมมองว่า การตรวจก่อนน่าจะดีกว่า เพราะการทานฮอร์โมน มันอาจสะสมอยู่ในร่างกาย และเราก็ไม่มั่นใจว่า มันจะไปสะสมอยู่ในตับหรือเปล่า

อย่างที่เอเพคฯ เอง นอกจากเราจะตรวจเรื่องของฮอร์โมนแล้ว เราก็จะดูในเรื่องของการสะสมของเสียของผิว และในร่างกายด้วย หากเจอว่า มีของเสียค้างอยู่ในร่างกาย เราก็จะแนะนำโปรแกรม ที่ช่วยล้างสารพิษออกจากร่างกาย หรือดีท๊อกซ์ (detox) เพื่อลดการสะสมของเสียในร่างกายก่อน ซึ่งหลายรายเราพบว่า การชำระของเสียแบบนี้ ดีกว่าที่เราจะไปเริ่มรักษาโดยไม่ได้ทำความสะอาดร่างกายก่อน เพราะบางทีแค่เอาของเสียออกจากร่างกาย อาจจะไม่ต้องปรับฮอร์โมนสิวก็หายแล้ว

เพราะบางคนที่ทำดีท็อกซ์ สิ่งที่ได้ ไม่ใช่แค่ล้างพิษ แต่ทุกคนจะเริ่มตระหนักว่า จริงๆ แล้ว เราควรที่จะเลิกใส่ของที่ไม่ดีเข้าไปในร่างกาย เวลาคนมาทำดีท็อกซ์ก็จะได้คุยกับหมอ คุยกับพยาบาลที่มาทำ ก็จะมีการพูดคุย แลกเปลี่ยนประสบการณ์ต่างๆ ทำให้ทราบได้ว่าจริงๆ แล้วการรักษาสิวมีเทคนิคที่ไม่ยากเลย เพียงแค่เราจะเริ่มใส่ใจกับชีวิตประจำวันให้มากขึ้นเท่านั้นเอง”

ท้ายสุด แพทย์ประจำ Apex Profound Beauty ให้คำแนะนำการดูแลรักษาสิวให้ตรงจุดแบบง่ายๆ และทำได้ด้วยตัวเองมาว่า

“เริ่มแรกต้องดูก่อนว่า ปัจจัยภายนอกที่ทำให้เกิดสิวเรามีหรือเปล่า ถ้ามีก็ต้องกำจัดออกไปเสียก่อน เช่น เครื่องสำอางที่ใช้อยู่มีอะไรที่เกินความจำเป็นหรือเปล่า เช่น เครื่องหอม น้ำหอม เหล่านี้กระตุ้นให้เกิดสิวได้เยอะมาก เพราะมีไอระเหย, มีกลิ่นแรง หรือคนที่ชอบเปลี่ยนกลิ่นจนเกินความจำเป็น แบบนี้ก็ไม่ดี สำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องสิว เราแนะนำว่า ใช้อะไรแล้วดี ก็ใช้อย่างนั้นไปแหละ อย่าไปเปลี่ยนบ่อยๆ

ต่อมาคือ การดูแลจากภายใน ก็พยายามลดการสะสมของเสีย ทานอาหารที่มีผักผลไม้เยอะๆ ซึ่งมีสรรพคุณในการขับของเสียออกจากร่างกาย รวมทั้งพยายามไม่เครียด และควรออกกำลังกายสม่ำเสมอ” คุณหมอสมบูรณ์ ให้คำแนะนำปิดท้าย

>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่  http://www.celeb-online.net

Comments are closed.

Pin It