“พราวพรรณ เลาหพงศ์ชนะ” ชวนสนุกกับการแต่งบ้านที่ภูเก็ต

แม้ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์จะไม่ใช่ธุรกิจหลักที่เป็นฟันเฟืองของจังหวัดภูเก็ต แต่ด้วยจุดเด่นของภูเก็ต ที่ไม่เพียงเป็นจุดหมายปลายทางในฝันของนักท่องเที่ยวทั่วโลก แต่ยังเป็นสถานที่ที่ชาวต่างชาติเลือกมาใช้ชีวิตในวัยเกษียณ จึงทำให้หลายปีที่ผ่านมา เฟอร์นิเจอร์กลายเป็นอีกตลาดที่เติบโตได้ดีไม่น้อย นี่จึงเป็นแรงจูงใจให้ “เหมี่ยว-พราวพรรณ เลาหพงศ์ชนะ” หนึ่งในผู้บริหารคนเก่งแห่ง Quattro Design ซึ่งทำธุรกิจนำเข้าเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้านระดับพรีเมียม และการให้บริการออกแบบและตกแต่งแบบ On Demand เลือกขยายสาขาจากกรุงเทพฯ ลงไปเปิดให้บริการที่ภูเก็ตเมื่อ 5 ปีก่อน ซึ่งก็ได้ผลตอบรับที่ค่อนข้างดี จนกระทั่งมาเจอกับวิกฤตโควิด-19

“ด้วยความที่เราเปิดร้านแบบสแตนอโลน ตั้งแต่เกิดวิกฤตเราเลยไม่ได้มีช่วงที่โดนสั่งปิด แต่ก็ได้รับผลกระทบทางอ้อมไปตามๆ กัน เพราะลูกค้าหลักเราคือชาวต่างจังหวัด ที่ทุกปีจะเดินทางมาพักผ่อนที่ภูเก็ต มาซื้อวิลลา หรือบ้านอยู่ที่นี่ แต่พอเขามาไม่ได้ ยอดขายเฟอร์นิเจอร์เราก็หายไปด้วย จนกระทั่ง 3 เดือนที่ผ่านมา มีมาตรการให้ชาวต่างชาติเดินทางมาได้ แต่ต้องกักตัว ยอดขายเราก็เริ่มกลับมา ภาพรวมของคนที่ทำโครงการอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ก็เริ่มกลับมาทำโครงการกัน แต่ก็ต้องถือว่าปีที่ผ่านมาเป็นปีที่เหนื่อยและยากมากค่ะ”

สำหรับแนวทางการรับมือเหมี่ยวบอกว่า นอกจากจะทำตามมาตรการของรัฐเรื่องการเว้นระยะห่าง การดูแลความปลอดภัยสุขภาพของพนักงาน ในเชิงกลยุทธ์การทำธุรกิจ ก็ต้องปรับแผนครั้งใหญ่

“ถ้าจะหวังลูกค้าขาจรที่เดินเข้ามาหาเราที่ร้านคงยาก ฉะนั้น เราต้องเป็นฝ่ายไปหาลูกค้า ด้วยความที่เราเข้าไปทำธุรกิจที่ภูเก็ตมาได้ 5 ปีแล้ว ทำให้แบรนด์พอมีชื่อเสียงและเป็นที่ไว้วางใจ บวกกับทีมงานก็เป็นคนในพื้นที่ มีคอนเนกชันพอที่เราจะเข้าไปติดต่อ หรือดีลงานกับโครงการอสังหาริมทรัพย์ และวิลลาต่างๆ ได้ ด้วยการจัดแพกเกจเฟอร์นิเจอร์ให้เขานำไปใช้ตกแต่งในโครงการ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้ายุค New Normal ถือกระเป๋ามาใบเดียวเข้าอยู่ได้เลย เพราะนี่คงไม่ใช่ช่วงเวลาที่ลูกค้าลันลา เดินเลือกเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน ขณะเดียวกัน ในส่วนของลูกค้า เราอำนวยความสะดวกด้วยการเป็น One-Stop Service ที่มีขายเฟอร์นิเจอร์ไม่พอ ยังช่วยเซ็ทให้ลูกค้าได้ ช่วยลูกค้าประหยัดเวลาตัดสินใจได้ง่ายขึ้น พัฒนาระบบจ่ายเงิน ที่สามารถทำผ่านออนไลน์ แอคทีฟเรื่องโซเชียลมีเดียมากขึ้น”

สำหรับการเตรียมความพร้อมเพื่อขานรับ ภูเก็ตแซนด์บอกซ์ เหมี่ยวบอกว่า จากสัญญาณบวกจากดีมานด์ที่เริ่มเข้ามา มีมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้ 3 เดือน อาจเพราะความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนที่ผ่านมา เหมี่ยวเลยมีการส่งทีมดีไซเนอร์ที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว และมีความสมัครใจที่จะเดินทางลงไปเสริมทัพทีมงานในพื้นที่ที่ภูเก็ต เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการทำงาน มีการวางแผนเรื่องโลจิสติกส์ในการส่งสินค้า ซึ่งเหมี่ยวคิดว่าหลังจากมีการเปิดประเทศ ลูกค้าเก่าก็น่าจะเดินทางมาที่ภูเก็ตเยอะขึ้น

ในฐานะผู้ประกอบการ ถามว่าคาดหวังแค่ไหนกับการเปิดภูเก็ตครั้งนี้ “ไม่กล้าคาดหวังเลยค่ะ แต่ก็จะทำให้ดีที่สุด เพราะโควิด-19 เป็นสถานการณ์ที่ทำให้คาดการณ์อะไรยากมาก ต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ไม่ใช่แค่ในประเทศ แต่สถานการณ์โรคระบาดที่เกิดขึ้นทั้งโลกนี้ ทำให้ต้องติดตามสถานการณ์ของทั้งโลก แต่ก็ยังคิดบวกว่า ถ้ามีการวางมาตรการไว้อย่างรัดกุม การเปิดภูเก็ตครั้งนี้ก็น่าจะราบรื่น”

อย่างไรก็ตาม แม้ปีที่ผ่านมาสถานการณ์จะหนักหน่วงแค่ไหน แต่ในฐานะคนทำธุรกิจ เหมี่ยวไม่ถอดใจ “ถ้าเทียบกับธุรกิจโรงแรม เขากระทบตรงๆ ของเราแค่ทางอ้อม แน่นอนว่า ยอดขายเราตก แต่ก็ต้องพยายามคิดบวก ประคองธุรกิจ บอกตัวเองว่าต้องอยู่กับวิกฤตที่เกิดขึ้น และปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ให้ดีที่สุด เหมี่ยวถึงบอกว่า การเปิดภูเก็ตครั้งนี้ เราก็เตรียมพร้อมตั้งใจเต็มที่เพราะถ้าเกิดการเปิดเมืองครั้งนี้ แล้วเกิดสถานการณ์ไม่คาดฝัน มีคลัสเตอร์ ซึ่งตอนนี้เราต้องติดตามใกล้ชิดว่าจะเกิดขึ้นในพื้นที่ไหน อาจจะยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้าย ซึ่งก็ต้องรอดู แต่เหมี่ยวว่าปีนี้คนทำธุรกิจก็อาจจะยังเหนื่อย เพราะต่อให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาแล้ว ก็ต้องดูว่าจะมีปริมาณที่เพียงพอกับเศรษฐกิจไทยแค่ไหน” เหมี่ยวทิ้งท้าย