หากเอ่ยถึงเมืองภูเก็ต หลายท่านคงนึกถึงหาดทรายสุดสวย น้ำทะเลใสๆ เกาะสวรรค์ที่น่าไปเยือนเสียเหลือเกิน แต่อีกหนึ่งมนต์เสน่ห์ของเมืองภูเก็ต ที่สร้างความตรึงตราใจให้กับนักบรรดานักท่องเที่ยวให้ยิ่งหลงรักเมืองทะเลสวยนี้เข้าไปใหญ่ก็คือ “อาหารพื้นเมือง” ที่มีรสชาติกลมกล่อมกำลังดี ผสานวัฒนธรรมใต้ปนจีนได้อย่างลงตัว ..จนน่าลิ้มลอง !
Lady Manager มีโอกาสดี ได้ล่องใต้ไปร่วมทริป “เทศกาลอาหารพื้นเมือง ของดีชาวภูเก็ต ครั้งที่ 4” กับสมาคมภัตตาคารไทย ที่จัดขึ้นเมื่อ 25-29 มกราคม 2555 ณ เวทีกลางสะพานหิน อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต
เราไม่ลืมเก็บเกี่ยวภาพบรรยากาศ และเมนูอาหารพื้นเมืองแท้ๆ ที่แสนจะน่าทานมาให้คุณได้ชมกัน
บรรยากาศยามเย็น น่าช้อปแอนด์ชิมแบบชิลล์ๆ
บรรยากาศลานกว้าง ณ เวทีกลางสะพานหิน ดูโล่ง โปร่งสบาย เรียงรายไปด้วยซุ้มอาหารพื้นเมืองกว่า 100 ซุ้ม ให้นักชิมได้เลือกซื้อหากันจนละลานตา ด้านหน้ามีเวทีกิจกรรม จัดการแสดงเผยแพร่วัฒนธรรมของชาวภูเก็ตให้นักชิมนักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลิน หลังเดินช้อปอาหารพื้นบ้านกันหนำใจ หากจะซื้อกลับไปรับประทาน ณ ที่พัก ก็ย่อมได้ แต่หากอยากซื้อปุ๊บทานปั๊บ ก็สามารถจับจองเก้าอี้ นั่งรับลมเย็นชมสารพัดการแสดงบนเวทีกิจกรรมได้ตามอัธยาศัย
ที่สำคัญ งานนี้เขามีสโลแกนว่า “อร่อยได้ ไร้แอลกอฮอล์” นั่นหมายถึง ทั่วทั้งงานจะเต็มเปี่ยมไปด้วยอาหารพื้นเมืองแสนอร่อย แต่ไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลจำหน่าย ได้บรรยากาศการทานอาหารนอกบ้านแบบสุขภาพดี (แถมไม่มีเสียงเอะอะ จากสิงห์นักดื่มข้างโต๊ะอีกต่างหาก)
ด้านน้องๆ ลูกหลานชาวภูเก็ตไม่น้อยหน้า เมื่อมีงานใหญ่ประจำจังหวัดทั้งที ก็ต่างร่วมมือร่วมใจจัดซุ้มโชว์งานฝีมือการแสดงสวมชุดย่าหย๋า มาอวดโฉมให้ผู้ร่วมงานได้ซึมซับอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมของชาวภูเก็ต
อาหารพื้นเมืองแท้ๆ จากพ่อค้าแม่ขายตัวจริง
ไฮไลท์เด็ดของงานคือ การนำเอาผู้จำหน่ายอาหารพื้นเมืองตัวจริงกว่า 100 ราย มารวมกันไว้ในงานเดียว เรียกได้ว่าร้านไหน(รส)เด็ด… ร้านไหนโดน(ใจ) …ร้านไหนชื่อดัง เขาคัดสรรมากองไว้ที่นี่เลยค่ะ
ที่สำคัญ ราคาอาหารของแต่ละร้าน ขายราคาปกติ (ตามที่ขายอยู่เป็นประจำ) รับประกันเลยว่า รสชาติดี ไม่มีชาร์ตเพิ่ม
เมนูพื้นเมืองแท้ๆ แปลกหน่อยแต่หรอยจังอู้
อาหารภูเก็ตเกิดจากการผสมผสานทางวัฒนธรรมของชาวพื้นเมืองทางใต้และชาวจีน ทำให้อาหารภูเก็ตแม้จะมีรสชาติร้อนแรงอยู่บ้าง แต่ไม่ถึงกับเผ็ดจัด ด้วยเพราะเป็นการผสมระหว่างรสชาติเผ็ด (จากอาหารใต้) กับอาหารรสชาติอ่อน (จากอาหารจีน) อาหารภูเก็ตจึงค่อนข้างกลมกล่อมลงตัวอย่างมีเอกลักษณ์
สำหรับคนพื้นเมืองภูเก็ต อาหารหลายอย่างที่จำหน่ายอยู่ภายในงานอาจคุ้นตากันดี ทว่าสำหรับนักชิมภาคอื่นๆ เมื่อได้เห็น..เป็นต้องตื่นตาตื่นใจแน่ เพราะบางเมนูน่ะ ชื่อก็ไม่คุ้นหู มองดูก็แปลกตา แม้แต่ยามชิมก็อาจไม่คุ้นลิ้น ทว่าหากลองชิมอาจอกติดใจ จนลืมไม่ลง
เมนูเด็ดที่แปลกตา มีจำหน่ายมากมายในงาน ทว่าเราคัดเมนูเด่นที่ได้รับความนิยมสูง (เห็นได้จากการที่มีผู้ร่วมงานต่อคิวซื้อกันเป็นโขยง) มาให้ได้ยลยั่วน้ำลายซักหน่อย
โลบะ คือ อาหารที่ทำจาก การหัวหมูและเครื่องในหมูมาต้มด้วยเครื่องพะโล้ แล้วจึงนำไปทอดอีกครั้ง ยามจะสั่งซื้อนักชิมสามารถเลือกได้ว่าจะเอาส่วน หู, ลิ้น, ไส้, ปอด หรือตับ ทั้งนี้ โลบะ นิยมรับประทานคู่กับต่าวกั้ว (เต้าหู้ทอด) หรือหากจะเสิร์ฟให้พิเศษกว่านั้น อาจรับประทานกับ ต่าวกั้วจี่ (เต้าหู้เหลืองสอดไส้กุ้งกับถั่วงอกแล้วนำไปทอด) หรือเกี้ยน (ทำจากหมูสับ, กุ้ง, ปู, มันแกว, เผือก ห่อด้วยฟองเต้าหู้ นำไปนึ่งสุกแล้วจึงนำมาชุบแป้งทอด) ส่วนน้ำจิ้ม เป็นสูตรเฉพาะของโลบะ มีรสหวานอมเปรี้ยว ทำจากมะขามเปียกเคี่ยวกับน้ำตาล พร้อมเติมความเผ็ดอีกนิดด้วยพริกป่น ทานแล้วกลมกล่อมเข้ากันสุดๆ
โอต้าว มีลักษณะคล้ายหอยทอดของภาคกลาง ทว่าแป้งจะมีลักษณะนุ่ม และรสกลมกล่อม ใส่ส่วนผสมอันได้แก่ หอยติบ (หอยหอยนางรมพันธุ์เล็ก), เผือกนึ่ง, ไข่, ถั่วงอก ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว น้ำตาล พริกตำ ปรุงรสผัดให้เข้ากันแล้วจึงโรยด้วยกากหมู หอมแดงเจียว เสิร์ฟพร้อมถั่วงอกสดและซอสพริก
ฮูแช้ ถือเป็นสลัดของชาวภูเก็ตค่ะ มีลักษณะคล้ายยำใหญ่ ประกอบไปด้วยผักกาดหอม, ไข่ต้ม, มะเขือเทศ, เต้าหู้เหลืองทอด, แตงกวา, มันแกว, แครอท, หมี่กรอบ เวลารับประทานจะนำน้ำจิ้มราดก่อน แล้วจึงคลุกรวมกัน น้ำจิ้มหรือน้ำปรุงของฮูแช้ ทำจากมะขามเปียก, น้ำตาล, มะนาว, ถั่วลิสงคั่ว และงาขาวคั่ว ให้ครบรสชาติ ทั้งหวาน, เค็ม, เปรี้ยว และเผ็ดเล็กน้อย ทานแล้วกลมกล่อมหอมอร่อย ได้ความกรุบกรอบ จากหมี่กรอบ มันแกว และแตงกวา แถมได้สารอาหารอันเป็นประโยชน์และใยอาหารอีกเต็มๆ
เกลือเคย ถือเป็นอาหารว่างพื้นเมืองของภูเก็ต เกลือเคยปรุงจากพริกขี้หนู, กุ้งแห้งตำละเอียด, กะปิ, ซีอิ้ว, น้ำตาลทรายแดง, น้ำตาลทรายขาว และน้ำ เวลารับประทาน ชาวภูเก็ตจะนำน้ำเกลือเคยนี้มาราดบนเลือดหมูต้ม แตงกวา และผลไม้อื่นๆ เช่น ชมพู่ สับปะรด คลุกเคล้าแล้วรับประทาน ได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ของกะปิ รสชาติกลมกล่อม เปรี้ยว หวาน เค็ม กำลังดี (ทานไป…ทานมา ก็คล้ายยำผลไม้ ทว่าใส่เลือดหมูเพิ่มเข้าไปน่ะคะ)
โอ้เอ๋ว ขนมหวานพื้นเมืองที่ชาวภูเก็ตยืนยันว่า มีประโยชน์ล้นเหลือ และแม้ “โอ้เอ๋ว” จะชื่อแปลกหูไปสักนิด แต่พอเห็นหน้าตาแว้บแรก หลายท่านอาจร้องอ๋อ คิดว่านี่คือ น้ำแข็งใสราดน้ำแดงแสนธรรมดา ทว่าแท้จริงแล้ว ความพิเศษของโอ้เอ๋ว อยู่ที่ก้อนขาวที่ดูคล้ายวุ้นนั่นแหละค่ะ เพราะมันไม่ใช่วุ้นธรรมดา แต่เป็น “โอ้เอ๋ว” ซึ่งทำจากการนำเปลือกกล้วยน้ำว้ามาขูด ผสมกับเมล็ดโอ้เอ๋ว (มีลักษณะเป็นเมล็ดสีขาวนำเข้าจากเมืองจีน) และไม่ใช่แค่กินเย็นกันเพลินๆ เพราะโอ้เอ๋วน่ะ มีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการร้อนใน กระหายน้ำได้เป็นอย่างดี
ชาวภูเก็ตนิยมนำโอ้เอ๋วมาใส่พร้อมกับเครื่องเคราอาหารหวานอื่นๆ อาทิ เฉาก๊วย ถั่วแดง แล้วราดด้วยน้ำเชื่อม ก่อนจะใส่ด้วยน้ำแข็งป่น ทว่าหากจะประยุกต์สักหน่อยก็ใส่น้ำแดงกลิ่นสละ ได้รสหวานเย็นชื่นใจมากขึ้นไปอีก
อาโป้ง เรียกอีกอย่างว่า ขนมเบื้องมาเลย์ หน้าตาขนมคล้ายกับขนมถังแตก ที่ไม่มีไส้ ชาวภูเก็ต นิยมรับประทานกับน้ำชายามเช้า รสชาติกลมกล่อมหอมกลิ่นกะทิ (ที่ผสมอยู่ในเนื้อแป้ง) เสน่ห์ความอร่อยของอาโป้ง อยู่ที่กลางแผ่นแป้งจะหนานุ่ม แต่ด้านข้างแผ่นแป้งจะบางกรอบ
…นำมายั่วน้ำลายให้คุณๆ ได้ชมกันพอหอมปากหอมคอ หากใครอยากเดินชิลล์ พร้อมลิ้มรสอาหารเด็ด ในเทศกาลอาหารพื้นเมืองภูเก็ตอีกครั้ง คงต้องเงี่ยหูฟังกันดีๆ ว่าปีหน้าจะจัดขึ้นเมื่อไหร่ ทว่าหากท่านใดอดใจรอไม่ไหว จะหิ้วเป้ล่องใต้ไปตระเวณลิ้มรสอาหารภูเก็ตพื้นเมืองกันวันนี้ พรุ่งนี้ ….ก็ตามสะดวกเลยจ้า
โดย Lady Manager
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
Comments are closed.