>>เล็งอยู่หลายครั้งเวลาที่มีโอกาสเดินทางไปพักผ่อนที่หัวหิน เพราะระหว่างการเดินทางจากตัวเมืองจังหวัดเพชรบุรี ก่อนจะถึงชะอำสัก 5 กิโลเมตร จะเห็นชิงช้าสวรรค์อันใหญ่ตั้งตะหง่านเป็นจุดดึงดูดสายตาของเราเสมอ…ในที่สุดเราก็ได้มาเยือนจริงๆ ซะที …ที่ซานโตรินี พาร์ค ชะอำ
“ซานโตรินี พาร์ค ชะอำ” ถือว่าเป็นแลนด์มาร์กแหล่งช้อปปิ้งและท่องเที่ยวรูปแบบใหม่เชิงไลฟ์สไตล์ในย่านหัวหิน-ชะอำ ที่มาพร้อมสโลแกน “Amused Shopping Experience” หรือ “สีสันใหม่แห่งประสบการณ์ความสนุก” หวังดึงนักท่องเที่ยวและนักช้อปเป็นสำคัญ ชูเป็นโมเดลแหล่งท่องเที่ยวระดับนานาชาติแถบชายฝั่งทะเลอ่าวไทยตามยุทธศาสตร์ Royal Coast เพิ่งผ่านการเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
โดยซานโตรินีพาร์คแห่งนี้ตั้งเป้าดึงลูกค้ามาใช้บริการ 1 ล้านคนต่อปี และยังเตรียมขยายเฟสต่อไปภายใน 3 ปี และยังจะขยายการลงทุนไปยังหัวเมืองท่องเที่ยวในภูมิภาคอื่นเพื่อตอบสนองตลาดท่องเที่ยวที่กำลังเติบโตในอนาคตอีกด้วย
โครงการซานโตรินี พาร์ค ชะอำ ใช้เงินลงทุนกว่า 500 ล้านบาท บนพื้นที่ 60 ไร่ โดยเป้าหมายของโครงการ ต้องการให้เป็นแลนด์มาร์กใหม่ระดับพรีเมียมในแถบชายฝั่งทะเลอ่าวไทย เพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลายของนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง สร้างสรรค์ประสบการณ์ช้อปปิ้งและท่องเที่ยวรูปแบบใหม่เชิงไลฟ์สไตล์ในย่านหัวหิน-ชะอำ โดยให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ตลอดจนเทศกาลต่างๆ ที่นักท่องเที่ยวต้องมาเยือน อีกทั้งสถานที่และบรรยากาศในช่วงเย็นจนถึงค่ำยังเหมาะเป็นสถานที่พักผ่อน พบปะสังสรรค์ รับประทานอาหารในหมู่เพื่อนและครอบครัว ทั้งนี้ตั้งเป้าว่าภายในสิ้นปี พ.ศ. 2555 จะมีลูกค้าหมุนเวียนมาใช้บริการมากกว่า 1 ล้านคน
จุดขายสำคัญของโครงการนี้ก็คือการให้น้ำหนักกับบรรยากาศ และคอนเซ็ปต์ซึ่งอิงกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่ชอบใช้เทคโนโลยีผ่านสมาร์ทโฟนซึ่งพัฒนาไปรวดเร็วมาก คือคนชอบถ่ายรูป ชอบแชร์รูป ดังนั้นคอนเซ็ปต์คือทุกมุมภายในโครงการฯ ต้องถ่ายรูปสวย มีความแตกต่างด้วยสถาปัตยกรรมสีฟ้า-ขาวสไตล์เกาะซานโตรินี ประเทศกรีซ ฉากหลังของโครงการเป็นภูเขา ซึ่งดูแล้วมีเสน่ห์มากๆ
ซานโตรินี พาร์ค ชะอำ ยังถือเป็นสถานที่แห่งสีสันที่จะจัดให้มีกิจกรรมตลอดทั้งปี โดยได้ออกแบบพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า 3,000 ตารางเมตรให้สอดคล้องกับกิจกรรมต่างๆ ที่จะจัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีสัดส่วนการใช้งานที่ลงตัว และยังได้รังสรรค์บรรยากาศให้เหมาะสำหรับการพักผ่อนต่างสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นการจัดพื้นที่สวนที่เปิดโล่งเพื่อให้สามารถนั่งฟังเพลงจากคอนเสิร์ตเล็กๆ พร้อมวิวสวยๆ รอบตัว นอกจากนี้ ยังตอบรับการเป็นเมืองท่องเที่ยวของคนรักดนตรีด้วยลานคอนเสิร์ตที่สามารถจุได้ถึง 2,000 ที่นั่ง หรือ 5,000 คนยืน ซึ่งพร้อมสำหรับจัดกิจกรรมบันเทิงกลางแจ้งเต็มรูปแบบ และด้วยทิวทัศน์ที่สวยงามพร้อมกับการตกแต่งอย่างตั้งใจในทุกรายละเอียด ซึ่งไม่ได้เน้นแค่ความสวยงามแต่ให้รู้สึกถึงการเป็นสถานที่ที่สร้างสรรค์ แปลกใหม่ และให้ความสุขใจ จึงเหมาะกับการเลือกเป็นสถานที่จัดงานสำหรับคู่รักที่ชื่นชอบรูปแบบงานแต่งงานที่ไม่เหมือนใครอีกด้วย
ขณะนี้มีร้านค้าเข้ามาจองพื้นที่แล้วกว่า 80% และคาดว่าจะเต็มโครงการภายในเดือนพฤษภาคมนี้ และปัจจุบันยังเปิดรับร้านจำหน่ายสินค้าจากผู้ประกอบการ SME ที่มีแนวความคิดอินเทรนด์ไม่ซ้ำใคร เพื่อเป็นการสนับสนุนผู้ประกอบการรายใหม่ๆ ด้วย
ทั้งนี้ โครงการซานโตรินี พาร์ค ชะอำ แบ่งเป็น 5 โซนหลัก เพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลายของนักท่องเที่ยว
:: โซนวิลเลจ (Village) รวบรวมร้านค้าที่ตอบสนองความต้องการและความชอบได้ทุกเพศทุกวัย ที่ไม่เพียงมีสินค้าแบรนด์เนมชื่อดัง แฟชั่นแอ็กเซสเซอรี่ สินค้าไลฟ์สไตล์ และอาร์ตแอนด์เดคอร์เท่านั้น แต่ยังเปิดรับสินค้าจากผู้ประกอบการ SME ที่มีแนวความคิดอินเทรนด์ไม่ซ้ำใครซึ่งล้วนผ่านการเลือกเฟ้นมาอย่างดีทั้งสิ้น การเดินช้อปปิ้งในโซนนี้จะให้ความรู้สึกราวกับกำลังเดินชมร้านรวงบนเกาะซานโตรินี ทุกร้าน ทุกแบรนด์จะออกแบบหน้าร้านให้กลมกลืนกับตัวอาคาร นอกจากนี้ยังมีส่วนของร้านอาหารชั้นนำ เพสตรี้ ช็อป และคาเฟ่ให้ได้เพลิดเพลินในระหว่างช้อปปิ้ง
สำหรับร้านค้าในโครงการฯ มีทั้งหมดประมาณ 140 ร้าน เน้นสินค้าไลฟ์สไตล์ แฮนด์เมด และร้านอาหาร โดยมี แบรนด์เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายชั้นนำ เช่น Pena Weekend, 17 CLUB, Timberland, Converse, Adidas Neo, Adidas Kids, Nike, Levi’s, Ten & Co, Hollywood, U-FO, Geox, Crocs, Hush Puppies, Lockport, Dockers, GTH Store เป็นต้น แว่นตาและเครื่องประดับ เช่น Ray Ban, All About Accessories เป็นต้น
นอกจากนั้น ยังมีร้านอาหารรองรับหลากหลาย เช่น ร้านเบเกอรี่ Grape Story, ร้านไอศกรีมผลไม้ Fruz Scoop, เบอร์เกอร์สไตล์อเมริกันรสชาติถูกปากคนไทย Cable Grill, ไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟที่หอมมันนุ่มลิ้น Froz on Ice เมนู Fish & Chip ของแท้สไตล์ตะวันตกที่ Pier 39 Fish & Ship, เมนูยากิโซบะรูปแบบใหม่ที่คุณไม่เคยสัมผัสในสไตล์ยากิโซบะบุฟเฟต์ Yakisoba Mania, ร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่น ข้าวหมูทอดสไตล์ญี่ปุ่น ข้าวหน้าแกงกะหรี่ และซุปมิโซะหอมๆ รสชาติแท้ Katsu-O และ The Donkey Deck Beer Bar พบกับเบียร์นานาชาติเย็นชื่นใจที่มีให้คุณเลือกตามสไตล์ที่ชอบ
:: โซนพาร์ค (Park) ที่ยกเอาสวนสนุกขนาดย่อมมาไว้บนพื้นที่สีเขียว เครื่องเล่นทุกชิ้นผ่านการคัดสรรมาอย่างดีในแง่ความสนุก ความแปลกใหม่ และความปลอดภัย ทั้ง Ferris Wheel ชิงช้าสวรรค์ที่สูงถึง 40 เมตร ให้นักท่องเที่ยวได้เห็นโครงการฯ ในมุมมอง Bird’s eye view อย่างจุใจ และยังเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของโครงการนี้อีกด้วย นอกจากนี้ ยังมี Merry Go Round หรือม้าหมุน 2 ชั้น และ Ponycycle ม้าโยกสุดคลาสสิก ที่จะหมุนพาไปสู่สัมผัสแห่งเทพนิยาย สำหรับผู้ที่รักความตื่นเต้นก็มีเครื่องเล่นหลากหลายไม่ว่าจะเป็น G-Max Reverse Bungee แคปซูลดีดขึ้นฟ้า และ G-Max Giant Swing นำเข้าจากประเทศนิวซีแลนด์ผู้นำด้านกิจกรรมแอดเวนเจอร์ Water Ball ลูกบอลกลางน้ำที่จะทำให้เด็กๆ ได้สนุกภายในลูกบอลยักษ์ รวมถึง XD Dark Ride เครื่องเล่น 7D สุดไฮเทคสั่งตรงจากประเทศแคนาดา และ 4DX Rider โรงภาพยนตร์สุดยอดประสบการณ์ 4 มิติ พิเศษสำหรับ Slider และ Wallholla เครื่องเล่นปีนป่ายที่มีรางวัลการันตีจากประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นตัวแรกในเอเชีย เป็นความสนุกเพิ่มเติมที่จัดมาบริการ ฟรี!
:: โซนเรสต์ แอเรีย (Rest Area) ออกแบบมาเพื่อรองรับความต้องการของผู้มาใช้บริการภายในพาร์ค และผู้ที่สัญจรสู่ภาคใต้และผู้ที่มุ่งหน้าสู่กรุงเทพฯ เนื่องจากอาคารอยู่ติดถนนเพชรเกษมจึงสามารถรองรับลูกค้าได้ทั้ง 2 ด้าน ด้วยร้านอาหารที่พร้อมรอเสิร์ฟกว่า 10 ร้าน หรือนั่งจิบกาแฟในบรรยากาศสบายๆ อีกทั้งยังมีร้านสะดวกซื้อ ร้านขายของฝาก ร้านขายยา และปั๊มน้ำมันขนาด 8 หัวจ่ายไว้บริการ ซึ่งในขณะนี้ร้านค้าต่างๆ กำลังอยู่ในระหว่างตกแต่ง และกำลังทยอยเปิดให้บริการเพิ่มขึ้นเป็นระยะ จัดว่าเป็นโซนที่ให้บริการผู้เดินทางได้อย่างครบถ้วน
:: โซนอีเว้นต์ (Event) จัดให้เป็นพื้นที่สำหรับจัดกิจกรรมผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนตลอดปี ทั้งกิจกรรมพิเศษ โชว์ต่างๆ บนพื้นที่กว่า 3,000 ตารางเมตร หรือคอนเสิร์ตที่จุผู้ชมได้ถึง 2,000 ที่นั่ง หรือ 5,000 คนยืน
:: โซนวีคเอนด์ อาร์ต มาร์เก็ต (Weekend Art Market) Destination of Art ที่จะจัดขึ้นทุกวันเสาร์-อาทิตย์ คนรักงานศิลปะจะได้เพลิดเพลินไปกับการเลือกซื้อสินค้าแฮนด์เมดที่ไม่เหมือนใคร ในบรรยากาศตลาดนัดในสวน ซึ่งวางแผนจะเปิดตลาดให้ช้อป ชม ชิม ได้ในช่วงปลายปีนี้
โครงการซานโตรินี พาร์ค ชะอำ กำหนดเวลาเปิด-ปิด วันจันทร์-วันพฤหัสบดี เวลา 10.00-21.00 น. เปิดให้เข้าชมฟรี (ยกเว้นเครื่องเล่นเก็บค่าบัตรตามปกติ) และช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ วันศุกร์-วันอาทิตย์ และวันนักขัตฤกษ์ เวลา 10.00-22.00 น. ค่าบัตรผ่านประตูราคา 50 บาท
รายละเอียดเพิ่มเติม www.santoriniparkchaam.com, www.facebook.com/SantoriniPark, www.twitter.com/santorinipark :: Text by FLASH
>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net หรือ App Store ได้แล้วที่ celeb online ipad edition
Comments are closed.