เที่ยวสวนผลไม้ระยอง กินบุฟเฟ่ต์แบบอิ่มไม่อั้น

>>ไประยองหน้าฝน เปลี่ยนจากลงน้ำทะเลเป็นลุยสวนผลไม้ ชิลกับบรรยากาศแสนชุ่มฉ่ำ ชิมผลไม้ตามฤดูกาลกว่า 20 ชนิด ปิดท้ายด้วยการไปชมแหล่งความรู้ด้านสมุนไพร พร้อมพักผ่อนในบรรยากาศที่ร่มรื่น

การเดินทางไป “ระยอง” ของเซเลบ ออนไลน์ ได้เครือ เคป แอนด์ แคนทารี โฮเทลส์ เป็นผู้จัดทริปพาเดินทางไปเที่ยวชมสวนผลไม้ในวันหยุดพักผ่อน สวนแรกที่เราเดินทางมาถึงคือ “สวนสุภัทราแลนด์” ตั้งอยู่ในอำเภอบ้านค่าย บนทางหลวงหมายเลข 3143 มีพื้นที่กว่า 800 ไร่ มีรถรางชมสวนให้บริการ บนรถจะมีไกด์แนะนำตลอดเส้นทาง และจะมีจุดพักให้เราชิมผลผลิตสดๆ

จุดพักแรกเป็น “บุฟเฟ่ต์ผลไม้นานาชนิด” ภายในอาคารขนาดใหญ่ มีโต๊ะวางผลไม้ที่ถูกปอกจัดเรียงไว้ให้หยิบมารับประทานกันได้แบบไม่อั้น ทั้งมะม่วง มะละกอ ลองกอง มังคุด แก้วมังกร สละ สับปะรด กระท้อน ถัดไปจะเป็นโซนทุเรียนหลากสายพันธุ์ ที่ดูเป็นเป้าหมายของนักท่องเที่ยวทุกคน พนักงานปอกเปลือกให้แทบไม่ทัน บุฟเฟ่ต์ผลไม้จุดนี้จะอยู่กินนานแค่ไหนก็ได้ไม่จำกัดเวลา แต่มีข้อห้ามคือห้ามนำผลไม้กลับบ้าน



เมื่ออิ่มหนำกับทุเรียนไปหลายพู ก็ขึ้นรถรางไปกิน “ส้มตำไทย และสลัดผักไฮโดรโปรนิกส์” ซึ่งเป็นผลผลิตจากทางสวน กันที่จุดพักที่สอง หรือจะเลยไปชิมน้ำผึ้ง ที่จุดพักสุดท้าย ที่มีซุ้มสาธิตการเลี้ยงผึ้งและจำหน่าย พร้อมสอนวิธีการตรวจสอบน้ำผึ้งแท้ว่ามีลักษณะเป็นอย่างไร




ออกจากสวนสุภัทราแลนด์ ก็มุ่งหน้าตรงไปยังแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร “สวนยายดา เจ้บุญชื่น” ที่ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองระยอง มากินบุฟเฟต์ผลไม้ ทุเรียนหมอนทอง เงาะ มังคุด สละ ขนุน พร้อมข้าวเหนียว ส้มตำ ไก่ทอด ราคาผู้ใหญ่คนละ 350 บาท เต็มอิ่มไม่อั้น ไม่จำกัดเวลา สวนยายดา เจ้บุญชื่น มีพื้นที่ 30 ไร่ จึงสามารถเดินชมสวนสบายๆ ถ่ายรูปตามมุมต่างๆ ที่ตกแต่งไว้อย่างน่ารัก ด้านหน้าสวนยังมีร้านขายผลไม้ และของฝาก ราคาย่อมเยาอีกด้วย







อิ่มสำราญกับบุฟเฟ่ต์ผลไม้ไปถึงสองสวน ก็ได้เวลาเดินย่อยในสวนสุดท้ายกับ “สวนสมุนไพร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” ตั้งอยู่ที่กิ่งอำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง เป็นสวนสมุนไพรแห่งแรกของประเทศไทย ถูกสร้างขึ้นบนเนื้อที่ประมาณ 60 ไร่ เปิดให้เข้าชมได้ฟรี ตั้งแต่เวลา 09.00-16.30 น. เปิดบริการทุกวัน ยกเว้นวันจันทร์

สวนสมุนไพร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีส่วนจัดแสดงในร่ม อยู่ภายในอาคารเฉลิมพระเกียรติ 50 พรรษา จัดแสดงเป็นนิทรรศการผ่านสื่อผสม อาทิ บ้านหมอยา, การตรวจธาตุเจ้าเรือน, ประโยชน์ของสมุนไพร เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีส่วนจัดแสดงภาพพระจริยวัตร ที่พระองค์ทรงเป็นนักอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ณ ห้อง “เจ้าฟ้านักอนุรักษ์”​








ส่วนจัดแสดงกลางแจ้ง ปลูกพืชสมุนไพรที่เคยใช้กับการแพทย์แผนโบราณไว้มากกว่า 260 ชนิด มีประมาณ 20,000 ต้น มีการจัดแบ่งไว้เป็นกลุ่มๆ ตามสรรพคุณการรักษาโรคในตำรายาไทยโบราณ ถึง 20 กลุ่ม อาทิ กลุ่มพืชหอม, กลุ่มพืชถอนพิษ, กลุ่มสมุนไพรพิกัดไทย, กลุ่มสมุนไพรรักษาโรคมะเร็ง, กลุ่มยาขับปัสสาวะ เป็นต้น ในการชมส่วนนี้เราจะใช้บริการรถ NGV ที่มีมัคคุเทศก์บรรยาย จะปั่นจักรยานก็มีใช้เช่า หรือจะเดินชมเองก็ได้







หลังจากเหนื่อยมาทั้งวัน ก็ได้เวลาเช็กอินพักผ่อนที่ “โรงแรมแคนทารี เบย์ ระยอง” ริมหาดแสงจันทร์ ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองระยองเพียง 10 นาที มีห้องพักให้เลือก 3แบบทั้ง Studio Suite, 1-Bedroom Suite และ 2-Bedroom Suite ตกแต่งเรียบง่าย เหมาะสำหรับการพักผ่อนแบบครอบครัว เพราะที่นี่โดดเด่นด้านสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีมากมาย อาทิ สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ 2 สระ พร้อมสระน้ำวน ห้องซาวน่า ห้องอบไอน้ำ ห้องฟิตเนสพร้อมอุปกรณ์ โต๊ะพูล แอร์ฮ็อกกี้ และโต๊ะโกล์ ลานโบว์ลิ่งขนาดมาตรฐาน 3 เลน และห้องคาราโอเกะ 2 ห้อง มีห้องอาหาร “No.43 Italian Bistro” ให้บริการอาหารอิตาเลียนหลายเมนู








สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
โรงแรม แคนทารี เบย์ ระยอง โทร. 0-3880-4844
สำนักงานขาย กรุงเทพฯ โทร. 0-2253-3791-7 ต่อ 123
CALL CENTRE 1627
www.capekantaryhotels.com