คอลัมน์ Sexociety โดย Dr.DEN
ชีววิทยาทางเพศตอนสุดท้ายครับ
เพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน
เมื่อคุณเป็นหวัด ปฏิกิริยาแรกของคุณน่าจะเป็นการละเว้นจากการมีเซ็กซ์ เพื่อให้ร่างกายได้รับการพักผ่อนมากขึ้น แต่จากจุดยืนทางกายภาพ เซ็กซ์ดีต่อสุขภาพของคุณ
ว่าไปแล้ว มันก็คือการออกกำลังกายอีกรูปแบบหนึ่ง แต่มันยังประโยชน์สำหรับคุณอีกอย่างหนึ่งซึ่งก็คือ มันจะช่วยยกระดับของ igA ซึ่งเป็นสารแอนตีบอดีที่พบในน้ำเมือกของคุณซึ่งฆ่าเชื้อไข้หวัด ในกรณีส่วนใหญ่ igA เป็นดัชนีชี้วัดที่ดีของสุขภาพระบบภูมิคุ้มกัน คุณมี igA มากเท่าไหร่ ระบบภูมิคุ้มกันของคุณก็แข็งแรงมากขึ้นเท่านั้น
เมื่อทีมวิจัยทีมหนึ่งทดสอบกับนักศึกษามหาวิทยาลัยกลุ่มหนึ่งในปี 1999 พวกเขาก็พบว่าคนที่มีเซ็กซ์อย่างน้อยสัปดาห์ละสองครั้ง มีระดับ igA ที่สูงขึ้นในระบบของพวกเขา ทีมวิจัยดังกล่าวได้ข้อสรุปว่าคนที่เปิดเผยตัวเองต่อเชื้อโรคชนิดต่างๆ ที่คนอื่นเป็นพาหะ คนเหล่านี้ก็กำลังสร้างภูมิคุ้มกันต่อไวรัสและแบคทีเรียอยู่เป็นประจำ คล้ายๆ กับเด็กที่กินดินกลายเป็นเด็กที่มีสุขภาพดีกว่า
ในทางกลับกัน นักศึกษาที่ไม่ได้มีการสัมผัสอย่างใกล้ชิดทางเพศ มีการป้องกันทางชีววิทยาน้อยกว่า เพราะร่างกายของพวกเขาไม่ได้เปิดรับเชื้อโรคต่างๆ ของคนอื่น ประการสุดท้าย การมีเซ็กซ์มากเกินไป (สามครั้งต่อสัปดาห์หรือมากกว่า) จะทำให้จำนวนigAลดลงสู่ระดับของคนที่ไม่มีเซ็กซ์
สรุปว่าการมีเซ็กซ์ส่งผลดีต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย แต่ต้องอยู่ในความพอดี ไม่มากเกินไปหรือน้อยเกินไป แค่สัปดาห์ละสองครั้งถือว่าดีที่สุด
ลดความเสี่ยงการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก
แม้ว่าการมีเซ็กซ์มากเกินไปอาจไม่ช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันของคุณ แต่มันอาจลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากของคุณได้เป็นอย่างดี ตามปกติมะเร็งต่อมลูกหมากจะเกิดขึ้นในผู้ชายที่มีอายุมากกว่า 45 ปี และตรวจพบมากที่สุดในผู้ชายวัยประมาณ 70
จากการศึกษาอย่างกว้างขวางเป็นเวลา 8 ปีซึ่งติดตามอาการของผู้ชาย 30,000 คน สถาบันมะเร็งแห่งชาติสหรัฐฯพบว่าผู้ชายที่มีเซ็กซ์อย่างน้อย 21 ครั้งต่อเดือน มีแนวโน้มว่าจะเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากน้อยกว่าผู้ชายที่มีเซ็กซ์โดยเฉลี่ย 4-5 ครั้งต่อเดือน ระหว่างช่วงเวลาของการศึกษาครั้งนี้มีผู้เกี่ยวข้อง 1,500 คนที่เป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก
แม้ว่าจะมีผลลัพธ์อันชัดเจน แต่คณะวิจัยไม่แน่ใจว่าเหตุใดการหลั่งน้ำกามบ่อยๆ จึงมีผลกระทบมะเร็งต่อมลูกหมาก หนึ่งในทฤษฎีหลักก็คือ มันเป็นการเปิดเส้นทางไว้ตลอดและป้องกันมิให้มีการก่อตัวของเชื้อมะเร็งในต่อมลูกหมาก ดังที่นักวิจัยที่มหาวิทยาลัย จอห์นส์ ฮอพกินส์ กล่าวไว้ว่าสิ่งที่ถูกปล่อยออกมาจาก “บ้านสะอาด” ในต่อมลูกหมาก มันจะชะล้างของเหลวและเนื้อเยื่อที่สามารถกลายเป็นพิษได้
สรุปว่าการหลั่งน้ำกามบ่อยๆ ก็เหมือนกับการล้างท่ออย่างสม่ำเสมอ จึงทำให้สิ่งสกปรกหรือสนิมไม่สามารถติดค้างและเติบโตอยู่ในท่อได้ ซึ่งก็คือ เชื้อมะเร็งต่อมลูกหมากไม่มีโอกาสเติบโตได้นั่นเอง
คนเสียงสูง
ถ้าคุณถูกขอให้จินตนาการถึงความเป็นชาย คุณจะนึกถึงอะไร? กล้ามเนื้อ? หนวดเครา? เสียงทุ้มลึกน่าเกรงขาม? จากการวิจัย ผู้หญิงส่วนใหญ่รู้สึกเหมือนๆ กันเกี่ยวกับสิ่งที่กำหนดความเป็นชายชาตรี ซึ่งเป็นแบบฉบับของผู้ชายที่ผู้หญิงส่วนใหญ่มองหามาเป็นคู่รัก
เสียงทุ้มลึกมันเชื่อมโยงกับระดับเทสโทสเตอโรน (ฮอร์โมนเพศชาย) อย่างแยกกันไม่ออก ซึ่งเกี่ยวข้องกับความแข็งแรงทางกรรมพันธุ์ กล่าวคือ ผู้ชายตัวใหญ่ย่อมเป็นพ่อพันธุ์ที่ดี
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้อาจเป็นหนึ่งในไม่กี่กรณีของร่างกายผู้หญิงที่เข้าใจในสิ่งผิดๆ มันกลายเป็นว่า ผู้ชายที่มีเสียงสูงหรือเล็กแหลมมีศักยภาพทางเซ็กซ์มากกว่า เอกสารฉบับหนึ่งซึ่งตีพิมพ์ในปี 2011 พบว่าแม้ผู้ชายเสียงทุ้มใหญ่จะถูกพิจารณาว่ามีเสน่ห์มากกว่า แต่พวกเขามีความเข้มของตัวอสุจิต่ำกว่าผู้ชายที่ดูมีเสน่ห์น้อยกว่า เพราะมีเสียงกระเดียดไปทางผู้หญิงมากกว่า
เหตุผลของมันก็อาจเนื่องมากจากการแลกเปลี่ยนทางวิวัฒนาการธรรมดาๆ นี่เอง กล่าวคือ ผู้ชายที่ดูเป็นแมนเต็มตัวมีโอกาสสูงกว่าในการผลิตลูก ดังนั้นแต่ละคนจึงไม่ต้องพยายามที่จะเป็นผู้ชนะ เพราะถึงยังไงก็ชนะเห็นๆ อยู่แล้ว (จึงนอนทอดหุ่ยเหมือนกระต่ายซะ)
ส่วนผู้ชายที่มีโอกาสไม่มากนัก(ผู้ชายเสียงเล็ก) จึงจำเป็นต้องทุ่มทุกสิ่งที่มีลงไปในเรื่องเซ็กซ์ เพราะใครจะรู้ล่ะว่าเมื่อไหร่ที่พวกเขาจะได้ยิงนัดต่อไปอีก
สรุปว่าผู้ชายเสียงสูงหรือเล็กแหลมมีความกระตือรือร้นในเรื่องเซ็กซ์มากกว่าผู้ชายเสียงทุ้มใหญ่ เพราะคิดว่าตัวเองมีเสน่ห์น้อยกว่า จึงกลายเป็นเต่าผู้มุมานะ และได้รับชัยชนะในที่สุด
* ช่วยคลิก Like ด้วยนะคะ เพื่อเป็นแฟนเพจ Lady Manager รับข่าวสารแซ่บๆ ของผู้หญิงในแวดวงสุขภาพความงาม แฟชั่น และความสัมพันธ์ (**)
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
Comments are closed.