Guru Talk

ฟังปัญหาสิวจากนายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญพร้อมทางแก้

Pinterest LinkedIn Tumblr


>>สาวบางคนอยากจะแต่งหน้าเริ่ดๆ หนุ่มบางคนก็อยากโชว์ความใสแต่กรรมจริงๆ ต้องมาสะดุดกับสิวที่ดันงอกขึ้นมาซะนี่ แถมเจ็บอีกต่างหาก! ถึงกับเซ็งกันไปตามๆ กันแต่ก็อย่างว่าวัยรุ่นวัยกำลังเฟี้ยวมักมาพร้อมกับปัญหาสิว แต่ก็ไม่เสมอไปเพราะแม้กระทั่งวัยผู้ใหญ่ก็ยังมาเป็นกันได้อีก สิวเนี่ย!เป็นปัญหาและอุปสรรคของใครหลายๆ คนจริงๆ
ดังนั้นวันนี้นายแพทย์โกวิท คัมภีรภาพ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางผิวหนัง พูดคุยถึงการดูแลผิวที่มีปัญหาสิว โดยเฉพาะผู้มีผิวบอบบางระคายเคืองง่าย

“ทำไมจึงเป็นสิว”
สิวเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางสรีระของร่างกายเมื่อย่างเข้าสู่วัยรุ่น สิวจึงพบบ่อยมากในวัยรุ่นและวัยหนุ่มสาว ส่วนมากจะเริ่มมีตุ่มสิวเมื่ออายุ 11-12 ปี หลังจากนั้นจะเป็นสิวรุนแรงขึ้น พบว่าเมื่ออายุ 17 ปี วัยรุ่นชายเป็นสิวถึง 95% ส่วนวัยรุ่นหญิงจะเป็นสิว 85% แต่เมื่ออายุเลย 25 ปีแล้ว อัตราการเป็นสิวจะค่อยๆ ลดลง
สาเหตุของสิว มี 4 สาเหตุหลัก คือ
1.ฮอร์โมนเพศชายเพิ่มสูงขึ้น เป็นสาเหตุที่สำคัญที่สุดที่ทำให้เป็นสิว เมื่อเข้าวัยรุ่นทั้งชายและหญิง ร่างกายจะสร้างฮอร์โมนเพศชายเพิ่มขึ้น ฮอร์โมนจะกระตุ้นการทำงานของต่อมไขมันที่มีมากบริเวณใบหน้า หน้าอก แผ่นหลัง ให้มีการสร้างและขับน้ำมันออกมาที่ผิวหนังมากขึ้น เกิดการอักเสบและเป็นสิว
2.เซลล์หนังกำพร้าบริเวณปากรูต่อมไขมันถูกกระตุ้นให้แบ่งตัวมากขึ้นและจับตัวกันแน่น อุดตันตรงปากรูต่อมไขมัน เกิดเม็ดสิวอุดตัน
3.แบคทีเรีย Propionibacterium acnes ที่อาศัยอยู่ในรูต่อมไขมัน จะเพิ่มจำนวนมากขึ้นในคนที่เป็นสิว แบคทีเรียจะย่อยไขมันในรูต่อมไขมันกระตุ้นให้เกิดสิวอักเสบ
4.ผิวหนังที่มีการอักเสบได้ง่าย จะเกิดสิวได้ง่าย
สิวมีความรุนแรงแตกต่างกัน คนที่เป็นสิวเล็กน้อยอาจมีแค่สิวอุดตันไม่กี่ตุ่มบนใบหน้า สิวรุนแรงปานกลางจะมีสิวเป็นตุ่มแดงหรือตุ่มหนองเล็กๆ สิวรุนแรงมากหรือสิวหัวช้างจะเป็นตุ่มแดงขนาดใหญ่และถุงหนอง มักเป็นทั้งใบหน้าและลำตัว และมีรอยแผลเป็นด้วย
สิวกับผลกระทบด้านจิตใจ-เศรษฐกิจ
มีการวิจัยพบว่า คนที่เป็นสิวรุนแรงมีอัตราการเป็นโรคซึมเศร้าและมีความคิดอยากฆ่าตัวตายสูงกว่า
คนทั่วไป และยังพบว่าคนที่เป็นสิวหางานทำได้ยากกว่าคนที่ไม่เป็นสิว
การวินิจฉัยโรคสิว
โรคสิววินิจฉัยได้ง่าย จากการตรวจดูผิวหนังพบตุ่มสิวอุดตัน อาจปะปนกับตุ่มแดง ตุ่มหนอง ตามใบหน้า หน้าอก แผ่นหลัง ในวัยรุ่นและวัยหนุ่มสาว
โรคสิวต้องแยกออกจากผื่นคล้ายสิว ซึ่งอาจเกิดจากการทาครีมที่มีสารทำให้รูขุมขนอุดตัน (comedogenic) การทาครีมที่มีสารสเตียรอยด์ การรับประทานยาบางชนิด เช่น ยาสเตียรอยด์ ยากันชัก (เฟนิโตอิน) ยารักษาวัณโรค (ไอโสไนอาซิด) ยาที่ผสมไอโอดีนหรือโบรมีน ฮอร์โมนเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เป็นต้น นอกจากนี้ผู้หญิงที่มีภาวะฮอร์โมนเพศชายสูงผิดปกติ เพราะเป็นโรคของรังไข่ ต่อมหมวกไต อาจยังเป็นสิวทั้งที่อายุเข้าวัยกลางคนแล้ว ซึ่งอาจมีอาการอื่นๆ ของฮอร์โมนเพศชายสูงด้วย เช่น ผิวมันมาก มีขนดก ประจำเดือนไม่สม่ำเสมอ ศีรษะล้าน เป็นต้น

แต่อย่าเพิ่งวิตกกังวลไปนะจ๊ะเพราะสิวสามารถป้องกันและดูแลรักษาได้
สิวสามารถบรรเทาให้เบาบางได้โดยการใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับทำความสะอาดผิวหน้าโดยเฉพาะที่ไม่มีความระคายเคือง ช่วยลดโอกาสในการเป็นสิว เลือกใช้ให้เหมาะสมตามสภาพผิว คือ ผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม แต่ไม่ควรล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดบ่อยเกินไป เพราะการสัมผัสสารลดแรงตึงผิวในผลิตภัณฑ์บ่อยๆ อาจทำให้เป็นสิว เลือกใช้ครีมกันแดดและครีมบำรุงตามสภาพผิวหน้า ที่สำคัญครีมต้องไม่มีสารที่ทำให้เกิดสิวอุดตัน (comedogenic) ถ้าผิวมันเป็นสิวง่ายอาจเลือกใช้ครีมบำรุงเนื้อเบาที่ผสมกรดวิตามินเอหรือกรดผลไม้ (AHA,BHA,LHA) เพื่อลดและป้องกันการเกิดสิวอุดตัน
ความเครียดก็มีส่วนเพราะจะทำให้ฮอร์โมนในร่างกายแปรปรวนและเกิดสิว จึงควรลดเลี่ยงความเครียด พักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม เพราะการออกกำลังกายช่วยลดความเครียดได้เป็นอย่างดี
ถ้าเป็นสิวเล็กน้อย เช่น มีแต่สิวอุดตัน หรือมีสิวอักเสบก่อนมีประจำเดือน อาจลองซื้อยาทาสิวมาใช้ก่อน ซึ่งควรเป็นยาทาเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ หรือครีมกรดวิตามินเอ ไม่ควรทาหรือกินยาปฏิชีวนะเพียงอย่างเดียว เนื่องจากอาจทำให้เกิดเชื้อแบคทีเรียดื้อยาได้ ถ้าซื้อยาทาสิวแล้วไม่ดีขึ้น หรือเป็นสิวรุนแรงปานกลางขึ้นไป ควรไปพบแพทย์ผิวหนัง แพทย์มักรักษาด้วยยาทาหลายชนิดและยากินตามสภาพความรุนแรงของสิว เพื่อไปแก้ไขครอบคลุมสาเหตุทั้งสี่ของสิว ทำให้สิวหายเร็วที่สุดและป้องกันการเกิดรอยแผลเป็น ผู้ป่วยไม่ควรซื้อยากินเอง โดยเฉพาะยาไอโสเตรติโนอิน (ยาปากลอก) เพราะอาจทำให้ทารกในครรภ์พิการ เป็นตับอักเสบ ไขมันในเลือดสูง กระดูกบาง
สำหรับผู้หญิงที่ยังเป็นสิวมากแม้จะอายุเลยวัยรุ่นแล้ว และมีอาการของฮอร์โมนเพศชายสูงเกินปกติ เช่น ขนดก ประจำเดือนไม่สม่ำเสมอ ศีรษะล้าน ต้องมาพบแพทย์ผิวหนังเพื่อตรวจประเมินอย่างละเอียดต่อไป แพทย์อาจพิจารณาให้รับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดบางชนิดที่มีฤทธิ์ต้านฮอร์โมนเพศชาย ร่วมกับยารักษาสิวอื่นๆ ห้ามซื้อยาคุมกำเนิดมาทานเอง เพราะยามีข้อห้ามในการรับประทานและผลข้างเคียงร้ายแรงหลายอย่าง
ปัจจุบันมีเทคโนโลยีใหม่ๆ ในการรักษาสิว เช่น การฉายแสงสีแดง แสงสีน้ำเงิน เลเซอร์ ซึ่งจัดเป็นการรักษาทางเลือก เนื่องจากผลการรักษาไม่ดีมากนัก ใช้เวลารักษานาน และมีราคาแพง
เคล็ด (ไม่) ลับในการดูแลผิวหน้าระหว่างรักษาสิว
ยารักษาสิวทุกชนิดและยากินไอโสเตรติโนอิน จะทำให้ผิวหน้าแห้งลอก บางคนที่มีผิวแพ้ง่าย ยาอาจทำให้ผิวอักเสบแสบแดง ปัญหานี้สามารถบรรเทาเบาบางลงได้ โดยผู้ป่วยต้องทายาสิวอย่างถูกวิธี ให้ทายาบางๆ ให้ทั่วบริเวณที่มีตุ่มสิว ไม่ควรทาใกล้ขอบตาและขอบปากมากเกินไป ห้ามแต้มยาบนตุ่มสิว เพราะยาจะมีความเข้มข้นสูงเกินไป ทำให้ผิวอักเสบแดงลอกมาก อาจใช้ครีมบำรุงสำหรับผิวแพ้ง่ายทาบริเวณที่แห้งลอกอยู่ ทาครีมกันแดดที่เป็นเนื้อครีมบำรุงและหลีกเลี่ยงแสงแดด ที่สำคัญจะต้องกลับไปพบแพทย์เพื่อรักษาสิวอย่างต่อเนื่อง เพราะสิวมักเป็นๆ หายๆ เป็นเวลาหลายปี และจะค่อยๆ หายเองเมื่ออายุเกิน 25 ปี

รู้เรื่องราวเกี่ยวกับสิวกันบ้างแล้วลองไปหายาแต้มสิวดีๆ มาใช้กันสักหน่อย


La Roche-Posay EFFACLAR DUO [+] ลา โรช-โพเซย์

Smooth-E ACNEHydrogel สมูท อี แอคเน่ ไฮโดรเจล

Clinda-M Lotion คลินด้า-เอ็ม โลชั่น

Preme Nobu ACNE พรีม โนบุ แอคเน่

Comments are closed.

Pin It