Beauty

หมอนลินี เตือนสาวๆ พฤติกรรม “ตาติดจอ” เกิดต้อได้

Pinterest LinkedIn Tumblr


‘ตาติดจอ’ กลายเป็นไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ในสังคม เพราะพฤติกรรมการใช้สายตาเป็นระยะเวลานานติดต่อกัน ไม่ว่าจะเป็นการอัพเดทข้อมูลข่าวสารต่างๆ การแชต การดูหนัง ผ่านทางมือถือ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ ทำให้ดวงตาต้องทำงานหนักตลอดทั้งวัน ถึงเวลาแล้วที่เราต้องใส่ใจดูแลดวงตาของเราเป็นพิเศษด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์เพื่อดวงตาโดยเฉพาะ
พญ.นลินี ไพบูลย์
พญ.นลินี ไพบูลย์ บอสหญิงแห่งกิฟฟารีน เทคโนโลยีการสื่อสารในปัจจุบันทำให้เกิดการใช้ดวงตาทำงานมากกว่าสมัยเมื่อ 10-20 ปีที่แล้ว ส่งผลให้คนในยุคนี้มีโรคทางสายตาเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะคนที่มีอายุน้อยเช่น โรคจุดรับภาพเสื่อม (Age-related Macular Degeneration) ซึ่งเป็นอาการของโรคที่ทำให้ความสามารถในการมองเห็นลดลง เกิดการมองภาพบิดเบี้ยวไป เหมือนมีจุดดำบังตรงกลางภาพ ส่งผลให้มองภาพตรงกลางไม่ชัด หรือโรคต้อกระจก คือ ภาวะที่กระจกตาหรือเลนส์ตาขุ่น ทำให้แสงไม่สามารถผ่านเข้าไปในตาได้ตามปกติ สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากความเสื่อมตามวัย โดยเฉพาะในผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป แต่ภาวะบางอย่าง เช่น การขาดสารอาหาร อาจก่อให้เกิดโรคต้อกระจกก่อนวัยได้ เป็นต้น”

และอีกหนึ่งภัยเงียบในยุคโซเชียลที่เป็นอันตรายต่อจอตา คือ แสงสีฟ้า หรือ Blue light ซึ่งเป็นคลื่นแสงพลังงานสูง สามารถกระตุ้นให้เกิดอนุมูลอิสระภายในลูกตา ส่งผลให้เซลล์ประสาทตาเสื่อม การจ้องมองแสงสีฟ้าจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เป็นเวลานาน ก่อให้เกิดอาการปวดตา ตาแห้ง พร่ามัว น้ำตาไหล อีกทั้งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคจุดรับภาพเสื่อม และโรคต้อกระจกอีกด้วย

ทั้งนี้บริษัท DSM Nutritional Products Switzerland ได้ทำการวิจัยลูทีนและซีแซนทีน โดยผลงานวิจัยค่อนข้างน่าเชื่อถือ เพราะมีกลุ่มตัวอย่างหลายพันกลุ่มตัวอย่าง ลูทีนและซีแซนทีน เป็นสารธรรมชาติที่มีในผักผลไม้ที่มีสีเหลืองและสีเขียวเข้ม ได้แก่ ข้าวโพด แครอท ฟักทอง ผักกาด ผักปวยเล้ง คะน้า และผักโขม นอกจากนี้ยังพบว่า หากร่างกายขาดวิตามินเอ จะส่งผลให้มองเห็นยากในเวลากลางคืน และเยื่อบุตาแห้ง ดังนั้น การได้รับวิตามินเออย่างเพียงพอจะช่วยในการมองเห็นได้ดีขึ้น โดยวิตามินเอ จะพบมากในตับ ไข่แดง ผักใบเขียว และพืชผักมีสีต่างๆ

คุณหมอ ยังได้แนะเทคนิคการถนอมสายตาทิ้งท้ายว่า “ควรลดเวลาการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ลงบ้าง แต่หากจำเป็นต้องใช้สายตาเป็นระยะเวลานานให้พักสายตาบ่อยๆ พักสายตาบ้างในวันหยุดบ้าง ใช้สายตาในที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอ หลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในที่มืด เพราะยิ่งทำให้ดวงตาของคุณทำงานหนักมากขึ้น สวมแว่นกันแดดทุกครั้งเมื่ออยู่กลางแจ้ง และหลีกเลี่ยงการมองแสงจ้า และรับประทานสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อดวงตาเป็นประจำ และที่สำคัญควรพบจักษุแพทย์ปีละ 1 ครั้ง เพื่อตรวจเช็คความผิดปกติของดวงตา เพียงแค่นี้เราก็สามารถถนอมดวงตาคู่สวยให้อยู่คู่กับคุณตลอดไป”

Comments are closed.

Pin It