Guru Talk

กำจัดขนด้วยเลเซอร์ เกลี้ยงเกลาถาวร จริงหรือ!?!

Pinterest LinkedIn Tumblr


เทรนด์ความงามเดี๋ยวนี้ สาวๆ ต้องการมีผิวหมดจด เกลี้ยงเกลา แต่ดันมีขนมาเป็นอุปสรรค บางคนอาศัยวิธีถอน หรือโกน เพราะทำง่ายและสะดวก แต่สิ่งที่ตามมาคือการอักเสบของผิว เกิดเป็นตุ่ม หรือเกิดขนคุด ส่วนใครที่เลือกวิธีการแวกซ์ หรือใช้สารเคมีกำจัดขน ก็เกิดการอักเสบและระคายเคือง สาวๆ เดี๋ยวนี้จึงนิยมไปทำเลเซอร์กำจัดขน ซึ่งหากทำอย่างต่อเนื่องขนบริเวณนั้นๆ ก็จะถูกกำจัดอย่างถาวร

นพ.ธรรมสถิต จันทจิตร์ แห่งยศยาคลินิก กล่าวว่า ปัจจุบันมีการนำเลเซอร์มาใช้เพื่อกำจัดขนซึ่งวิธีนี้ถือว่าได้ผลดี วิธีการคือการเลือกคลื่นแสงที่เหมาะสมหรือ Selective Photothermolysis โดยเลือกช่วงความยาวและความกว้างของคลื่นที่เหมาะสมที่ให้พลังงานเพียงพอไปยังขน

พลังงานจากเลเซอร์จะถูดดูดซึมโดยเม็ดสีเมลานินในต่อมขน ก่อนที่ความร้อนจะกระจายออกไปเพื่อทำลายขนโดยไม่ส่งผลต่อเนื้อเยื่อข้างเคียง พลังงานเลเซอร์ถูกออกแบบมาให้ทำงานเฉพาะเจาะจงกับเซลส์เม็ดสีในรากขน เมื่อเซลส์รากขนถูกทำลาย ขนก็จะหลุดร่วงไปและไม่ขึ้นใหม่

สำหรับคลื่นแสงในแต่ละความยาวคลื่นก็มีคุณสมบัติและการใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนี้

1.คลื่นแสงที่มีความยาวคลื่น 590-1,200 nm หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ IPL เป็นการใช้แสงความเข้มสูง เครื่องมือนี้เป็นการใช้ไฟแฟลชที่มีตัวกรองแสงเพื่อสร้างแสงมีความยาวคลื่นกับจังหวะการตกกระทบ โดยแสงจะเข้าไปทำลายขน และเพราะ IPL เป็นแสงความเข้มข้นสูงแต่ความยาวของคลื่นสั้นจึงทำให้พลังงานไม่สูงพอจะทำลายรากขนได้ทั้งหมด อาจจะได้ผลบ้างในไรขนอ่อนๆ บางๆ แต่ถ้าขนดกหนา ผลคือขนบางลงและขึ้นช้าแต่จะไม่หายไปทั้งหมด IPL เป็นเครื่องมือที่กำจัดขนได้รวดเร็ว แต่ก็มีข้อควรระวังคือ ต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญเพราะผิวหนังอาจดูดซับพลังงานที่มากเกินไปทำให้ผิวไหม้ได้


2.เลเซอร์ที่มีความยาวคลื่น 800 nm หรือที่เรียกว่า Diode Laser เครื่องมือชนิดนี้ให้พลังงานสูงให้ผลได้ดีกว่า IPL เนื่องจากมีความยาวคลื่นที่เหมาะสม จึงสามารถทำลายลึกถึงรากขน เหมาะสำหรับกำจัดขนบริเวณพื้นที่ใหญ่ๆ เช่น ขนหน้าอก หน้าท้องอย่างไรก็ตามเมื่อใช้กับผู้ที่มีสีผิวเข้ม อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้

เลเซอร์ที่มีความยาวคลื่น 1,064 nm หรือที่เรียกว่า Long Pulse ND-YAG Laser หรือที่คุ้นหูว่าแย๊ก สามารถใช้กำจัดขนได้กับผิวหนังทุกประเภทความเข้ม และด้วยความยาวของคลื่นสูงจึงสามารถทะลุไปยังใต้ผิวหนังชั้นลึกสามารถกำจัดขนได้ลงลึก การดูดซับพลังงานที่ผิวหนังน้อย จึงเกิดประสิทธิภาพในการกำจัดขนได้ดี รวมทั้งมีระบบประคบให้ความเย็นของเครื่องมือยังปกป้องผิวหนัง เหมาะกับทุกสีผิวไม่ว่าสีผิวจะเข้มระดับใดก็ตาม ทั้งผิวขาว ผิวสองสี และผิวคล้ำ


การกำจัดขนด้วยเลเซอร์ Long-Pulse
มีข้อดีอีกอย่างคือ สามารถใช้เลเซอร์สอดเข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อทำลายต่อมเหงื่อ จึงสามารถกำจัดกลิ่นตัวไม่พึงประสงค์ใต้รักแร้ และลดการเกิดเหงื่อได้ด้วย

คุณหมอกล่าวเสริมว่า การใช้เลเซอร์กำจัดขนในครั้งแรก อาจมีขนหลงเหลืออยู่บ้างก็อย่าเพิ่งตกใจ เพราะขนจะเริ่มบางเป็นขนอ่อนลงเรื่อยๆ และหมดไปในที่สุด

ต่างกับวิธีกำจัดขนแบบชั่วคราว ที่เส้นขนจะงอกขึ้นมาใหม่เท่าเดิมอยู่เรื่อย ๆ เพราะรากขนยังไม่ได้ถูกทำลายไป ข้อดีอีกอย่างคือผิวบริเวณที่กำจัดขนจะเรียบเนียน กระชับ และขาวขึ้น เพราะพลังงานเลเซอร์จะไปช่วยกำจัดเซลล์เม็ดสี และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนภายในบริเวณนั้นด้วย

สำหรับจำนวนของการยิงเลเซอร์กำจัดขน กว่าที่ขนจะถูกทำลายไปจนหมดนั้นก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แต่หากมีการทำอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ ปัญหาขนก็จะค่อยๆหมดไปอย่างถาวร โดยปกติอยู่ที่ประมาณ 5-6 ครั้ง ขึ้นอยู่กับขนาดและสภาพเส้นขนแต่ละคน อย่างไรก็ตามการกำจัดขนด้วยเลเซอร์ก็ยังมีข้อควรระวังหรืออาจมีผลข้างเคียงเกิดขึ้นได้เช่นการบวมเป็นรอยแดง แต่จะค่อยๆหายไปเอง
คุณหมอหนุ่มยังฝากข้อคิดเตือนใจว่า ผู้บริโภคจำเป็นต้องรู้เท่าทันก่อนจะจ่ายสตางค์ยิงเลเซอร์กำจัดขน ควรตรวจสอบว่าเครื่องมือที่ใช้เป็นเลเซอร์ประเภทใด เหมาะสมหรือไม่อย่างไรกับสภาพผิวและขนของแต่ละคน เนื่องจากเส้นขนจะมีลักษณะความหนาบาง และสีแตกต่างกันตามเชื้อชาติ สีผิว หรือบริเวณที่เส้นขนขึ้นอยู่ ดังนั้นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้พิจารณาตามความเหมาะสมของแต่ละบุคคล รวมทั้งความสะอาดของเครื่องมือ สถานที่ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลย เพียงเท่านี้ก็สามารถโบกมือลาขนได้เลย

Text by   เอเอสทีวี ผู้จัดการรายวัน: สังคม-สตรี 

 
>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่  http://www.celeb-online.net

Comments are closed.

Pin It