>> เมื่อพูดถึงเมือง “ซิดนีย์” ผู้คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึงท่าเรือที่สวยงาม หรือโรงโอเปร่าอันเลื่องชื่อ แต่วันนี้ Celeb Online จะพาคุณไปสัมผัส “ซีดนีย์มุมมองใหม่” โดยการนั่งเรือชมเมืองพร้อมกับจิบไวน์รสเลิศ
ตื่นเต้นทันทีเมื่อได้รับคำเชิญจากไวน์ที่ขายดีที่สุดสัญชาติออสเตรเลีย “จาคอบส์ ครีก” (Jacob's Creek) ให้ไปเยือนดินแดนจิงโจ้แบบเอ็กซ์คลูซีฟเพียงเล่มเดียวในประเทศไทย พร้อมด้วยสื่อมวลชนจากญี่ปุ่น จีน สิงคโปร์ และฮ่องกง ซึ่งนอกจากจะได้สัมผัสกับบรรยากาศและการใช้ชีวิตอย่างสุดพิเศษแล้ว ยังได้จิบไวน์รสเลิศจาก จาคอบส์ ครีก ตลอดการเดินทางครั้งนี้อีกด้วย
ไม่บ่อยครั้งนักที่ “คุณเต็ม-จรัสพรรณ ศรีสวัสดิ์” ผู้จัดการฝ่ายตลาด บริษัท เพอร์นอต ริคาร์ด (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งบริหารไวน์จาคอบส์ ครีก จะจัดทริปเก๋ๆ แบบนี้ แต่อย่างว่าแหละชีเป็นสาวที่ไฮเปอร์และเต็มไปด้วยความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ กิจกรรมดีๆ เหล่านี้จึงเกิดขึ้น ณ ประเทศออสเตรเลีย
การจิบไวน์ตลอดทริปที่เกริ่นไปนั้นไม่ได้หมายความว่า ทริปนี้จะเต็มไปด้วยพวกขี้เมาแต่อย่างใด แต่ทริปนี้ต้องการสื่อให้เห็นว่า “คนเราต้องมีรสนิยมในการชีวิต” ทั้งเที่ยว ชอป กิน ดื่ม ไปพร้อมๆ กัน เพราะฉะนั้นระหว่างทริปถ้ามีบรรยากาศเหมาะๆ อย่าว่าแต่ผู้เขียนเลย คุณผู้อ่านหลายคนก็เชื่อว่าต้องคิดถึงไวน์รสเลิศเป็นแน่!
หลายครั้งที่ไปเยือนซิดนีย์ หรือเมืองอื่นๆ ในประเทศออสเตรเลีย มักจะใช้ชีวิตอยู่แต่บนพื้นดิน แต่คราวนี้เราได้รับประสบการณ์ใหม่โดยการนั่งเรือยอร์ชลำกะทัดรัดล่องรัดเลาะไปตามอ่าวต่างๆ ในซิดนีย์เพื่อชมเมือง ซึ่งถือว่าเป็นมุมมองใหม่และความรู้สึกที่แตกต่างอย่างที่ไม่เคยสัมผัสที่ใดมาก่อน
เวลา 16.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น พระอาทิตย์เริ่มทอแสงสีทองก่อนที่จะอัสดงในช่วงเวลาค่ำ เราเดินลัดเลาะโอเปร่า เฮาส์ เพื่อไปขึ้นเรือยอร์ช แน่นอนว่าระหว่างทางจะต้องพบเจอกับนักท่องเที่ยวจำนวนที่มาชมโอเปาร่า เฮาส์ อันเลื่องชื่อ บ้างถ่ายภาพเป็นที่ระลึก บ้างนัดหมายกันมาปาร์ตี้เล็กๆ เพื่อการผ่อนคลายก่อนที่จะกลับบ้านหรือสังสรรค์ต่อในยามค่ำคืน
เรือยอร์ชค่อยๆ เคลื่อนตัวออกจากฝั่งแล้วลัดเลาะไปตามอ่าวต่างๆ แชมเปญจาก จาคอบส์ ครีก แก้วแรกเริ่มแตกฟองจิบพร้อมกับอาหารฟิวชั่นฟู้ดที่ขอบอกว่าเข้ากันได้ดีกับแชมเปญ หนุ่มน้อยใบหน้าละอ่อนนาม “ลูวิส” เติมแชมเปญไม่ขาด สังเกตได้จากความต้องการของแขกผู้มีเกียรติที่ได้ลงเรือยอร์ชลำนี้มาด้วยกัน
ลูวิส เด็กหนุ่มวัย 18 ปี เป็นลูกชายของกัปตันเรือ โดยมีพี่สาวและคุณแม่คอยเสิร์ฟอาหาร ส่วนพี่ชายกับเขาทำงานอยู่บริเวณเคาน์เตอร์บาร์บนเรือยอร์ช ครั้งแรกที่พบกับลูวิสเขาเป็นหนุ่มที่ดูขึ้อายแต่พอเริ่มทำความรู้จักกับเขาแล้ว ปาร์ตี้บนเรือยอร์ชในค่ำคืนนั้นจึงคึกคักขึ้นมา แถมเขายังชอบเมืองไทยเป็นไทยเป็นสุด โดยเฉพาะเกาะสมุยและเกาะพะงัน ทำให้มีเรื่องราวต่างๆ มาแลกเปลี่ยนกันมากมายไม่รู้จบ
เมื่อถึงเวลาดินเนอร์ อาหารเรียกน้ำย่อยเมนูแรกก็เริ่มเสิร์ฟขึ้น กินสลับกับการจิบไวน์จาก จาคอบส์ ครีก รุ่นต่อๆ ไป ทั้งไวน์ขาวและไวน์แดง ซึ่งได้อรรถรสเป็นอย่างมาก โดยมีฉากซิดนีย์ยามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยแสงไฟระยิบระยับคอยสาดส่องให้ดินเนอร์ค่ำคืนนั้นได้อรรถรสมายิ่งขึ้น หากมองไปยังฝั่งตรงข้ามจากโอเปร่า เฮาส์ จะเห็น “ฮาร์เบอร์ บริดจ์” (Habour Bridge) สะพานเหล็กรูปโค้งสูง 134 เมตร ยาว 503 เมตร อีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเมืองนี้อยู่เคียงข้าง เวลาเห็นภาพถ่ายเมืองซิดนีย์ก็จะต้องเห็นสองสิ่งนี้อยู่คู่กันเสมอ
รวมถึง “ซิดนีย์ ทาวเวอร์” (Sydney Tower) สัญลักษณ์อีกแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่โดดเด่นใจกลางเมือง เป็นหอคอยชมวิวสูง 260 เมตร สูงที่สุดในดินแดนซีกโลกใต้ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนก็จะเห็นหอคอนี้เด่นเป็นสง่า จากชั้นล่างมีลิฟต์ความเร็วสูง ใช้เวลาเพียง 40 วินาทีสู่ชั้นบนสุดซึ่งเป็นจุดชมวิว (Observation Deck) บนนี้มองเห็นเมืองทั้งหมดได้รอบแบบ 360 องศา ทั้งฮาร์เบอร์ บริดจ์ โรงละครซิดนีย์ โอเปรา เฮาส์ ท่าเรือ อ่าวซิดนีย์
วันรุ่งขึ้นเราเลือกเดินทางไปชอปปิ้งในย่านเต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าชื่อดังอย่าง “มายเยอร์” (Myer) และ “เดวิด โจนส์” (David Jones) ริมถนนหรือตามซอกซอย เรียงรายด้วยร้านค้าแฟชั่นมากมาย ทั้งเสื้อผ้า เครื่องประดับ รองเท้า ไม่ไกลกันมีห้าง“ควีน วิกตอเรีย” (Queen Victoria)ห้างสรรพสินค้าเก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดของซิดนีย์ในตึกที่มีอายุกว่าร้อยปี เดินเล่นแล้วได้บรรยากาศเหมือนย้อนกลับไปเดินห้างหรูในอดีต
เดอะ ร็อกส์ (The Rocks) คือย่านชุมชุนแห่งแรกที่ชาวยุโรปมาตั้งถิ่นฐานในออสเตรเลียเมื่อกว่าสองร้อยปีที่แล้ว ปัจจุบันบริเวณนี้กลายเป็นย่านเก่าแก่และมีเสน่ห์ บ้านเรือนโบราณยังคงมีให้เห็นทั่วไป แต่ถูกปรับเปลี่ยนเป็นร้านอาหาร ร้านกาแฟน่านั่งแถมยังมีแหล่งชอปปิ้งแบบวอล์กกิ้งสตรีท หรือถนนคนเดินสไตล์ชิดนีย์ บรรยากาศสบายๆ มีสินค้าดีไซน์และของที่ระลึกแบบไม่ซ้ำใครให้ได้เลือกซื้อ เช่น บูมเมอแรง ลวดลายแปลกตา เครื่องเป่าของชาวอะบอรีจิน ภาพวาด ดอกไม้ ของแต่งบ้าน โปสการ์ด และอื่นๆ อีกมากมาย
ย่านพักผ่อนหย่อนใจอีกแห่งของชาวออสซี่ในบรรยากาศแบบริมอ่าวที่ดูคึกคักเป็นพิเศษ “ดาร์ลิง ฮาร์เบอร์” (Darling Harbour) ท่าเรือที่ล้อมรอบไปด้วยแหล่งบันเทิง หลากหลาย ทั้งศูนย์การค้า พิพิธภัณฑ์ ร้านอาหาร
ที่ดูน่าสนใจสุดในบริเวณนี้คือ ซิดนีย์ อควาเรียม (Sydney Aquarium) พิพิธภัณฑ์สัตว์ทางทะเลที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก จัดแสดงชีวิตของสัตว์น้ำกว่า 10,000 ชนิดที่อาศัยตามเขตชายฝั่งของออสเตรเลีย จุดที่เป็นไฮไลท์ของอควาเรียมอยู่ในโซนของอุโมงค์ใต้ทะเล ยาวถึง 160 สัตว์ทะเลน้ำลึกหลากหลายชนิดมีให้ชมแบบใกล้ชิด เช่น ปลาฉลาม ปลากระเบน ที่ไม่เหมือนอควาเรียมอื่นที่เคยเห็นมาอยู่ที่การจำลองโซนยแนวปะการังอันโด่งดังของออสเตรเลียอายุกว่า 30 ล้านปี หรือที่เรียกว่า The Great Barrier Reef ที่งดงามมหัศจรรย์ของธรรมชาติให้ได้ชมอย่างสมบูรณ์แบบ เพราะเป็นเมืองชายฝั่งที่มีอ่าวน้อยใหญ่โดยรอบ
นับเป็นประสบการณ์ใหม่อย่างที่ไม่เคยมีไวน์ยี่ห้อใดเคยกล้าจัดทริปสุดเอ็กซ์คลูซีฟแบบนี้มาก่อน ถ้าไม่ใช่ “จาคอบส์ ครีก” แล้วพบกันใหม่ในทริปสุดเอ็กซ์คลูซีฟครั้งต่อไป ที่จาคอบส์ ครีก เตรียมไว้สำหรับคอไวน์ที่มีรสนิยมในการชีวิต ::Text by Flash mag.
>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
Comments are closed.