หากแอนนา วินทัวร์ เป็นคนคุมแฟชั่นของโลกตะวันตก ก็คงต้องยกให้ แบงค์-กัลยรัตน์ อัครเดชเดชาชัย เจ้าของธุรกิจความงามอิมเมจินี่ และเดซี่ ดีว่าคลินิก เป็นหนึ่งในผู้นำแฟชั่นของโลกตะวันออก โดยเฉพาะในเมืองไทย เธอเป็นเจ้าของเสื้อผ้าสุดหรูบนรันเวย์ของผู้นำเข้าแบรนด์เนมดัง ค่าย Club 21 เธอเป็นเจ้าของรองเท้ารุ่นสุดเก๋ของ Jimmy Choo ที่มีเพียงไม่กี่คู่ในประเทศไทย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ รุ่นน้อง สุดที่รัก ดาราดังอย่าง อั้ม-พัชราภา และเธอคนนี้เป็นนักสะสมกระเป๋ารุ่นเบอร์กิ้นของแอร์เมส และเป็นคนชวนอั้ม-พัชราภา ถอยกระเป๋าแอร์เมส รุ่นเบอร์กิ้นราคาเกือบ 3 ล้าน เพื่อเป็นการลงทุนโดยเฉพาะ
แต่อย่างเพิ่งสรุปว่า แบงค์-กัลยรัตน์ บ้าแบรนด์เนม เหตุผลที่เธอทุ่มเงินไม่อั้นเพื่อซื้อแบรนด์เนมเฉพาะรุ่นที่หายาก ๆ มาเป็นเจ้าของนั้น ถือเป็น “การลงทุน” ที่คุ้มค่าแถมมีความสุขอีกด้วย
“เมื่อก่อนตัวเองก็ชอบซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมทั่วไป แต่พอซื้อไว้ใช้เรื่อยๆ ก็เก่าเก็บ และบางใบก็ตกรุ่น เศร้านะคะเวลาเห็นกระเป๋าที่เราลงทุนซื้อใช้ เสียไปหรือใช้ไม่ได้แล้ว หลังจากนั้นจึงตัดสินใจเลือกซื้อกระเป๋าที่สามารถเก็บไว้ และยังเพิ่มมูลค่าได้เหมือนการสะสมหรือเป็นการลงทุนชนิดหนึ่ง อย่างกระเป๋าแอร์เมสหนังจระเข้รุ่นเบอร์กิ้น ซึ่งเป็นรุ่นหายาก โดยเฉพาะรุ่นหิมาลายา ซึ่งเป็นรุ่นที่แนะนำให้อั้ม-พัชราภา ซื้อเก็บไว้ด้วย เพราะกระเป๋ารุ่นนี้หายาก มีมูลค่าในตัวเอง จากที่เราเคยซื้อเมื่อหลายปีที่แล้ว ในทุกปีที่ผ่านมาราคาพุ่งเกินกว่า 100% ในระยะเวลาอันสั้น โดยส่วนตัว การเลือกสะสมกระเป๋า Hermes รุ่น Birkin นี้ถือว่าเป็นการลงทุนที่ดี ชนิดหนึ่งค่ะ” แบงก์เผย
การเป็นแฟชั่นนิสต้าวิ่งตามเทรนด์ ใช่ว่าจะเป็นเรื่องไร้สาระเสมอไป เพราะสิ่งที่แบงก์ได้พิสูจน์ให้เห็นนั้น คือการเพิ่มมูลค่าให้สินค้าที่ตัวเองพยายามตามหา กระเป๋าบางใบใช้เวลากว่า 10 ปี และตอนนี้สาวแบงก์ก็มีกระเป๋ารุ่นพิเศษรุ่นนี้ครอบครองอยู่จำนวนหนึ่ง
“กว่าจะได้กระเป๋าหนังจระเข้รุ่นนี้มาซักใบ ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะตอนนี้ต่างชาติ เช่น คนจีนร่ำรวยกันเยอะ และสาวจีนกำลังจดจ้องและอยากจับจองสินค้าของแบรนด์นี้มาก เมื่อก่อนกระเป๋ารุ่นเบอร์กิ้นยังมีจำหน่ายอยู่บ้าง หาไม่ยากขนาดนี้ แต่ตอนนี้หายากมาก โดยทาง Hermes ถือว่ากระเป๋ารุ่นนี้เป็นของกำนัลพิเศษให้แก่ลูกค้าวีไอพีของแบรนด์เท่านั้น ซึ่งต้องเป็นผู้ที่มีการจับจ่ายสินค้าในร้านเป็นประจำ จึงจะได้สิทธิพิเศษในการซื้อกระเป๋ารุ่นนี้ ตอนนี้ต่อให้อยากได้แค่ไหน ก็แทบจะหาไม่ได้แล้วค่ะ”
เมื่อรู้ว่าตัวเองต้องการลงทุนกับกระเป๋าหนังจระเข้แบรนด์ดัง แบงค์ก็เริ่มศึกษาหาข้อมูลถึงหนังจระเข้ รู้ว่าจระเข้พันธุ์ไหนหนังสวย เช่นจระเข้น้ำเค็ม สายพันธ์ Niloticus และ Porosus เนื่องจาก Scale และลวดลายของหนังจระเข้เรียงกันสวยงาม เป็นแนวตรง ผ่านการคัดสรรเป็นอย่างดี ย้อมสีสวยเนียนทุกใบ พอนำมาทำกระเป๋าแล้วจะสวยงามมาก อย่างรุ่นหิมาลายา Himalaya เป็นรุ่นที่ย้อมสี ด้วยเทคนิคพิเศษ (ใบที่อั้มเป็นเจ้าของ)
แบงก์ให้ข้อมูเลพิ่มเติมว่าอย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะเป็นจระเข้สายพันธ์เดียวกัน สีเดียวกัน แต่ด้วยความเป็นธรรมชาติ แต่ละใบจึงมีสีและสเกล (ลวดลาย) ที่แตกต่างกันบางใบสวยมากกว่า บางใบสวยน้อยกว่า บางทีต้องซื้อสีซ้ำๆ แล้วเอามาเลือกใบสวยที่สุดเก็บไว้ ซึ่งสิ่งนี้เอง ที่ทำให้กระเป๋าเบอร์กิ้น ของแอร์เมส เป็นสิ่งที่สาวๆ หลายคนอยาก มีไว้ในครอบครอง
“อยากให้ทุกคน มีมุมมอง ในการเลือกซื้อกระเป๋าราคาแพงๆ ในมุมใหม่ เพราะในบางยี่ห้อ บางรุ่น สามารถเก็บเป็นของสะสมได้ เสมือนการลงทุน สามารถเก็บยาวเป็นสมบัติแก่ลูกหลานได้ เช่น Hermes Birkin ที่มีแบบเดียว ไม่เปลี่ยน ไม่มียุคสมัย นำมาใช้ได้ตลอด เราไม่ได้ซื้อเพราะความฟุ่มเฟือย แต่เราฉลาดที่จะเลือกสะสมแอคเซสเซอรีที่มีมูลค่าเพิ่ม หากเทียบกันแล้วก็คงเหมือนผู้ที่เลือกสะสมภาพวาดจากศิลปินดัง หรือเหมือนกับหนุ่มๆ ที่ชอบสะสมนาฬิกาเพื่อการลงทุน เพียงแต่คุณต้องศึกษารายละเอียดของกระเป๋าพวกนี้อย่างถี่ถ้วนเสียก่อน เช่น สายพันธ์จระเข้ สีที่นิยมและหายาก น่าสะสม รู้ว่าของจริงต้องมีลักษณะอย่างไร ของปลอมหรือของเลียนแบบเป็นยังไง เพราะหากเราซื้อจากแหล่งที่ไม่รู้จักก็อาจได้ของปลอมได้”
ต้องบอกว่ามีเงินก็ใช่ว่าจะหาซื้อกระเป๋าเหล่านี้มาเป็นเจ้าของได้ เพราะแบงก์อบกว่ากว่าจะได้กระเป๋ารุ่นนี้มาแต่ละใบ ต้องใช้ความพยายามบางทีต้องหาจากแหล่งต่างๆ ทั่วโลก และอีกหนึ่งเครื่องประดับที่เธอชอบสะสมคือนาฬิกาปาเต๊ะ ซึ่งเธอก็ได้แนะนำให้เพื่อนๆ ซื้อเก็บไว้
“นาฬิการาคาแพงบางเรือนซื้อมาแต่ไม่ได้ใส่ ทิ้งไว้ก็ตกรุ่น แต่หากเรารู้จักเลือกซื้อรุ่นที่หายากมาก ผลิตน้อย (Rare) คนนิยมมาก มูลค่าของมันก็จะเพิ่มสูงขึ้น เช่นเดียวกับคนเล่นพระเครื่อง หากเราศึกษาให้ดี และทำความรู้จักมันได้ดีพอ ของสิ่งนั้นจะเพิ่มมูลค่าให้เราได้มาก แบงค์จะเป็นคนที่ทำอะไรแล้วจะต้องศึกษาให้ดี เพื่อการมีข้อมูลที่ดี จะช่วยให้เราเลือกสิ่งที่ดีได้ที่สุดเสมอ ไม่ว่าจะเป็นของใช้ของตัวเอง หรือแม้แต่เครื่องมือหรือเทคโนโลยีต่างๆ ที่นำมาใช้ในคลินิกความงามของตนเอง ก็จะเลือกชิ้นที่ดีที่สุด และผ่านการรับรองจาก US-FDA ให้เรามั่นใจได้ถึงมาตรฐานที่สูง”
เพราะเป็นแฟนติดหนึบกระเป๋าหรูอย่างแอร์เมส ชื่อของสาวแบงค์จึงติดอยู่ในเว็บ Purse Forum ที่สาวกแอร์เมสทั่วโลกต้องเข้าไปจดจ้องมองหากระเป๋ารุ่นหายากกัน
นอกจากกระเป๋า และนาฬิกา ซึ่งสามารถเก็บสะสมและเพื่อการลงทุนแล้ว สาวแฟชั่นนิสต้าระดับไฮเอนด์คนนี้ ยังเลือกที่จะซื้อเสื้อผ้าและรองเท้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ และต้องเป็นชิ้นมาสเตอร์พีซและไม่มีใครเหมือน โดยเฉพาะเสื้อผ้าจากร้าน Club 21/PRADA ที่นำเสื้อผ้าแบรนด์ดังระดับไฮเอ็นด์จากเมืองแฟชั่นมาจำหน่ายไม่ว่าจะเป็น Alexander Mcqueen, Lanvin, Marni, Givenchy, ฯลฯ โดยทาง Brand และ Buyer ของทางร้านจะดูแลและสั่งไซส์เล็กให้สาวแบงค์โดยเฉพาะ
“การซื้อของแบรนด์เนมนั้น ใช่ว่าไปต่างประเทศจะหาซื้อง่ายกว่านะคะ เพราะช้อปในเมืองไทยจะจัดหาเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับสาวไทย โดยเฉพาะไซส์ของคนไทยซึ่งจะเล็กกว่าของต่างชาติเยอะ บางทีเราลงทุนไปถึงเมืองนอก แต่ไม่มีไซส์ก็เสียเที่ยว แบงก์คิดว่าอุดหนุนธุรกิจไทยด้วยกันจะดีกว่าค่ะ”
ด้วยเหตุผลนี้เอง เวลาเธอเลือกซื้อของแต่ละครั้ง แม้จะเป็นแบรนด์เนมของต่างชาติ แต่เธอก็ขอเลือกซื้อจากร้านในเมืองไทย อย่างเช่นรองเท้าของ Jimmy Choo แบรนด์รองเท้าที่เธอปลื้ม ผู้จัดการของร้านก็จะนำมาให้แบงค์เลือกก่อนใคร และหากคู่ไหนที่เธอซื้อแล้ว ก็อย่าได้หวังว่าจะมีใครได้ครอบครองอีก นอกจากน้องสาวอย่างอั้ม-พัชราภา ที่มักจะควงกันไปซื้อบ่อยๆ
“รองเท้าเปลือยเท้าประดับคริสตัลที่ใส่อยู่คู่นี้สวยมากค่ะ ที่ชอบแบรนด์นี้เพราะรูปแบบของรองเท้าเหมาะกับผู้หญิงที่มีเท้าเรียวยาว เวลาสวมแล้วโชว์รูปเท้าเปลือยๆ ดูสวย รุ่นที่ใส่อยู่นี้ คุณอั้ม ได้ไปก่อน และจองไว้ให้แบ๊งค์ และแบ๊งค์ก็ซื้ออีกคู่ที่เหลือให้ลูกค้า VIP ของคลินิก ที่อยู่พัทยา” สาวแบงค์เผยถึงความชอบที่อยากให้คนที่รัก ได้ของสวยๆ ไปครอบครอง
“ครอบครัวและสามีจะสอนเสมอว่า เวลาทำอะไรต้องทำให้ดีที่สุด และการเลือกสะสมสิ่งของสักอย่างหนึ่ง เราก็ต้องเลือกสะสมสิ่งที่ดีที่สุด และไม่ขาดทุน 5555 (หัวเราะ)”
แต่ไม่ว่าจะต้องเลือกซื้อสินค้าราคาสูงแค่ไหน ไลฟ์สไตล์และการแต่งตัวของสาวแบงก์ในชีวิตประจำวันเรียกว่า “ธรรมดา” มาก พอตั้งคำถามว่า “ใส่แบรนด์เนมระดับนี้แล้ว ทางแบรนด์ไม่เชิญไปดูแฟชั่นโชว์ติดขอบรันเวย์เลยเหรอคะ?”
คำตอบสั้นๆ และธรรมดาๆ ของสาวทรงอิทธิพลทางแฟชั่นแบรนด์คนนี้บอกเพียงว่า “ไม่ชอบออกงานค่ะ ต้องดูแลลูกค้า แต่งตัวสวยๆ ไปเดินเล่นแถวร้านที่สยามสแควร์ซอย 2 ก็พอแล้ว”
Comments are closed.