Advice

ฉลาดอัพสวย! ตามให้ทันเทคโนโลยี หยั่งรู้ข้อดี-ข้อเสีย ก่อนตัดสินใจเสียตังค์

Pinterest LinkedIn Tumblr

By Lady Manager

ผู้หญิงกับความสวยเป็นของคู่กัน ไม่ว่าจะเป็นยุคสมัยไหน ผู้หญิงไม่เคยหยุดสวย สมัยก่อนอาจใช้ระยะเวลานานกว่าจะสวยได้ดั่งใจ แต่สำหรับผู้หญิงสมัยนี้มีหลากหลายเทคโนโลยีมาช่วยอัพความสวยแบบทันใจ

อยากลบฝ้ากระเลเซอร์ช่วยได้ ริ้วรอยหางตาแก้ไขด้วยโบท็อกซ์ (Botox) เสริมดั้งสวยต้องฟิลเลอร์(Filler) ยกหน้าให้กระชับต้องร้อยไหม หรืออยากมีหน้า V shape แบบสาวเกาหลี จะแบบไหนเทคโนโลยีสมัยใหม่ก็ช่วยได้ แต่กว่าจะสวยเป๊ะลงตัว ก็ต้องยอมเจ็บตัวบ้าง หรืออาจเสี่ยงกับผลข้างเคียง

ดังนั้นนอกจากจะตามเทคโนโลยีให้ทันแล้ว เราต้องรู้ให้ทันด้วยว่าเทคโนโลยีแต่ละแบบมีข้อดี ข้อเสีย หรือข้อจำกัด อะไรบ้างเพื่อเลือกให้เหมาะกับตนเอง

ในงานสัมมนาของไลฟ์เซ็นเตอร์ หมอบอนด์- นพ. ปิยะวงศ์ เศรษฐวงศ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจาก Skeyndor Clinic ได้ให้ข้อแนะนำเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีเสริมความสวยว่า ควรศึกษาหาข้อมูลของเทคโนโลยีแต่ละแบบว่ามีข้อดี ข้อเสียอะไรบ้าง เพื่อประกอบการตัดสินใจ

เพราะแต่ละคนมีโครงหน้าไม่เหมือนกันวิธีการที่ใช้ในแต่ละคนจึงไม่เหมือนกัน การเสริมความงามจึงไม่มีสูตรสำเร็จถือเป็นศิลปะในการออกแบบความงามเฉพาะบุคคล การใช้เทคโนโลยีจึงแตกต่างกันไป เราจึงควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และคำนึงถึงอุปกรณ์ – สารต่างๆ ที่ฉีดเข้าร่างกายที่ได้มาตรฐานสากล เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ เราต้องเข้าใจในเทคโนโลยีต่างๆ ก่อนว่าแต่ละแบบเป็นอย่างไร


คุณหมอจึงได้ให้ข้อมูลเปรียบเทียบข้อดี – ข้อเสียของเทคโนโลยียอดฮิต ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันอย่างคร่าวๆ

“ต้องนึกถึงปัญหาของคนไข้เป็นหลัก ไม่มีเทคโนโลยีใดใช้เฉพาะเจาะจงในแต่ละท่าน เรื่องของความหย่อนคล้อย สิว ฝ้า กระ ริ้วรอยต่างๆ เราก็เหมือนช่างตัดเสื้อที่จะมีวิธีการแก้ไขต่างกันไป ไม่มีอะไรที่พิเศษฉีดไปครั้งเดียวแล้วสวยเลย

ทว่า ปัจจุบันที่แพทย์กำลังทำวิจัยอยู่และได้รับผลตอบรับจากทั่วโลกดีที่สุด ณ ขณะนี้ คือสเต็มเซลล์ แต่ในเมืองไทยยังไม่ผ่าน อย. พวกคนดัง ดารา นักร้อง ก็นิยมทำ เพราะทำแล้วทำให้ยังดูหนุ่มดูสาว ดูมีแรงสามารถทำอะไรได้มากมาย

พวกเขาจะบินไปรักษาสเต็มเซลล์ที่สวิตเซอร์แลนด์ หรือเยอรมัน ส่วนค่ารักษาราวๆ 1 ล้านบาท นักวิทยาศาสตร์พิสูจน์แล้วว่าดีมาก แต่ยังไม่สามารถนำวิธีการมารักษาในเมืองไทยได้” คุณหมอปิยะวงศ์ กล่าว

โบท็อกซ์ลดริ้วรอย ปรับหน้าวี เสริมจมูกไม่ได้

“ส่วนที่เหมาะกับการฉีดโบท็อกซ์ คือหน้าผาก ตีนกา โบท็อกซ์จะตอบโจทย์ได้ดีมาก เจ็บน้อย ราคาไม่แพง อยู่ได้นาน และในส่วนของคนกรามใหญ่ปรับรูปหน้าเป็น V Shape ก็สามารถฉีดโบท็อกซ์ได้

ลองกัดฟันแล้วเอามือจับดูจะมีก้อนเนื้อเล็กๆปูดขึ้นมา ถ้ามีเยอะยิ่งรักษาด้วยโบท็อกซ์ได้ดี กล้ามเนื้อของการกัด บดคี้ยวอาหาร ยิ่งเคี้ยวเยอะ เคี้ยวหมากฝรั่ง เคี้ยวข้าวเหนียว มันจะใหญ่ขึ้นๆ หน้าก็จะไม่เรียวได้รูป จะดูเหลี่ยม โบท็อกซ์ทำให้กล้ามเนื้อมัดเล็กยุบได้ ส่วนไหนที่กัดแล้วปูดขึ้นมา ฉีดปุ้บหายได้ หน้าเรียวได้รูปมากขึ้น


ข้อดี ของโบท็อกซ์ นั้นค่อนข้างจะปลอดภัยมาก ผลข้างเคียงมีแต่ถ้าแพทย์ที่ได้รับการอบรมและเทรนเป็นอย่างดี แต่หากเป็นคนที่ไม่ใช่แพทย์ฉีดแล้วคอนโทรลไม่ได้ กระจาย ปัญหาของคนไข้ที่ฉีดโบท็อกซ์แล้วมีปัญหาหางตาตก อาจจะเป็นปัญหาของผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้คุณภาพ เพราะปัจจุบันนี้โบท็อกซ์ผลิตจากหลายประเทศ ต้องใช้ของได้มาตรฐาน ต้องพิจารณาระดับมาตรฐานของโบท็อกซ์ด้วย


หัวใจของการฉีดโบท็อกซ์สำหรับผู้บริโภคต้องคำนึงคุณภาพไม่ใช่ราคา เพราะปัจจุบันธุรกิจคลินิกเสริมความงามเยอะขึ้น มีการตัดราคากัน เพราะเดี๋ยวนี้จะมีพวกดีล เอ็นโซโก้ ถ้าคุณจ่าย 399 บาทได้โบท็อกซ์ 100 ยูนิต เป็นต้น ต้องดูว่าเค้าฉีดอะไรเข้าไปให้


โบท็อกซ์อยู่ได้ 6 เดือน หากโดนแสงยูวีเยอะ หรือซาวน่า สตรีม เลเซอร์ อาจจะสลายเร็วได้ 6 เดือนฉีดซ้ำ แต่ถ้าคนไข้ฉีดปุ้บไปอยู่เมืองนอกในเมืองหนาว อาจอยู่ได้ถึงปีครึ่ง

ข้อดีของโบท็อกซ์ คือ ปลอดภัย เห็นผลดีกับริ้วรอยช่วงบนของหน้า (Upper Face) ฉีดง่ายมากไม่เกิน 10 -15 นาทีเสร็จแล้ว
โดยเฉพาะบริเวณริ้วรอยช่วงบนของหน้าช่วยทำให้หน้าได้รูปทรงวีเชฟ

ข้อเสีย คือ เจ็บ แก้ปัญหาบางอย่างไม่ได้ เช่น เสริมจมูกไม่ได้ แก้ร่องแก้มได้ไม่ดีเท่าฟิลเลอร์กับร้อยไหม โบท็อกซ์เหมาะกับการแก้ไขริ้วรอยช่วงบนของหน้า ตีนกา ถุงใต้ตา หน้าผาก และลดกรามได้ดี และยังใช้ทำหน้า V – Shape ได้ดีอีกด้วย

สำหรับจมูกไม่ค่อยได้ผล แต่อาจจะได้ผลบ้าง เช่นฉีดลดปีกจมูกให้เล็กลง แต่ผมว่าโบท็อกซ์กับจมูกไม่ค่อยเวิร์กเท่าไหร่”

ร้อยไหมหน้าตึงเห็นผลเร็ว แต่เจ็บ เสียว เขียวช้ำ

มาถึงการร้อยไหมที่ตอนนี้ฮิตกันทั่วบ้านทั่วเมือง คุณหมอบอนด์ บอกว่า

“การร้อยไหม เหมาะกับการยกหางตาขึ้น คิ้วตกหน่อยหนึ่งยกขึ้น แก้ม ใต้คาง หรือเหนียง วิธีของการร้อยไหมคือจะลงลึกเข้าไปถึงผิวหนังชั้นบน ชั้นล่าง พร้อมกับเซลล์ไขมัน แพทย์จะเอาไหมเบอร์เล็กจิ๋วเลย เล็กขนาดเอาไปเย็บลิ้นหัวใจเด็กแรกเกิด เป็นไหมที่ดีที่สุด ละลายหายเกลี้ยง

สำหรับ ไหมทองคำ เราไม่ค่อยแนะนำ เพราะผลที่ได้รับไหมจะไม่ค่อยละลายยังเป็นเส้นอยู่ แต่ไหมที่ละลายเกลี้ยงพอเราร้อยปุ้บจะละลายหายไปเลย หน้าจะเนียนเรียบ วิธีคือเราจะร้อยไปจากชั้นบนมาชั้นล่าง เกี่ยวไขมันขึ้นมาด้วย ขึ้นไปเกี่ยวกับผิวหนังชั้นบนอีกรอบ


หลังจากการร้อยไหมเห็นผลทันที 60% เพราะคอนเซปต์ไหมคล้ายๆด้ายเย็บผ้าเย็บเสร็จแล้วดึงก็จะตึง ร้อยเสร็จแล้วขึ้นเลย มองกระจกเสร็จจะเห็นเลยว่าตึงขึ้น และไหมที่เราร้อยเข้าไปที่บอกว่าละลายเกลี้ยง


ส่วนไหมจะละลายได้อย่างไรนั้น เป็นอย่างนี้ครับ จะมีเม็ดเลือดขาวเข้ามากินไหมที่เราร้อยเข้าไป จากนั้นจะเรียกคอลลาเจนเข้ามา ทำให้เกิดแนวคอลลาเจนตามธรรมชาติตามแนวไหมที่เราร้อยเข้าไปแนวคอลลาเจนจะขึ้นเหมือนดาข่าย ยกเป็นแผง


การร้อยไหมมีหลายเทคนิค ขึ้นอยู่กับแพทย์ว่าจะเชี่ยวชาญด้านเทคนิคไหน


ข้อดีของการร้อยไหมคือเร็วมาก 15 นาทีก็เสร็จแล้ว อยากได้กี่ส่วนก็เสร็จ ไม่ต้องเตรียมตัวมากมาย ถ้าไม่ได้มีโรคประจำตัวอะไร ไม่ได้กินยาต้านการเกร็ดตัวการแข็งตัวของเลือด ยาแอสไพริน ก็สามารถทำได้เลย แต่ถ้าทานยาอยู่ต้องปรึกษาแพทย์ก่อน


ผลอยู่ได้ 1 ปีการันตี อาจจะได้มากกว่านั้นถ้าเราไม่เจอความร้อน ถ้าโดนแดดในชีวิตประจำวันได้ หลังจากร้อยไหมภายใน 2-3 เดือน จะเกิดคอลลาเจนธรรมชาติขึ้นมา ไหมละลายเกลี้ยงเดือนที่ 4 เป็นต้นไปจะเป็นคอลลาเจนธรรมชาติเกิดขึ้น จากนั้นก็เหี่ยวลงตามธรรมชาติของเรา ค่อยๆลงมาตามธรรมชาติของผิวที่โดนแสงยูวี เพราะแสงแดดเป็นตัวการของริ้วรอย จุดด่างดำ อย่างไรก็ตามเราต้องเลี่ยงแสงยูวีให้ได้มากที่สุด ดังนั้นจึงต้องครีมกันแดดทุกๆ 2-3 ชั่วโมง

สามารถทำให้เป็นรูปทรง V – Shape ได้สวย แต่ถ้าจำเป็นต้องเข้าห้องอบซาวน่าต้องหลังจากร้อยไหมไปแล้ว 2 เดือน ให้ไหมเซ็ทตัวให้มีคอลลาเจนธรรมชาติมาเกาะตัวเป็นตาข่ายก่อน หลังจากนั้นโดนความร้อนได้ก็จะไม่มีผลมาก หากเราร้อยไหมเสร็จแล้วเข้าห้องอบเลยไหมที่เราร้อยไว้จะละลายเกลี้ยงเลย เสียดาย

ข้อเสีย เจ็บ แต่ไม่ได้เจ็บมากจนทนไม่ได้ เพราะอย่างไรก็ตามเราจะมียาชาทา ถ้าชาไม่พอฉีดยาชาเพิ่มได้อีก เรื่องของเจ็บเราคอนโทรลได้ อย่างไรก็ตามเมื่อร้อยไหมลงไปในชั้นผิวหนังอาจจะมีรอยเขียวช้ำได้ แต่งหน้าปิดได้

ส่วนคุณภาพของไหมนั้นเหมือนกับโบท็อกซ์ คือมีไหมตั้งแต่ราคาเส้นละ 1 บาท 4 บาท ยัน 1 พันบาท ไหมที่ไม่ได้คุณภาพจะไม่ละลายจับตัวเป็นก้อน มีหนองขึ้นตามไหม เราต้องดูคุณภาพของไหมด้วย เราต้องศึกษาไหมยี่ห้ออะไร รุ่นอะไรเพื่อความปลอดภัยของคนไข้เอง


หลังจากร้อยไหมหน้าจะบวมขึ้นเล็กน้อยเพราะการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อ แต่หลังจากยุบบวมแล้วมันจะมีตัวไหมอยู่ซึ่งเพิ่มวอลลูมและสร้างคอลลาเจนมา ยกกระชับขึ้น จะอยู่ได้ 1 ปี แต่ถ้าจะเกิน 1 ปี ก็ขึ้นอยู่กับผิวของคนไข้ อาจจะไม่กลับมาหย่อนคล้อยเหมือนเดิมแน่นอน และทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับฝีมือหมอแต่ละท่านด้วย เพราะเทคนิคฝีมือต่างกัน

ร้อยไหม ข้อดี คือ เห็นผลเร็ว แก้ปัญหารูปทรงหน้าได้ดี ข้อเสีย คือ เจ็บ มีรอยเขียวช้ำราวสามวัน เหมาะกับ การแก้ไขคางสองชั้น ร่องแก้ม แก้มย้อย หรือทำหน้า V – Shape ได้ดี

ผมขอย้ำว่าควรคิดถึงคุณภาพก่อนราคาเป็นหลัก เพราะถ้าเป็นคลินิกที่มีจรรยาบรรณแพทย์ของที่ใช้จะเป็นของที่ได้มาตรฐานแต่คลินิกเถื่อนหรือคนที่ไม่ใช่แพทย์ หลายๆท่านเป็นแค่ช่างเสริมสวย ผู้ช่วยแพทย์ แม่ค้าขายเสื้อผ้าในตลาดนัด ลองฉีดๆดู จากนั้นก็เปิดร้านเลย คนไข้จึงต้องคำนึงถึงคุณภาพมากกว่าราคาครับ”

ฟิลเลอร์ปั้นดั้งโด่ง ฉีดคางสวย แต่ระวังไหลย้อย!

มาถึงฟิลเลอร์ (Filler) คุณหมอ กล่าวถึงกรณีพริตตี้ที่เสียชีวิตจากการฉีดฟิลเลอร์ว่า

“จากวงการแพทย์ที่คุยกันในเรื่องของพริตตี้ฉีดฟิลเลอร์แล้วเสียชีวิตนั้น สาเหตุที่เป็นไปได้คือ เรื่องของคุณภาพของฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไป ปกติเราฉีดปุ้บเราจะรู้ว่ากระจายไปที่ไหนบ้าง แต่คนที่ฉีดเอาของไม่ดีมาใช้มันก็กระจายเข้าไปในกระแสเลือด ลองนึกภาพดูการกระจายตัวของฟิลเลอร์ที่ไม่ได้คุณภาพจะเหมือนมีก้อนพลาสติกพุ่งเข้าไปอุดหัวใจ หรืออุดสมอง ทำให้เสียชีวิตได้ ต้องขอแสดงความเสียใจด้วยครับ


สาวๆนิยมมาฉีดฟิลเลอร์กันมากคือจมูก ยคอนเซปต์ของฟิลเลอร์ ง่ายๆเลยคือเหมือน ดินน้ำมัน เติม ปั้นแต่งได้หมด หรือบางคนแก้มตอบมาก ฟิลเลอร์เติมเต็มด้วย สุดท้ายคือคาง


ข้อดีคือฉีดเร็ว 15 นาทีสวยเลย คอนเซปต์ของแพทย์แต่ละคนแตกต่างกัน คอนเซปต์ของผมคือเติมน้อยๆ ค่อยๆไปไม่พอค่อยเติม ดีกว่าฉีดมากไปแล้วเอาออกไม่ได้ สัปดาห์ หรือสองสัปดาห์หากยังไม่พอเติมอีกนิดนึง จนกว่าพอใจ ดีกว่าฉีดมากไปจมูกบวมใหญ่โต แล้วเอาออกไม่ได้

อยากเพิ่มจมูก เพิ่มคาง เพิ่มแก้ม ฟิลเลอร์ตอบโจทย์ได้ดี

ข้อเสียคือ คุณภาพของฟิลเลอร์ที่ไม่ได้คุณภาพนั้นจะทำให้หน้าผิดรูป มันไม่ได้คุณภาพขนาดที่บางคลินิกซื้อฟิลเลอร์มาเป็นแกลลอนแล้วเทใส่กะละมังซักผ้า เอาก็เอาสารชนิดอื่นใส่ลงไป กวนๆ จากนั้นเอามาฉีดจมูก ราคาถูกแต่คุณภาพแย่มาก

ผลข้างเคียงของการฉีดถ้าไม่ได้คุณภาพมันจะไหล สัปดาห์แรกก็สวยดีเป็นรูปทรง จากนั้นไหล บางคนฉีดเสร็จกลับบ้านนอนไหลขึ้นไปจะไปปูดตรงส่วนอื่นเลย มีคนไข้หลายคนมาปรึกษา วิธีแก้ก็ต้องเจ็บมาก ต้องขูด เอาเนื้อส่วนนั้นออก บางทีก็ออกไม่หมด ต้องมาขูดอีกหลายครั้ง


แต่ก็มีข้อเสีย คือ เจ็บ และถ้าใช้ฟิลเลอร์ไม่ได้มาตรฐาน อาจเกิดผลแทรกซ้อนได้ เช่น ฟิลเลอร์ผิดรูป ซึ่งฟิลเลอร์จะเหมาะกับการเสริมจมูก เสริมร่องแก้ม หรือเสริมแก้มตอบได้ดี” คุณหมอปิยวงศ์ กล่าว

อยากสวยแบบฉลาดลองศึกษาข้อมูลให้ดีค่ะ ว่าเราเหมาะกับเทคโนโลยีแบบไหน เพราะความสวยแบบเสี่ยงมันต้องแลกมาด้วยความเจ็บกาย บางครั้งถึงกับเจ็บใจกันเลยทีเดียวหากเสียตังค์แต่ออกมาไม่สวยซะงั้น

>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่  http://www.celeb-online.net

Comments are closed.

Pin It