Advice

เปิดใจคุณจี๋ ผู้ป่วยมะเร็งที่สวยเปรี้ยวสดใสที่สุดในสามโลก

Pinterest LinkedIn Tumblr

By Lady Manager

วันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน ใกล้จะถึงนี้ จะมีงาน “ปาฏิหาริย์-เปลี่ยนมะเร็ง-ให้เป็นสุข : Miracle is all AROUND ครั้งที่ 2” ณ หอประชุมเมืองไทยประกันชีวิต จัดโดย ชมรมโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองแห่งประเทศไทย

ซึ่งในระหว่างก่อนถึงงาน เฟซบุ๊คเพจของชมรมฯ ทะยอยโพสต์ทั้งรูปและข้อความจากผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ทั้งที่เคยเป็นและกำลังเผชิญ…

นอกจากเพื่อแชร์ประสบการณ์แล้ว ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ป่วยท่านอื่นๆ ญาติ เพื่อน รวมทั้งสังคมได้รับรู้เข้าใจผู้ป่วยและโรคมะเร็งชนิดนี้อย่างถูกต้อง


ทางชมรมฯ ขอให้เขียนเรื่องไป ตอนแรกยังคิดในใจ ฉันยังเอาตัวเองไม่รู้จะรอดหรือเปล่า จะสร้างแรงบันดาลใจให้ใครได้เหรอ แต่ก็เขียนไปค่ะ ว่าเราเป็นอย่างนี้ พอลงไปปุ๊บ โห ไม่น่าเชื่อ เราสร้างแรงบันดาลใจให้คนเยอะขนาดนั้นเชียวเหรอ

คุณจี๋-จิตรลดา ทรัพย์สุข สาววัย 35 ปี ป่วยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ชนิด Non-Hodgkin / DLBCL เธอแตกต่างจากผู้ป่วยท่านอื่นๆ ด้วยภาพถ่ายตัวเองในลุคสาวเปรี้ยวโล้นซ่า ถึงหัวล้าน ก็แต่งหน้าแต่งตัวสวมแว่นดำ เก๋เท่ห์ราวนางแบบ ไม่เหมือนคนป่วยที่ร่างภายในกำลังถูกมะเร็งคุกคาม

ครั้นพออ่านข้อความที่เธอเขียนแชร์ประสบการณ์ ก็รู้สึกได้ถึง inner ของคนมีสติ สดชื่น มีพลัง มองโลกในแง่ดี ที่สำคัญ มีกำลังใจดีเยี่ยม ยอดคนไลค์โพสต์ของเธอทะลุเกิน 2 หมื่นกว่าภายในระยะเวลาอันสั้น และแชร์ต่อถึง 6 พันกว่า

เลดี้ แมเนเจอร์ ขอสัมภาษณ์คุณจี๋ด่วนจี๋ และขอนำมาถ่ายทอดให้ท่านผู้อ่านตรงๆ ล้วนๆ แล้วท่านจะรู้สึกชื่นชมกับทัศนคติ วิธีคิดวิธีการใช้ชีวิตต่อสู่กับโรคร้ายของเธอ

สถานการณ์การรักษามะเร็งตอนนี้เป็นอย่างไร

“ตอนนี้จบคอร์สการรักษาแล้ว ทั้งเคมีบำบัด 8 ครั้ง ฉายรังสี 23 ครั้ง เมื่อเมษายนที่ผ่านมา โชคดีที่ถึงทุกวันนี้ไม่มีอาการแทรกซ้อนใดๆ ช่วงนี้ก็คือ รอ

วันที่ 18 กันยายน ศกนี้ จะไปฟังผล คือ ถ้าผลออกมาดี ก็ไม่ได้พูดว่า ‘หาย’ ใช้คำว่า ‘สงบลง’ ต้องดูต่อไปอีก 5 ปี ถ้าเกิน 5 ปีแล้ว ไม่มาอีก แสดงว่ามันหาย

แต่ถ้าผลออกมาไม่ดี ก็มีก๊อกสอง ใช้สเต็มเซลล์ (อีกนวัตกรรมในการรักษามะเร็ง กรณีทำเคมีบำบัดฉายรังสีใช้ยาแล้วไม่ได้ผล)”

รู้ตัวว่าเป็นมะเร็งเมื่อไร และรู้ได้อย่างไร

“กลางปีที่แล้วค่ะ รู้สึกว่าคัน คันตัวก่อน ก็คิดว่าเป็นภูมิแพ้หรือเปล่า เพราะปกติเป็นหวัดบ่อยๆ กินยาแก้แพ้ ก็ไม่หาย กลับยิ่งคันมากขึ้น รู้สึกไม่ไหวแล้ว และมีอาการไอด้วย เลยไปเอ็กซเรย์ปอดช่วงอก หมอเห็นเป็นก้อนตรงอกช่วงระหว่างปอด หมอบอกมันผิดปกตินะ อยากให้ไปทำ CT scan (ตรวจหาความผิดปกติอวัยวะต่างๆ ในร่างกายด้วยลำแสงเอกซ์) เพื่อดูให้ละเอียดกว่านี้ว่ามันคืออะไร

หลังจากนั้นไปทำ CT scan ออกมาก้อนใหญ่เท่านี้ แต่ยังบอกไม่ได้ว่าเป็นก้อนอะไร หมอบอกถ้าอยากรู้ต้องเจาะชิ้นเนื้อไปตรวจ ก็เจาะไปตรวจ ปรากฏแจ็คพอต (พูดแบบหัวเราะ) คุณเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ระยะ2”

ณ วินาทีนั้น รู้สึกอย่างไร

“รู้สึกตกใจมาก ไม่คิดว่าตัวเองจะเป็น เพราะใช้ชีวิตประจำวันปกติ ไม่รู้เลยว่าเราไม่สบายข้างใน พออยู่ๆ มา คุณเป็นมะเร็ง ก็ยังคิดในใจ..จริงหรือเปล่าเนี้ย คือ ไม่เห็นมีอาการอะไรเลย นอกจากคันกับไอ”

ถามหมอไหมว่าสาเหตุคืออะไร

“ถามค่ะ ถามหมอว่าเป็นได้ยังไง หมอบอกหมอก็ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร หมอบอกมันไม่ได้มีสาเหตุมาจากอะไรเลย บางคนสุขภาพดีออกกำลังกายแต่เป็น..ก็มี มันเกิดขึ้นได้กับทุกคน

หมอบอกคำเดียวว่า ‘ซวย’ (หัวเราะ) ก็โอเค ถ้าหมอตอบแบบนี้ ก็จบ อย่าไปถามเลยว่าทำไม”

รู้สึกกลัวตายไหมคะ

ไม่รู้สึกเลยว่าจะตาย เพราะว่าทุกอย่างยังปกติ ยังเดินไปหาหมอได้ ยังทำอะไรได้ปกติทุกอย่าง มีแต่คิดต่อไปเลยว่าแล้วจะไปหาหมอไหนที่รักษาโรคนี้

มีคนแนะนำอะไรมาเยอะ สมุนไพรไหม แต่โดยส่วนตัวกับสามีกับที่บ้านมั่นใจ ว่าวิทยาศาสตร์น่าจะถูกทางกับเรามากกว่า

และหาข้อมูลความรู้เรื่องโรคนี้ อ่านทางอินเตอร์เน็ตทั้งไทย ทั้งฝรั่ง ถามหมอด้วย”
ภาพคุณจี๋และสามีตอนแต่งงานเมื่อ 8 ปีที่แล้ว และก่อนรู้ตัวว่าร่างกายภายในเป็นมะเร็ง
พอเริ่มทำการรักษา ต้องเผชิญกับอาการข้างเคียงอะไรบ้าง

“ให้ยาปุ๊บ พุ่งเลย อาเจียนครั้งแรกและครั้งเดียว หลังจากนั้นก็ไม่มี คุณหมอเตรียมยากันเวียนมาให้ด้วย แต่ก็ไม่ได้ทาน เพราะไม่มีอาการคลื่นไส้ แค่มึนๆ ให้ยาปุ๊บ สามวันแรกนอนซมเลย ไม่สามารถทำอะไรเลย

มีอาการแพ้ ทานยาแล้วมีอาการเจ็บปากเจ็บลิ้นเวลาเคี้ยว ทำให้เวลากินอาหารลำบากหน่อย แต่ก็ไม่หนักถึงขนาดปากเป็นแผลพุพอง หมอบอกก่อนแล้วว่ารักษาความสะอาดทางช่องปากด้วย อย่าไปกินอะไรเผ็ดๆ อย่าไปทำให้มันแผล เพราะเดี๋ยวจะทรมานกว่านี้”

และเรื่องผมร่วงล่ะคะ มาเมื่อไร เตรียมรับมืออย่างไร

ตอนให้ยาครั้งแรก บอกหมอขอตัวแรง หมอบอกงั้นต้อง 5 วันติด ก็แอดมิดไปเลย 5 วัน ตอนให้ยาก็ปกติ มีร้อนๆ หนาวๆ บ้าง แต่ตอนนั้นผมยังไม่ร่วง ตอนนั้นยังรู้สึกธรรมดาอยู่ ให้ยาเสร็จกลับมาบ้านอาทิตย์แรก ดึงผมดู ก็ยังไม่ร่วง แต่พออาทิตย์ที่สอง แค่เสยผม มันก็ร่วงออกมาเลย ยังบอกตัวเอง เออ มาแล้ว ผมร่วงแล้ว

สามีโกนหัวให้เลย ก็ดีค่ะ อย่างน้อยแสดงว่า สามีเรารับได้

จริงๆ เราก็เตรียมใจไว้แล้ว เห็นทุกคนที่เป็นจะต้องผมร่วง แต่ทีนี้พอให้เคมีบำบัดไปแล้ว ผิวพรรณเปลี่ยน คล้ำขึ้น ผมร่วงอีก ตายแล้ว ดูไม่ได้เลย รับตัวเองไม่ได้

แต่คุณจี๋เป็นผู้ป่วยที่สวยสดใสมาก เอาแรงบันดาลใจลุกขึ้นมาฮึดแต่งเนื้อแต่งตัวจากไหน

ใช้วิธีตามดูอินสตราแกรมของพวกฝรั่ง เป็นแรงบันดาลใจอย่างดี ฝรั่งที่เค้าเป็นมะเร็ง เค้าใช้ชีวิตแฮปปี้มากๆ เหมือนเค้าเป็นหวัดธรรมดา บางคนไม่มีผม ผมร่วงไป เค้ายังไปเพ้นท์หัวเค้า เออเฮ้ย แปลกดี หรือบางทีใส่วิกเป็นสี ไปปาร์ตี้หรืออยู่บ้านก็แต่ง ถ้าเหนื่อยก็ไม่ต้อง แต่ถ้าวันไหน คุณมีแรงก็ลุกขึ้นมา อย่าปล่อยตัวโทรม

คนไทยไม่กล้าบอกใครว่าฉันเป็นมะเร็ง ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม เราจะหาข้อมูลคนไทยที่เป็นมะเร็งไม่ค่อยเจอ เลยต้องตามดูพวกเมืองนอก

เห็นคุณจี๋มีวิกผมเยอะมาก ดูสนุกสนานกับการใส่วิกหลากหลายทรง

ก่อนรู้ว่าผมต้องร่วงแน่ๆ แม่พาไปซื้อวิกเลย ตอนแรกซื้อไว้แค่ 2 ทรง แต่พอนานๆ เข้า มันเริ่มเบื่อ เดี๋ยวนี้วิกหาง่าย ในเน็ตก็มีขาย ราคาไม่แพงมาก ลองสั่งทางเน็ตดู ใส่สวยไม่สวยไม่รู้ สั่งมาก่อน ทำให้มีอะไรทำ สดชื่นขึ้น

พยายาม พยายาม พยายามหาอะไรทำ ถามว่าเหนื่อยไหม เหนื่อยนะ เขียนคิ้วไป มือสั่น ก็ฝืนนะ แต่มันต้องได้สิ มันต้องทำได้ เหนื่อยก็พัก เขียนข้างหนึ่งเสร็จพักก่อน

วิธีการคิดของเรามันช่วยได้ อย่าไปหมกมุ่นกับมันมาก ถ้าเรามีแรง เรายังใช้ชีวิตอย่างที่เราเคยทำได้ตอนปกติ เราก็ทำ และทำงานตามปกติ มีร้านกาแฟและอพาร์ทเมนท์ โชคดีหน่อย ไม่ต้องทำงานที่ต้องออกไปนอกบ้าน

การใช้ชีวิตเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง

“หมอบอกกินได้ทุกอย่าง เน้นใหม่ สุก สะอาด จากเดิมก่อนป่วย ของโปรดคือ ส้มตำปูปลาร้า ต้องขออำลาโดยสิ้นเชิง จัดระบบ สร้างวินัยการบริโภคใหม่ ซึ่งแต่ละวัน งานน้ำผักปั่นต้องมา งานข้าวกล้องต้องมี ไข่ขาวขาดไม่ได้ พร้อมกับข้าว ปรุงใหม่ทุกมื้อ ไม่ค้างคืน ใช้น้ำมันมะพร้าวแทนน้ำมันพืช แต่ก็มีมื้อเอ็นเตอร์เทนนอกบ้านบ้าง สักสองอาทิตย์ครั้ง เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ จะได้เจริญอาหาร

พยายามหลีกเลี่ยงที่ชุมชน อย่าง ห้างสรรพสินค้า คือ ใจลอยไปห้างฯ แล้วแต่ขาเดินไม่ไหว และไม่ควรไป เพราะเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย ช่วงให้ยาอาทิตย์แรกต้องเก็บตัวเลย อย่าออกมาจากห้อง หรือว่าอยู่แต่ในบ้าน เลี่ยงสถานที่มีคนเยอะๆ

ตอนนี้ออกข้างนอกได้บ้าง แต่ถ้าไกลๆ ยังกลัวอยู่ ไปต่างต่างจังหวัดได้ แต่ต้องดูว่ามีโรงพยาบาลหรือเปล่า เกิดอะไรขึ้นมา จะได้ทัน”

มีอารมณ์เหวี่ยงด้วยใช่ไหมคะ

“มีเหวี่ยงๆ บ้าง เพราะไม่สบายตัว ไม่มีแรง และตลอดเวลาช่วงให้ยา ประจำเดือนไม่มา พอประจำเดือนไม่มาอาจมีส่วนทำให้หงุดหงิด ฮอร์โมนเปลี่ยน (หัวเราะ) คนใกล้ชิดต้องเห็นใจหน่อย”
พอเส้นผมคุณจี๋เริ่มขึ้นหลังจากการรักษามะเร็ง 10 เดือน สามีก็ตัดผมทรงเดียวกับเธอ
ดูสามีคุณจี๋เข้าใจและคอยอยู่เคียงข้างมาก

ค่ะ ตอนหลังเริ่มผมขึ้น เขาก็ตัดทรง upper cut บอกตัดเป็นเพื่อนกัน

แต่งงานมายังไม่มีลูก ตั้งใจว่าจะมีไหมคะ

“ถ้าหายขาด ก็มีโอกาสมี แต่หมอบอกรอสักพักนะ ทิ้งช่วงหน่อย เพราะยายังค้างอยู่ที่ตัวเราเยอะ รอไปอีก 5 ปี

จริงๆ แล้ว คุยกับหมอแต่แรกเลย ฝากไข่ไว้ดีไหมก่อนให้ยาครั้งแรก หมอส่ายหัวเลย บอกไม่ต้องหรอก ถ้ารักษาไปแล้ว อยากมีค่อยว่ากัน หมอบอกแค่นี้ร่างกายก็เจ็บช้ำพอแล้ว เอาตัวให้รอดก่อน แล้วค่อยมีลูก”

หมอคอมเม้นท์คนไข้คุณจี๋คนนี้ว่าอย่างไรบ้าง

หมอบอก เออ กำลังใจดีนะ และทุกครั้งที่ไปเจอหมอ เราแต่งตัวให้สดชื่น และพยายามเดินเข้าไปเจอหมอเอง ไม่นั่งรถเข็น

ทุกครั้งหมอจะไล่ให้ออกไปทำอะไรที่สบายใจ หมอบอกดูหนังฟังเพลงให้สบายใจ อย่าไปเครียด อย่าไปโทรม

หมอยังบอกด้วยว่าโรคนี้รักษาด้วยยาและด้วยใจของคนไข้เอง

มะเร็งทำร้ายร่างกายเธอได้ แต่ไม่อาจบั่นทอนจิตใจของเธอได้

ขอให้คุณจี๋หายขาดจากมะเร็งร้ายนี้ไวๆ ด้วยค่ะ

ขอบคุณ ภาพจาก FB: Jejy Subsuk
* ช่วยคลิก Like ด้วยนะคะ เพื่อเป็นแฟนเพจ Lady Manager รับข่าวสารแซ่บๆ ของผู้หญิงในแวดวงสุขภาพความงาม แฟชั่น และความสัมพันธ์ (**)

 
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่  http://www.celeb-online.net

Comments are closed.

Pin It