Beauty

กระตุ้นต่อม Shopaholic เกาะติดแหล่งชอปปิ้งบนโลกไอทีปี 2013

Pinterest LinkedIn Tumblr


>>ปี 2013 นี้เป็นที่น่าจับตามองว่าสินค้าและบริการทั้งหลายจะเร่งแข่งขันกันเพื่อให้เข้าถึงผู้ซื้ออย่างเราๆ ได้รวดเร็วและสะดวกขึ้น กระตุ้นให้เราควักเงินในกระเป๋าออกมามากๆ ก็ต้องพยายามหาตัวล่อซื้อหรือจะเรียกว่าเพิ่มช่องทางการนำเสนอสินค้าให้หลากหลาย โดยเอาเทคโนโลยีเข้าช่วยมากขึ้น เพราะปัจจุบันคนไทยใช้อินเทอร์เน็ตกันทุกวัน ผ่านอุปกรณ์ต่างๆ ทั้ง PC Notebook แท็บเล็ต ไปจนถึงสมาร์ทโฟน ดังนั้นเป็นเรื่องง่ายมากที่จะซื้อสินค้าอะไรก็ได้ ก็ในเมื่อมีร้านค้าพกพาติดตัวไปด้วยทุกที่

แต่ด้วยการที่ร้านค้ามันมีให้เลือกมากมาย และง่ายแสนง่ายเพียงแค่คลิกหน้าจอ ทำให้เจ้าของแบรนด์ต่างๆ พยายามพัฒนาช่องทางใหม่ๆ มาแข่งขันเพื่อมัดใจผู้ซื้ออย่างเรา ลองมาดูแหล่งชอปสินค้าผ่านเทคโนโลยีที่รวบรวมมาแล้วจะรู้ว่า การชอปปิ้งในปีนี้ทั้งง่ายและสนุกระวังจะซื้อกันจนหยุดไม่อยู่

1. Virtual Store เดี๋ยวนี้ถ้าอยากซื้อของในซูเปอร์มาร์เกตไม่จำเป็นต้องไปถึงห้างกันแล้ว เพราะเค้ายกร้านค้ามาให้เราถึงที่ ระหว่างรอรถไฟฟ้า หรือเดินเล่นตามที่ต่างๆ แม้กระทั่งมีโบรชัวร์สินค้า ก็สามารถชอปปิ้งได้ทันที โดยใช้สมาร์ทโฟน อย่าง iPhone หรือ Android เพื่อสแกน QR Code ของสินค้าที่ต้องการ และรอรับสินค้าที่บ้านได้เลย โดย Virtual Store นี้เริ่มใช้ที่ประเทศเกาหลีใต้และได้รับความนิยมกันอย่างมาก จนในที่สุดเมืองไทยก็ได้ใช้กันแล้วแต่ยังไม่ค่อยแพร่หลายมากนัก

ผู้ที่เริ่มเปิด Virtual Store ในไทยคือบิ๊กซี พบได้บริเวณสถานที่ตรงอุโมงค์ชั้น 2 ของห้าง Digital Gateway สยามสแควร์ และแอร์พอร์ตลิงก์ พญาไท วิธีการซื้อสินค้าก็เพียงแค่นำโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน อย่าง iPhone และ Android ที่ลงแอปฯ Big C Mobile Shopping App แล้วเปิดแอปฯ ทำการสแกน QR Code ใต้สินค้าที่ต้องการเพื่อดูราคาก่อนตัดสินใจว่าจะใส่ตะกร้าสินค้าหรือไม่ เมื่อได้ตามที่ต้องการแล้วก็เลือกวิธีรับสินค้า และยืนยันการสั่งสินค้า เพียงเท่านี้คุณก็รอรับสินค้าที่ห้าง หรือรอรับสินค้าที่บ้านได้เลย

2. Social Commerce ปัจจุบันกระแสความนิยมใน Social Commerce มีเพิ่มมากขึ้น แม้แต่ Mark Zuckerberg ผู้ก่อตั้งสื่อสังคมออนไลน์ที่มียอดผู้ใช้สูงสุดอย่าง facebook กล่าวถึง Socical Comerce ว่า “ถ้าหากจะคาดเดาเทคโนโลยีที่จะมาแรงในอนาคต คงไม่พ้น Social Commerce เป็นแน่” ช่องทางที่ง่าย สะดวก ประหยัด ในการนำเสนอสินค้าบนโลกเทคโนโลยี คงหนีไม่พ้น Social Network ที่ทุกคนคุ้นเคยอย่าง facebook, twitter แต่ Social Media บนโลกใบนี้ยังมีอีกมากมาย อย่าง Pinterest, Google Plus ซึ่งข้อดีก็คือการแสดงรูปภาพได้มากมาย และยังสามารถพูดคุยแชร์ความคิดเห็นหรือสอบถามในเรื่องสินค้าที่เราต้องการได้โดยทันที และยังสามารถดู Comment จากคนที่เคยซื้อก็จะยิ่งช่วยตัดสินใจในสินค้าและบริการนั้นอีกด้วย

3. ร้านค้าออนไลน์เต็มรูปแบบ หลายคนคงคุ้นเคยกับการสั่งสินค้าออนไลน์กันแล้ว แต่ก็มีบางร้านค้าที่เป็นเพียงการโชว์สินค้าบนเว็บไซต์ ถ้าเราสนใจก็ต้องอีเมลสั่งของ หรือโทร.ไปเท่านั้น แต่ร้านค้าออนไลน์เต็มรูปแบบนี้เราแค่เลือกสินค้า เลือกจำนวนของ เลือกวิธีการชำระเงิน กรอกที่อยู่ก็รอรับของได้ง่ายๆ แล้ว ที่เห็นจะฮิตติดกระแสก็ต้องเว็บ zalora.co.th ที่มีจุดเด่นด้านการชำระเงินนอกเหนือจากการจ่ายผ่านบัตรเครดิต, บัตรเดบิต, Paypal, ATM, Internet Banking และชำระผ่านมือถือแล้ว ยังมีบริการจ่ายเงินสดปลายทางเมื่อได้รับสินค้า แถมยังไม่คิดค่าจัดส่งอีกด้วย นับว่าเป็นเว็บเดียวที่ให้บริการได้ถึงใจคนซื้อออนไลน์จริงๆ

อย่างไรก็ตาม ปีนี้สินค้าและบริการทุกอย่างจะเข้าสู่ระบบออนไลน์มากขึ้น ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าขึ้นทุกวัน มีระบบรองรับร้านค้าออนไลน์มากขึ้น ร้านค้าก็มีรูปแบบในการส่งสินค้าที่หลากหลาย มีระบบชำระเงินให้เราเลือกมากมาย และมีโปรโมชันที่ดึงดูด ลด แลก แจก แถม มากขึ้น เนื่องมาจากการแข่งขันที่ต้องการลูกค้า ดังนั้นคนซื้ออย่างเราก็ต้องพิจารณาและเลือกชอปอย่างมีสติ :: Text by FLASH

>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่  http://www.celeb-online.net และ ติดตาม CelebStagram ได้ที่ http://www.manager.co.th/celebonline/celebstagram/

Comments are closed.

Pin It