Travel

“จาคอบส์ ครีก” พาผู้โชคดีท่องออสเตรเลีย…ชิมไวน์ในไร่องุ่นเลื่องชื่อ

Pinterest LinkedIn Tumblr


อีกครั้งกับความประทับใจ “จาคอบส์ ครีก” (Jacob’s Creek) ไวน์ชั้นเยี่ยมจากออสเตรเลีย จัดแคมเปญระดับโลก “วิน เดอะ ทริป ออฟ อะ ไลฟ์ไทม์ ออสเตรเลียน โอเพ่น 2011” (WIN THE TRIP OF A LIFTETIME AUSTRALIAN OPEN 2011) พาผู้โชคดีสัมผัสประสบการณ์ครั้งสำคัญ ท่องเที่ยวประเทศออสเตรเลีย เยือนไร่ไวน์จาคอบส์ ครีก บารอซซ่า วัลเลย์ ณ กรุงอะดิเลด ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นไร่องุ่นที่มีทัศนียภาพสวยงาม และเป็นแหล่งผลิตไวน์ชั้นนำของโลก พร้อมไฮไลต์ชมการแข่งขัน ออสเตรเลียน โอเพ่น 2011 รอบ MEN’S FINAL ณ กรุงเมลเบิร์น ตลอด 6 วัน 5 คืน

ผู้โชคดีจากเมืองไทยคือ สนิฎา ปิ่นขยัน พาคุณแม่ไปร่วมแก๊งค์กับผู้โชคดีจากประเทศต่างๆ โดยทั้งสองเล่าถึงทริปอันแสนประทับใจว่า “เราทั้งคู่รู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้เป็นผู้โชคดีไปร่วมทริปนี้ ที่ประเทศออสเตรเลีย กับ ไวน์ จาคอบส์ ครีก
เริ่มต้นด้วยการเดินทางแบบชิลล์ๆ มุ่งหน้าจากกรุงเทพฯ สู่เมลเบิร์นด้วยเวลา 9 ชม. และอีก 1 ชม. จากเมลเบิร์นต่อไปที่กรุงอะดิเลด แม้ไปถึงกันในช่วงเย็นๆ แต่บรรยากาศตอนนั้นโรแมนติกมาก ได้เห็นพระอาทิตย์ตกดิน อากาศอบอุ่นกำลังดี แถมมีโอกาสได้เดินเล่น พร้อมรับประทานอาหารเย็นกัน นับเป็นมื้อแรกที่สุดวิเศษ แต่สิ่งหนึ่งที่สังเกตได้คือ แม้อะดิเลดจะเป็นเมืองเล็กๆ แต่กลับดูน่ารัก ทุกอย่างลงตัว มีสวนที่ช่วยให้ความสดชื่นรายล้อมอยู่รอบๆ เมือง”
ระหว่างที่ทั้งคู่พักอยู่ที่เมืองอะดิเลด ได้มีโอกาสไปเยี่ยมชม ไร่องุ่นบารอซซ่า วัลเล่ย์ (Barossa Valley) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์พิเศษของทริปนี้ อีกทั้งทาง จาคอบส์ ครีก ให้เข้าไปชมบ้านและห้องใต้ดินสำหรับเก็บไวน์ใต้ถุนบ้าน ซึ่งปกติพื้นที่นี้ไม่อนุญาตให้แขกทั่วไปเข้าชม ยกเว้นเฉพาะแขกวีไอพีของบริษัทเท่านั้น หลังจากนั้นก็ได้ไปที่ Jacob’s Creek Visitor Centre เพื่อชมองุ่นพันธุ์ต่างๆ ในแปลงสาธิต


และสิ่งที่ขาดไม่ได้คือการลองชิมองุ่นสดๆ จากแปลงสาธิต รสชาติชุ่มฉ่ำชื่นใจมาก จาคอบส์ ครีก ไม่เพียงต้อนรับอย่างดีด้วยไวน์รสเลิศที่หลากหลาย แต่ยังบอกเล่าถึงเรื่องราวประวัติศาสตร์อันยาวนานของไวน์ พร้อมชมกรรมวิธีการผลิตไวน์ และรับประทานอาหารกลางวันแสนอร่อย ที่ทุกจานจะเสิร์ฟคู่กับไวน์ของจาคอบส์ ครีก ที่เหมาะที่สุดสำหรับแต่ละจาน เพราะเมื่อจับคู่ได้ดีจะพบว่า ทั้งไวน์และอาหารมีรสชาติดีกว่าที่จะแยกกันดื่มกิน เช่น สปาร์คลิ่ง ไวน์ (Sparkling Wine) Moscato ทานคู่กับแซลมอนเกลือ หรือสลัดผักกับปลาคิง จอร์จ, หรือจะเป็นไวน์ขาวตระกูล Riesling ปี 2001 ที่เด่นทั้งเรื่องรสชาติและความหอม โดยเฉพาะ เมื่อได้ทานคู่กับหอยนางรมรสเด็ดจากทางภาคใต้ของออสเตรเลีย รวมถึงไวน์ Shiraz Vintage ปี 2006 ที่เหมาะกับอาหารทะเลทั้งแบบทอด, บาร์บีคิว และอาหารที่มีกลิ่นเนื้อเข้มชัดเจนอย่างสตูว์หางวัว

ส่วน ปลาราดชีสซอส ควรไปกับไวน์ที่ออกแนวครีมเหมือนกันอย่างไวน์ Chardonnay หรือถ้าเป็นอาหารรสเบาๆ ประเภทสลัด ก็ไปได้ดีกับไวน์สไตล์เบาๆ ของ Sauvignon Blanc ขณะที่ของหวานก็ควรจะคู่กับไวน์หวาน แต่มีข้อแนะนำว่า ไวน์ต้องหวานกว่าตัวของหวาน เพราะถ้าของหวานมีรสหวานกว่า จะทำให้รสของไวน์จืดลง นอกจากนั้นยังได้ทดลองลิ้มรสชาติของไวน์แต่ละแบบ หรือเรียกว่า ไวน์ เทสติ้ง ทำให้ทุกคนในทริปนี้ได้เปิดโลกไวน์ และเข้าใจว่า แม้จะไม่ใช่คอไวน์พันธุ์แท้ แต่ยิ่งมีความรู้เกี่ยวกับไวน์มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งช่วยให้เอ็นจอยและดื่มด่ำกับการดื่มไวน์มากขึ้นเท่านั้น
หลังจากเยี่ยมชมไร่องุ่นบารอซซ่า วัลเลย์ จนจุใจแล้ว แม้เหนื่อยบ้างแต่ก็ยังแอบตื่นเต้นต่อ ที่จะได้บินไปยังเมลเบิร์นเพื่อชมเทนนิสออสเตรเลียน โอเพ่น คู่ชิงชนะเลิศ เมื่อแมตช์ที่รอคอยมาถึง สองแม่ลูกเล่าถึงความประทับใจครั้งนี้ว่า “เราขึ้นแท็กซี่ตั้งแต่เช้าไปสนาม Road Laver Arena ซึ่งแมตช์นี้เป็นการแข่งขันระหว่าง Novak Djokovic และ Andy Murray การแข่งขันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ทั้งสนุกและลุ้นทุกนาที ในที่สุด Novak Djokovic ก็คว้าชัยเป็นครั้งที่ 2 สำหรับการแข่งขันเทนนิสออสเตรเลียน โอเพ่น ถึงแม้เรานั่งอยู่ท่ามกลางแฟนคลับของ Andy Murray แต่ทุกคนมีน้ำใจนักกีฬามาก มองไปรอบๆ เห็นทุกคนพร้อมใจกันปรบมือร่วมแสดงความยินดีเมื่อ Novak Djokovic ได้รับชัยชนะ”


สนิฎา กล่าวทิ้งท้ายว่า “การเดินทางและประสบการณ์ที่ได้ไม่ว่าจะเป็นการเยี่ยมชมไร่ไวน์ จาคอบส์ ครีก ที่บารอซซ่า วัลเล่ย์ พร้อมการรับรองอย่างดีจากทางจาคอบส์ ครีก ไม่ว่าจะเป็นการคัดสรรไวน์และอาหารทุกมื้อมาเป็นอย่างดี บวกกับความเป็นมิตรของเจ้าหน้าที่ที่ให้การดูแลต้อนรับอย่างเป็นกันเอง และพวกเขายังให้ความรู้เกี่ยวกับไวน์และประวัติของจาคอบส์ ครีก และสิ่งที่ประทับใจที่สุดสำหรับทริปนี้คือ การไปชมการแข่งขันเทนนิส ออสเตรเลียน โอเพ่น 2011 คู่ชิงชนะเลิศ ซึ่งเป็นแมตช์ที่แฟนพันธุ์แท้กีฬาเทนนิสทุกคนรอคอย ทุกอย่างที่ได้รับต้องขอบคุณ จาคอบส์ ครีก และ บริษัท เพอร์นอต ริคาร์ด (ประเทศไทย) อีกครั้งที่ทำให้พวกเราได้รับประสบการณ์พิเศษนี้”

 
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่  http://www.celeb-online.net

Comments are closed.

Pin It