World Celeb

ย้อนพระชนม์ชีพของ “เจ้าชายฟิลิป” เจ้าชายไร้บัลลังค์ ชายหนุ่มข้างกายของควีนอลิซาเบธ

Pinterest LinkedIn Tumblr


ถือเป็นข่าวช็อกที่ทำเอาหลายๆ คนตกใจ กับการสวรรคตของเจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินเบอระ พระสวามีแห่งสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ที่เพิ่งทรงมีข่าวดีเรื่องผ่าตัดรักษาอาการโรคหัวใจสำเร็จไปเมื่อไม่นานนี้ แต่ระหว่างการพักฟื้นกลับกลายเป็นข่าวเศร้าขึ้นมา


เจ้าชายฟิลิป ผู้ทรงกำลังจะมีพระชนมายุครบ 100 ปีในช่วงเดือนมิถุนายนของปีนี้ ทรงประสูติในราชวงศ์กรีซและเดนมาร์ก โดยพระราชสมภพที่ประเทศกรีซเมื่อปี 2464 แม้จะมีเชื้อสายถึง 2 ราชวงศ์แต่พระชนม์ชีพในวัยเด็กของพระองค์กลับเต็มไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากครอบครัวของพระองค์ถูกบังคับให้สละราชสมบัติ โดยทรงต้องลี้ภัยการเมืองออกจากกรีซ ไปยังประเทศอื่นๆ ในยุโรป


พระองค์เติบโตและศึกษาเล่าเรียนทั้งในฝรั่งเศส เยอรมัน และที่สหราชอาณาจักร ด้วยการช่วยเหลือสนับสนุนด้วยทุนทรัพย์จากเครือญาติ ก่อนจะเข้าเรียนที่ Royal Naval College และเข้ารับราชการในราชนาวีของอังกฤษ


และที่นั่นเองทำให้ทรงพบรักกับเจ้าหญิงพระองค์น้อยวัยเพียง 13 ชันษา และเจ้าชายฟิลิปมีพระชนมายุ 18 ชันษา และทรงเขียนจดหมายติดต่อกันยาวนานหลายปีก่อนที่จะทรงขอพระราชทานอนุญาตแต่งงานจากพระเจ้าจอร์จ กษัตริย์แห่งราชวงศ์อังกฤษในขณะนั้น ผู้เป็นพระบิดาของเจ้าหญิงเอลิซาเบธ


ในตอนแรกหลายฝ่ายต่างคัดค้านเป็นอย่างมาก เพราะเจ้าชายฟิลิปถึงจะมีเชื้อสายกษัตริย์แต่เป็นเจ้าชายที่ไม่มีบัลลังก์ แลดูจะไม่สมเกียรติกับว่าที่ราชินีแห่งอังกฤษในอนาคต แต่ด้วยความรักอันแน่นแฟ้นของสองพระองค์ ทำให้พระราชพิธีสมรสเกิดขึ้นได้เมื่อปี 2490


แต่เจ้าชายฟิลิปเองก็ต้องสละฐานันดรเดิมของตนเอง เพื่อมาใช้สัญชาติอังกฤษ และนามสกุลใหม่ที่พระเจ้าจอร์จประทานให้ว่า “เมานต์แบ็ตเทน” ซึ่งแปลงมาจากนามสกุลเยอรมัน “บัทเทินแบร์ค” ของฝั่งมารดา ซึ่งเป็นที่น่าเสียดาย เนื่องจากกฎของราชวงศ์อังกฤษทำให้บรรดาลูกๆ ของพระองค์ทั้ง 4 คน เจ้าฟ้าชายชาลส์, เจ้าหญิงแอนน์, เจ้าชายแอนดรูว์ และเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด ล้วนไม่สามารถใช้นามสกุลตามพระองค์ได้ แต่ต้องใช้นามสกุล “วินเซอร์” ของควีนเอลิซาเบธแทน


แถมการสมรสกับควีนของอังกฤษ ทำให้พระองค์ต้องเลิกรับราชการทหาร ทั้งที่ทรงรักในอาชีพนี้มาก แถมยังเคยเข้าร่วมรบในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 มาแล้วด้วย 


เนื่องจากต้องมาช่วยพระราชกรณียกิจต่างๆ ของสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ และทรงทำภารกิจอย่างแข็งขันอย่างยาวนานต่อเนื่องหลายสิบปี จนเมื่อ 2557 จึงได้ทรงตัดสินใจประกาศการยุติปฏิบัติพระกรณียกิจ เนื่องด้วยพระชันษาที่มากขึ้น และปัญหาด้านสุขภาพ 


โดยต้องทรงผ่าตัดสะโพกทำให้ไม่สามารถเดินหรือยืนนานๆ ได้ แต่ถึงกระนั้นก็คงยังทรงร่วมเป็นประธานและสมาชิกองค์กรเพื่อการกุศลต่างๆ อีกมากมาย พร้อมทั้งสนับสนุนพระราชกรณียกิจของราชวงศ์อย่างเต็มที่


ด้วยวัยเกือบร้อย พระองค์ถือได้ว่าเป็นบุรุษที่มีอายุมากที่สุดในราชวงศ์อังกฤษ และก่อนหน้านี้ถือได้ว่าทรงแข็งแรงกว่าชายวัยเดียวกันหลายเท่า โดยพระองค์ยังคงสามารถขับขี่รถยนต์ด้วยตนเองจนถึงวัย 97 ปี ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกขับเนื่องจากทรงก่อให้เกิดอุบัติเหตุ และทำให้คู่กรณีได้รับบาดเจ็บ จึงตัดสินใจคืนบัตรอนุญาตขับขี่ส่วนพระองค์ และเลิกขับรถด้วยองค์เอง ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของสาธารณชนกันในวงกว้างถึงการพิจารณาการอนุญาตขับขี่ของผู้สูงอายุ และการเรียกร้องให้มีการตรวจสอบประสิทธิภาพของผู้ขับขี่รถยนต์ในแต่ละช่วงวัยอย่างมีระเบียบมากขึ้น

Comments are closed.

Pin It