>>“ผิวหน้าทะเลทราย” เกิดจากการที่ผิวหน้าแห้งขาดน้ำ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะสาวๆ ในเมืองที่ต้องเผชิญทั้งมลพิษรอบตัว และขลุกอยู่ในห้องแอร์นานๆ ซึ่งทำให้ผิวมีลักษณะหยาบอิดโรย ไม่กระจ่างใส ผิวแห้งเป็นขุย ทำให้สาวๆ แต่งหน้าไม่ติดและไม่อยู่ทน และถึงขั้นผิวแตก เมื่อผิวขาดน้ำมากที่สุด
ดร.บุศราภรณ์ สำราญ จากสถาบันวิจัยพอนด์ส เผยสาวออฟฟิศในสังคมเมืองยุคใหม่เสี่ยงเจอปัญหาผิวมากที่สุด พร้อมไข 6 ปัจจัย การเกิดปัญหาผิวหน้าทะเลทรายหรือผิวขาดน้ำ
1. การอยู่ในห้องแอร์เฉลี่ยมากกว่า 8 ชั่วโมงต่อวัน โดยปกติสาวๆ ออฟฟิศจะใช้เวลาทำงานประมาณ 8 ชั่วโมงต่อวัน แต่ถ้าดูจากความเป็นจริงแล้ว หลายคนอยู่ที่ทำงานท่ามกลางแอร์หนาวฉ่ำนานกว่านั้น เนื่องจากยังเคลียร์งานไม่เสร็จ รถติดออกจากออฟฟิศไม่ได้ หรือบางคนเลือกไปสังสรรค์กับเพื่อนต่อที่ห้างสรรพสินค้าและร้านอาหาร หรือเปิดแอร์นอนตอนกลางคืน จึงเป็นการต่อยอดการใช้เวลาอยู่ในห้องแอร์ให้นานกว่า 8 ชั่วโมงทั้งสิ้น
2. การดื่มน้ำไม่เพียงพอ ร่างกายของคนเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบโดยเฉลี่ยอยู่ถึง 60% ของน้ำหนักตัว เราอาจจะอดอาหารได้เป็นเดือนๆ แต่ร่างกายไม่สามารถขาดน้ำได้เกินกว่า 3-7 วัน สาวๆ คนไหนที่ไม่ค่อยชอบดื่มน้ำเปล่า ลองคำนวณปริมาณน้ำที่ควรดื่มต่อวันตามน้ำหนัก* เพื่อดูว่าในแต่ละวันดื่มน้ำเพียงพอแล้วหรือยัง ตัวอย่าง น้ำหนักตัวคูณ 30 ผลลัพธ์ที่ได้คือ ปริมาณน้ำที่ควรดื่มต่อวัน โดยหน่วยคือมิลลิลิตร (เช่น น้ำหนัก 45 กิโลกรัม 45×30 = 1,350 มิลลิลิตร หรือเท่ากับดื่มน้ำวันละ 1.35 ลิตร) โดยปกติแล้วร่างกายจะมีการสูญเสียน้ำออกไป ไม่ว่าจากการออกกำลังกาย จากสภาวะอากาศ อาการท้องเสีย หรือการขับถ่ายของเสีย ดังนั้นจึงต้องนำน้ำเข้าสู่ร่างกายเพื่อชดเชยกัน และควรสังเกตด้วยว่า น้ำหนักลดลงมากกว่าปกติหรือไม่ เพราะยิ่งน้ำหนักหายไปมาก ยิ่งแสดงว่าเราควรเติมน้ำเข้าสู่ร่างกายเพื่อให้สมดุลมากขึ้น
3. มลภาวะในเมืองกรุง ทั้งมลพิษ แสงแดด ลม ความชื้นที่น้อยลงในบรรยากาศจะมีอิทธิพลต่อการสูญเสียน้ำออกจากผิวหนัง ผิวหน้าจึงอ่อนแอจนส่งผลให้ผิวขาดน้ำในที่สุด
4. การใช้แอลกอฮอล์หรือสบู่ที่เป็นด่างสูงในการทำความสะอาดผิวหน้า ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง แม้แต่การทำความสะอาดก็สามารถทำให้ผิวเสียความชุ่มชื้นไปด้วย ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาผิวหน้าทะเลทรายได้เช่นเดียวกัน
5. อายุเลยวัย 25 เมื่อสาวๆ อายุมากขึ้นตั้งแต่ 25-30 ปีขึ้นไป การทำงานของกระบวนการผลัดเซลล์ผิวและการสร้างไขมันในเซลล์ผิวหนังเริ่มช้า กระบวนการรักษาสมดุลความชุ่มชื้นลดลง ทำให้ผิวขาดน้ำได้ง่ายขึ้น
6. ปาร์ตี้เกิร์ล สาวๆ คนไหนที่ดื่มจัด สูบบุหรี่และปาร์ตี้บ่อย มีความเสี่ยงสูงที่จะก่อให้ผิวขาดน้ำ แอลกอฮอล์จะทำให้ผิวเกิดรอยแดงและหยาบกร้าน ส่วนนิโคตินในบุหรี่ก็ทำให้ผิวบาง หย่อนคล้อยง่าย และแห้งเสีย นานไปจะส่งผลให้แก่ก่อนวัยที่สำคัญคือ เมื่อรู้สึกกระหายน้ำ คอแห้ง ควรดื่มน้ำเปล่าเป็นอันดับแรก เพื่อปรับสมดุลที่ขาดหายไป
ดร.บุศราภรณ์ได้แนะนำวิธีการดูแลรักษาปัญหาผิวหน้าทะเลทรายว่า “ปัญหาผิวหน้าทะเลทราย ก่อให้เกิดปัญหาผิวตามมาในอนาคต ได้แก่ ผิวบางแพ้ง่าย เกิดริ้วรอยก่อนวัย นอกจากนี้ ปัญหาผิวขาดน้ำจะส่งผลให้เกิดความเครียด ปวดหัว รู้สึกกระหายน้ำ คอแห้ง เมื่อยล้า วิงเวียน สาวๆ ออฟฟิศที่อายุตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไปควรเริ่มดูแลสุขภาพผิวหน้าของตัวเองมากๆ เนื่องจากมีปัจจัยสิ่งแวดล้อมเร่งให้เกิดปัญหาผิวหน้าทะเลทรายหรือผิวขาดน้ำมากขึ้น ควรดื่มน้ำประมาณวันละ 7-8 แก้ว โดยผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าให้ดื่มปริมาณไม่มาก แต่ให้ดื่มระหว่างวันอย่างสม่ำเสมอ เช่น ทุกชั่วโมง จะให้ประโยชน์ในการรักษาสมดุลได้ดีที่สุด
การดื่มน้ำนอกจากจะช่วยให้สุขภาพดีแล้วยังช่วยให้ใบหน้าชุ่มชื้น เปล่งปลั่งอีกด้วย โดยควรดื่มน้ำอุ่นไม่ต่ำกว่าอุณหภูมิร่างกายหรือประมาณ 36-37 องศาเซลเซียส เพื่อให้ร่างกายลดการสูญเสียพลังงานและการคืนสมดุลจากการดื่มน้ำเย็น ควบคู่กับการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมซึ่งทำหน้าที่ใกล้เคียงกับสารรักษาความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ โดยเฉพาะพืชที่สามารถเก็บกักน้ำได้ในภาวะแห้งแล้ง อย่างยุคคา (Yucca) พืชที่ขึ้นอยู่กลางทะเลทรายซึ่งมีต้นกำเนิดจากสหรัฐอเมริกา เป็นพืชที่เปรียบเสมือนโอเอซิสกลางทะเลทราย ช่วยเก็บความชุ่มชื้น อุ้มน้ำ พร้อมช่วยผลัดเซลล์ ฟื้นบำรุงผิวขาดน้ำให้กลับคืนมาดูสุขภาพดี เปล่งประกายอีกครั้ง รวมถึงหลีกเลี่ยงการใช้แอลกอฮอล์ หรือสบู่ที่เป็นด่างสูงในการทำความสะอาดผิวหน้า สูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อให้สาวออฟฟิศห่างไกลจากปัญหาผิวหน้าทะเลทรายที่ยิ่งส่งผลเสียในอนาคต” :: Text by FLASH
Comments are closed.