“ทิพาพร อัชนันท์” แฟชั่นนิสต้าวัยเก๋า หันมาลุยธุรกิจพรม คัสตอมเมด

หลายคนคุ้นหน้าคุ้นตา “น้อย-ทิพาพร อัชนันท์” ในฐานะแฟชั่นนิสต้าวัยเก๋า ที่ออกงานสังคมเมื่อไหร่ ก็เป็นที่จับตามอง เพราะด้วยสไตล์การแต่งตัว ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ไม่เหมือนใคร ล่าสุด เธอผันตัวมาช่วยลูกชายดูแลธุรกิจพรม อย่าง Kustom Karpets ซึ่งเป็นการเล่นคำจากที่จะสะกดด้วยตัว C ก็เปลี่ยนเป็นตัว K

งานนี้ ต้องเรียกว่า เธอหันมาจับธุรกิจที่ไม่ได้ไกลตัว เพราะที่ผ่านมานอกจากจะหลงใหลแฟชั่นเป็นทุนเดิม การแต่งบ้าน โดยเฉพาะ การเลือกพรมสวยๆ มาเพิ่มเสน่ห์ให้บ้าน ก็เป็นอีกหนึ่งแพสชั่นที่เธอรัก และเปรียบเทียบไว้อย่างน่าสนใจว่า พรมก็เป็นเหมือนแอกเซสซอรีอย่างหนึ่งที่ช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้บ้าน

“ก่อนหน้านี้เราทำงานสายการบินมาก่อน เลยมีโอกาสได้เดินทางเยอะ พอตอนหลังมาทำงานด้านแฟชั่น ก็เลยกลายเป็นว่าอินทั้งเรื่องแฟชั่นและการแต่งบ้าน ซึ่งพรมเป็นหนึ่งในของแต่งบ้านที่เราชอบ แต่การจะหาชิ้นที่ถูกใจตรงตามคอนเซ็ปต์ที่เราอยากได้ ค่อนข้างยากพอสมควร ดังนั้น พอลูกชายมาทำธุรกิจพรม ซึ่งมีจุดเด่นคือ มีทั้งพรม Custom ที่ลูกค้าสามารถเลือกวัสดุ แบบ และขนาดเพื่อสั่งทอได้ตามที่ต้องการ ยังมีพรม In-stock พร้อมส่งในไทย และพรม import ที่ลูกค้าเลือกสั่งเข้ามาได้ด้วย เลยเข้ามาช่วยดูแล”

ทิพาพรเสริมด้วยว่า “ปกติลูกค้าเรามีทั้งคนไทยและต่างชาติ มีตั้งแต่ลูกค้าที่ซื้อพรมไปไว้ที่บ้าน และลูกค้าที่เป็นโรงแรมและคอนโดฯ ไฮเอนด์ พูดง่ายๆ ว่า เรามีทั้งลูกค้า B2B และ B2C โดยพรมที่ Kustom Karpet คือ มีทั้งแบบอินดอร์ใช้ในบ้าน ซึ่งทำจากวัสดุธรรมชาติ ตั้งแต่ Silk, Wool, Cotton, ไผ่ ฯลฯ อีกแบบคือ พรมเอาต์ดอร์ ที่ไม่ได้ทำจากวัสดุจากธรรมชาติ แต่มีความคงทนและดูแลรักษาง่าย ที่สำคัญราคาสมเหตุสมผล โดยลูกค้าสามารถออกแบบสีสันและขนาดได้ตามที่ต้องการ เพื่อให้เข้ากับเฟอร์นิเจอร์หรือความชอบ”

ที่น่าสนใจคือ ถึงจะเรียกว่าพรมเอาต์ดอร์ แต่ด้วยจุดเด่นที่บอกไป ทำให้หลายคนนำมาใช้ในบ้าน โดยเฉพาะ พรมประเภท Anti-bacterial ตอบโจทย์คนกลัวฝุ่น แพ้ขนสัตว์ ไปจนถึงตอบโจทย์คนอยากแต่งบ้านด้วยพรม แต่ก็กังวลเรื่องการดูแลเพราะที่บ้านมีสัตว์เลี้ยง เพราะพรม Anti-bacterial ค่อนข้างคงทนและดูแลรักษาได้ง่าย

“เมื่อไม่นานนี้เราเพิ่งย้ายโชว์รูมใหม่ ซึ่งตั้งใจตกแต่งให้ดู homy & friendly เพื่อให้ลูกค้าเข้ามาแล้วรู้สึกสบายใจเหมือนอยู่บ้าน โดยพรมที่ทางแบรนด์จำหน่าย มีทั้งแบบทอมือ ทอเครื่อง และทอผ้าผสมเครื่อง”

นอกจากนี้ Kustom Karpets ยังมีบริการที่ออกแบบมาเพื่อเอาใจใส่ลูกค้าโดยเฉพาะ

“เรามีบริการให้เจ้าหน้าที่ไปช่วยดูหน้างานจริง เพื่อช่วยให้คำปรึกษาลูกค้าว่าควรเลือกพรมลักษณะไหน ไซส์เท่าไหร่ เป็นกึ่งๆ อินทีเรีย ช่วยแนะนำว่าควรวางพรมอย่างไร สีพรมควรเป็นแบบไหน เข้ากับเฟอร์นิเจอร์หรือม่านที่มีอยู่แล้วหรือไม่ เพราะถึงแม้ลูกค้าที่มาหาเรา ส่วนใหญ่จะมีไอเดียอยู่แล้ว ซึ่งถ้าลูกค้าเลือกพรมไปวางแล้วเข้ากับบ้านก็ไม่มีปัญหา แต่บางครั้งพอไปวางจริงๆ อาจจะไม่แมตช์ เราจึงแนะนำให้ลูกค้าเลือกพรมไปหลายๆ แบบ เพื่อไปลองวาง จะได้หาพรมที่ใช่และถูกใจที่สุด ที่สำคัญ เรายังมีบริการหลังการขาย ถ้าพรมสกปรก เรามีพาร์ตเนอร์ที่สามารถช่วยไปทำความสะอาดพรมให้ลูกค้า”

อย่างไรก็ตาม แม้จะดูเป็นธุรกิจที่เฉพาะกลุ่ม แต่ในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา ด้วยความที่ผู้คนหันมาใช้เวลาอยู่บ้านมากขึ้น จึงทำให้ Kustom Karpets ยังคงเติบโต

“อย่างบ้านคนไทย ส่วนใหญ่เป็นพื้นปาร์เกต์ ดังนั้น เจ้าของบ้านจะไม่ค่อยปูพรมเต็มพื้นที่ เพราะยังอยากโชว์ความสวยงามของพื้น ส่วนใหญ่จะใช้พรมเป็นพร็อพ วางใต้โซฟา หรือเลือกพรมขนาดเล็กวางไว้เฉยๆ ต่างกับคอนโดฯ อาจจะปูเต็มพื้นที่ แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะต่อให้เลือกวางพรมแค่บางพื้นที่ ก็ยังช่วยเพิ่มความสวยงามให้บ้านดูมีมิติได้เหมือนกัน ซึ่งเมื่อก่อนเราเองก็ไม่ได้สังเกต แต่พอมาทำงานตรงนี้ ทำให้เห็นว่าแค่ปูพรมเพิ่ม เช่น ตรงโซนโต๊ะกินข้าวพอมีพรมดูแล้วสวย หรือบางบ้านพื้นที่ไม่มาก อาจจะเลือกปูพรมเฉพาะตรงโซนพื้นที่ห้องรับแขก หรือเอาพรมผืนเล็กๆ ไปตั้งโชว์บนโต๊ะ ก็ทำให้บ้านสวย ดูมีมิติขึ้นเช่นกัน”

ในฐานะเจ้าแม่แฟชั่น ถามว่าการแต่งบ้านกับการแต่งตัวเหมือนหรือต่างกันอย่างไร ทิพาพรมองว่าไม่ได้แตกต่าง เพราะนอกจากจะต้องหมั่นอัปเดตเทรนด์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อดูว่าตอนนี้คนชอบแต่งบ้านแบบไหน การแต่งบ้านก็ต้องอาศัยการมิกซ์แอนด์แมตช์ เพื่อสร้างความน่าสนใจและดึงดูดให้กับบ้าน

“อย่างการแต่งตัว เราอาจจะเน้นดึงสีและแอกเซสซอรีมาให้เข้ากับชุด หรือ บุคลิกตัวเอง แต่ถ้าเป็นการแต่งบ้านก็ต้องดูว่า ห้องของเราธีมสีอะไร เฟอร์นิเจอร์สีอะไร พรมที่เลือกใช้จะเข้ามาเพิ่มความโดดเด่นให้บ้านได้อย่างไร หรือเข้ามาเป็น Combination เสริมอย่างไร ส่วนตัวเราไม่ได้มองว่าตัวเองเป็น Fashionista แต่เราแต่งตามบุคลิกที่เราควรแต่ง เลือกแบบที่เข้ากับตัวเอง เน้นความ Simple แต่จะเลือกแอกเซสซอรี อย่าง ต่างหู เข็มกลัด กำไล ให้เข้ากับเสื้อเชิ้ตหรือกระโปรงที่ใส่ เช่นเดียวกับการแต่งบ้าน ส่วนตัวเราก็ชอบแนวโมเดิร์น ที่เน้นโทนสีธรรมชาติ”

ฉายภาพเกี่ยวกับธุรกิจให้เห็นภาพแล้ว ปิดท้ายด้วยสไตล์การทำงาน ทิพาพร ย้ำว่าให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นหลัก เน้นเรื่องของบริการเป็นหัวใจสำคัญ

“เราตามใจลูกค้าอยู่แล้ว เราเน้นให้พนักงานให้บริการลูกค้าเต็มที่ ให้ข้อมูลทุกอย่างที่ลูกค้าอยากรู้ ลูกค้าจะซื้อหรือไม่ซื้ออีกเรื่องหนึ่ง เพราะอย่างน้อยถ้าอนาคตเขาอยากซื้อพรมเขาก็จะนึกถึงเรา ในส่วนของการดูแลพนักงาน เราปล่อยให้แต่ละคนทำงานตามหน้าที่ ทุกคนก็ชำนาญในส่วนที่ทำ ส่วนเราจะอยู่เบื้องหลัง คอยให้ไอเดียมากกว่า” ทิพาพรทิ้งท้าย