ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า คอนโดมิเนียม (Condominium) ได้รับความนิยมมาก ด้วยเหตุผลความสะดวก ปลอดภัย บวกดีไซน์ทันสมัย สาธารณูปโภคครบครัน เรียกว่ารองรับไลฟ์สไตล์คนเมืองปัจจุบันได้เป็นอย่างดี
ยิ่งคอนโดฯบนทำเลทองใจกลางเมือง ผู้คนก็ให้ความสนใจกันมาก เราจึงจัดหนักพาคุณๆ ไปเยี่ยมชมคอนโดฯ หรูกลางเมือง ระดับราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไปถึง 300 ล้านบาท ไปดูกันสิว่า Super Luxury ขนาดไหน
The Ritz-Carlton Residences, Bangkok
“ผมคิดว่า เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เรสซิเดนเซส บางกอก (The Ritz-Carlton Residences, Bangkok) เปรียบเทียบกับคอนโดอื่นๆ ในประเทศไทยคงไม่ได้ ต้องเปรียบเทียบกับคอนโดฯที่ดังระดับโลก อย่างเช่น One Hyde Park หรือ Ion Orchard ที่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นอีกระดับหนึ่ง
เพราะการออกแบบ และวัสดุที่เราใช้เป็นเกรดที่พิเศษสุด รวมถึงหลังจากขายแล้ว ริทซ์-คาร์ลตันจะมาเป็นผู้บริหารงาน คนที่ซื้อสามารถใช้บริการของริทซ์-คาร์ลตันได้เลย ทั้งการดูแลต้นไม้ ทำความสะอาดห้อง ทำอาหาร และดูแลส่วนกลางทั้งหมด ซึ่งเมื่อริทซ์-คาร์ลตันจะมาเป็นผู้ดูแล เขาก็จะมีข้อบังคับ ตลอดจนมาตรฐานการก่อสร้างที่ดีระดับโลก จนเชื่อมั่นได้ว่าตึกของเราจะดีที่สุด และสูงที่สุดของกรุงเทพฯ” คิพศาล เบ็ค ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ให้ข้อมูลความพิเศษของเดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เรสซิเดนเซส บางกอก
โดดเด่นบนทำเลทอง
เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เรสซิเดนเซส บางกอก เป็นส่วนหนึ่งของ“มหานคร” โครงการอสังหาริม
ทรัยพ์ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยมูลค่าโครงการถึง 18,000 ล้านบาท บนพื้นที่รวม135,000 ตารางเมตร และเมื่อก่อสร้างเสร็จในปี 2557 อาคารแห่งนี้ก็จะกลายเป็นตึกที่สูงที่สุดในกรุงเทพฯ
โครงการตั้งอยู่ใจกลางธุรกิจสำคัญของกรุงเทพฯ นั่นคือ ติดกับสถานีรถไฟฟ้า (BTS) ช่องนนทรี ซึ่งสามารถเชื่อมโยงระหว่างถนนสีลมและสาทรได้สะดวก พื้นที่ด้านล่างอาคารถูกจัดให้เป็นพลาซ่ากลางแจ้ง แหล่งรวมสินค้าระดับไฮเอนด์ (high end), ร้านอาหาร , คาเฟ่ (cafe) และกูร์เมต์ มาร์เก็ต (gourmet market) ที่เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง รวมไปถึงยังเป็นที่ตั้งของบางกอกเอดิชั่น บูทีคโฮเต็ล จำนวน 150 ห้อง และชั้น 23-72 จึงจะเป็นส่วนของ เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เรสซิเดนเซส ซึ่งมีทั้งสิ้น 194 ยูนิต (unit)
สำหรับขนาดของห้องพักมีตั้งแต่ 120-850 ตารางเมตร (2-5 ห้องนอน) ในราคาเริ่มต้น 180,000 บาทต่อตารางเมตร ยูนิตที่ราคาถูกที่สุดคือ 30 ล้านบาท ส่วนยูนิตแพงที่สุดจะมีราคากว่า 200 ล้านบาท ซึ่งโครงการนี้เป็นลีสโฮล์ด (leasehold = สิทธิในที่ดินแบบมีกำหนดเวลา) สามารถพักอาศัยได้ 99 ปีค่ะ
ด้านการออกแบบถูกรังสรรค์ขึ้นโดย เดวิด คอลลินส์ สตูดิโอ สำนักงานอินทีเรียดีไซน์ชื่อก้องโลก ภายใต้คอนเซปต์ (concept) ‘พิกเซล’ ที่ออกแบบให้ห้องพักของที่นี่มีลักษณะเสมือนห้องกระจกใส คล้ายกล่องสี่เหลี่ยมยื่นออกมาจากตัวตึก ทำให้ผู้อยู่อาศัยมองเห็นทัศนียภาพภายนอกได้รอบทิศทาง พร้อมเพดานสูงถึง 3.5 เมตร ให้ความรู้สึกโล่งโปร่งสบาย
สะดวกสบายขั้นเทพ!
ด้วยตัวโครงการที่เมื่อซื้อขายเสร็จสิ้นจะได้รับการบริหารจัดการโดยเดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เครือโรงแรมและที่พักอาศัยชื่อดังระดับโลก ทำให้ยืนยันได้ว่า ผู้อยู่อาศัยทุกยูนิตจะได้รับการบริการอย่างดีเยี่ยมตามมาตรฐานโรงแรมห้าดาว ทั้งที่จอดรถส่วนตัว ชนิดระบุหมายเลขทะเบียนใครก็มาแย่งจอดไม่ได้ ก้าวลงจากรถก็มีพนักงานถือกระเป๋า, เปิดประตูให้ รวมถึงพนักงานรักษาความปลอดภัย พนักงานต้อนรับหน้าประตู และเจ้าหน้าที่คอยดูแลความสะดวกต่างๆ 24 ชั่วโมง
ส่วนการบริการสุดพิเศษอื่นๆ ก็มีอีกเพียบ ทั้งห้องสมุด, สระว่ายน้ำกลางแจ้งแบบ 6 เลน, ฟิตเนสเซ็นเตอร์ (Fitness Center) พร้อมครูฝึกส่วนตัว , ห้องชมภาพยนตร์ส่วนตัว และห้องเล่นเกมส์, สปา, บริการดูแลสัตว์เลี้ยง, ซักแห้ง, แม่บ้านทำความสะอาด และที่พิเศษสุดอีกอย่างคือ คลับเล้าจน์ (Club Lounge) ที่เตรียมให้บริการห้องอาหารแบบส่วนตัว, บริการจัดเลี้ยงสุดหรู ที่มองเห็นทัศนียภาพแม่น้ำเจ้าพระยา , จัดอีเว้นต์ (event), จัดประชุม ซึ่งผู้อยู่อาศัยสามารถจองใช้พื้นที่ได้ฟรี โดยบริการทั้งหมดทั้งมวลนี้แยกต่างหากจากโรงแรมค่ะ ทั้งนี้ลูกค้าที่อยู่โรงแรมบางกอกเอดิชั่น ด้านล่างไม่สามารถเข้ามาในส่วนของที่พักอาศัยได้ กระทั่งทางเข้าและลิฟต์ (lift) สำหรับขึ้นที่พักก็แยกส่วนกันอย่างชัดเจน เพื่อให้ลูกค้าในส่วนของคอนโดมิเนียมได้รับความเป็นส่วนตัวสูงสุด
ทว่าเมื่อลูกค้าคอนโดฯ อยากได้บริการใดจากทางโรงแรมด้านล่าง อาทิ สั่งอาหาร หรือเรียกเชฟ (Chef) ขึ้นมาปรุงอาหารสำหรับจัดเลี้ยงให้ถึงห้อง ก็สามารถใช้บริการจากทางโรงแรมด้านล่างได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
185 Rajadamri
“ความพิเศษของที่นี่คือ ความเป็นฟรีโฮล์ด (Freehold = ผู้ครอบครองอสังหาริมทรัพย์ มีสิทธิสมบูรณ์) ของโครงการ และมันคือ ความพิเศษสุดจริงๆ ตรงที่ถนนราชดำริ ไม่ใช่สาทร ไม่ใช่สีลม ไม่ใช่สุขุมวิท ไม่ใช่โซน (zone) ที่แออัด ไม่ใช่โซนที่ทำงานวุ่นวาย แต่เราเป็นโซนที่พิเศษ เหมือนที่เมืองใหญ่อย่าง ลอนดอนที่มี Hyde Park ที่นิวยอร์คมี Central Park ซึ่งคอนโดฯ ที่อยู่ในแถบเหล่านั้นจะมีราคาแพงมาก ซึ่งเราจะเปรียบที่ราชดำรินี้เหมือนกับสถานที่เหล่านั้น
ตึกของเรามี 2 วิว ด้านหน้าเห็นวิวสปอร์ตคลับ (Sport Club) ของราชกรีฑาสโมสร เป็นสีเขียวหมดเลย หันมาด้านซ้ายเป็นสวนลุมพินี ก็จะเป็นสีเขียวเช่นกัน มันจึงสวยมากจริงๆ และที่สำคัญ นอกจากสวยแล้ว เรายังอยู่ในพื้นที่ซึ่งเชื่อมต่อกับสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ง่ายมาก แต่ก็ไม่ถึงกับกระชั้นชิด โครงการเราจะไม่ใกล้รถไฟฟ้าบีทีเอส ถึงขนาดที่จะทำให้ได้ยินเสียงคนจอแจ เข้ามารบกวน แต่ก็ใกล้พอที่จะเดินไปถึงได้ ทำให้การคมนาคมสะดวก ขึ้นรถไฟฟ้าไปสยามพารากอน ไปเซ็นทรัลชิดลมได้ ทั้งยังใกล้โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ใกล้โรงเรียนมาร์แตเดอีวิทยาลัย ใกล้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คือ มันเหมาะกับการเข้าถึงหลายอย่าง” ขวัญฤดี มณีวงศ์วัฒนา รองผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารและภาพลักษณ์องค์กร บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงจุดเด่นของโครงการ 185 ราชดำริ (185 Rajadamri) ว่าอยู่ที่ทำเลสุดเลิศ เดินทางสะดวก แต่ไม่ถึงกับวุ่นวาย แถมซื้อแล้วยังเก็บไว้เป็นมรดกได้ยันลูกหลาน
โดดเด่นบนทำเลทอง
185 ราชดำริ เป็นหนึ่งในโครงการอสังหาริมทรัพย์ของบริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย ด้วยชื่อชั้นจึงการันตีได้ถึงคุณภาพ และมาตรฐานการก่อสร้าง ยิ่งถือเป็นคอนโดมิเนียมแห่งเดียวบนถนนราชดำริ ที่ผู้ซื้อสามารถเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ได้โดยสมบูรณ์ จึงไม่น่าแปลกใจเลย ที่โครงการนี้จะได้รับความสนใจจากเศรษฐีกระเป๋าหนักทั้งหลาย
คอนโดมิเนียมสูง 35 ชั้นแห่งนี้มีกำหนดแล้วเสร็จในปีพ.ศ. 2556 ตั้งอยู่เลขที่ 185 ถนนราชดำริ ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าราชดำริ มีพื้นที่ทั้งหมด 4 ไร่ ประกอบไปด้วยห้องพักจำนวน 268 ยูนิต มีตั้งแต่ขนาด 1-4 ห้องนอน ราคาต่ำสุด 15 ล้านบาท และห้องที่ใหญ่ที่สุดราคาจะอยู่ราว 300 ล้านบาท ซึ่งเป็นเพนท์เฮ้าส์ (penthouse) ที่มีพื้นที่เกือบ 900 ตารางเมตร
สะดวกสบายขั้นเทพ!
ความสะดวกสบายแรกของที่นี่เริ่มจากการออกแบบที่เน้นให้มีเพดานสูง 3 เมตร เพื่อความรู้สึกโล่งโปร่งสบาย และทุกห้องกว้างขวางอยู่สบาย แม้ยูนิต 1 ห้องนอน ราคาเริ่มต้น 15 ล้านบาท ก็ยังมีพื้นที่ถึง 70 ตารางเมตร แถมระเบียงด้านหน้ากว้างขวาง พอที่จะทำให้กิจกรรมต่างๆ อาทิ ทานอาหารยามเช้า หรือดินเนอร์ (dinner) เก๋ๆ ท่ามกลางวิวสวยกลางกรุงฯ
การออกแบบตกแต่งเน้นสไตล์เรียบหรู ดูดี และให้ผู้อยู่อาศัยได้รับความเป็นส่วนตัวอย่างสูงสุด ซึ่งทางคุณขวัญฤดี ยืนยันว่า “185 เราไม่ได้เป็นโรงแรม และไม่ได้ตั้งใจให้เป็นโรงแรม เราวางตำแหน่งชัดเจนว่า เราเป็นคอนโดฯ และเราอยากจะเป็นคอนโดฯ ที่ทำให้คนรู้สึกว่า ซื้อไปแล้วเป็นบ้าน อยู่บ้านที่ตัวเองแต่งเอง และมีความเป็นส่วนตัวสูงสุด”
ถึงแม้จะไม่ได้เน้นการตกแต่งที่หรูหราฟู่ฟ่าดั่งโรงแรม ทว่าสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีให้ ก็ไม่น้อยหน้าคอนโดฯ หรูแห่งใด ด้วยมีครบทั้งมินิสปา, ฟิตเนสเซ็นเตอร์, เซาว์น่า (Sauna), เล้าจน์ (Lounge), พร้อมมาตรฐานการรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง ระบบคีย์การ์ด (keycard) แยกส่วน ที่ผู้อาศัยจะผ่านเข้า-ออกได้เฉพาะชั้นที่ตัวเองอยู่และพื้นที่ใช้สอยทั่วไปเท่านั้น ซ้ำยังมีที่จอดรถ ซึ่งออกแบบมาสำหรับรถหรูระดับซูเปอร์คาร์ (super car) โดยเฉพาะอีกด้วย
เรื่องโดย Lady Manager
ภาพโดย ณัฐพันธ์ ครุฑทิน, ศิวกร เสนสอน
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
Comments are closed.