Travel

ตะลุยไร่ชา ชมดอกไม้นานาพันธุ์ ณ แดนสวรรค์ “คาเมรอน ไฮแลนด์”

Pinterest LinkedIn Tumblr


เมื่อเมฆฝนพัดผ่านไป ก็ได้เวลาที่นักเดินทางผู้ชื่นชอบการท่องเที่ยว ได้ไปเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ กัน ครั้งนี้เรามีโอกาสร่วมทริปไปกับ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ที่จับมือกับ การท่องเที่ยวมาเลเซีย พาไปเปิดมุมมองท่องเที่ยวในสถานที่ใหม่ๆ ที่คนไทยไม่ค่อยได้ไปสัมผัสกันเท่าไหร่ กับดินแดนที่มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี “คาเมรอน ไฮแลนส์”



“คาเมรอน ไฮแลนส์” ดินแดนที่ราบสูงสีเขียว ซึ่งมีอากาศโล่งโปร่งที่สุดของมาเลเซีย เป็นเมืองที่มีผู้มาเยี่ยมเยียนตลอดทั้ง 365 วัน และเมื่อทุกอย่างพร้อม เราก็ทะยานสู่ท้องฟ้ากับสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ที่บินตรงจากเกาะสมุย-กัวลาลัมเปอร์ กับการเดินทางแสนสะดวกสบายที่มีบริการเที่ยวบินทุกวัน
ใช้เวลาบินเพียงชั่วโมงนิดๆ ( จากเกาะสมุย) ก็มาถึงเมืองกัวลาลัมเปอร์แล้ว จากนั้นก็ต่อรถบัสเพื่อเดินทางขึ้นไปยังที่ราบสูง “คาเมรอน ไฮแลนส์” ระยะทางจากกัวลาลัมเปอร์ไปปลายทาง200 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 3.5 ชั่วโมง เหตุที่ใช้เวลานานนั้น เนื่องจากเส้นทางสู่คาเมรอน ไฮแลนด์ นั้น เป็นทางขึ้นเขา มีสภาพคดเคี้ยวผ่านโค้งกว่า 800 โค้ง สำหรับใครที่เมารถ แนะนำว่าให้กินยาแก้เมารถกันไว้ก่อน จะเป็นการดีที่สุด มิเช่นนั้นจะหาว่าเราไม่เตือน
ระหว่างทางหากคุณไม่หลับในขณะที่รถบัสกำลังไต่เขาขึ้นไปนั้น แนะนำให้ลองมองออกไปชมวิวนอกหน้าต่างรถ เพราะตลอดเส้นทางขึ้นเขาทั้ง 2 ข้างทางนั้น จะเต็มไปด้วย “ต้นไม้เขียวขจี” ที่บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ของที่นี่ บ้างก็มีชาวบ้านนำของป่า หรือผักผลไม้ เช่น กล้วย สะตอ ทุเรียน ฯลฯ มาวางขายเพื่อเป็นการหารายได้ของผู้คนในย่านนั้นตลอดเส้นทาง


เพราะใช้เวลากับการเดินทางนาน เราจึงมีเวลาศึกษาข้อมูล “คาเมรอน ไฮแลนส์” ตั้งอยู่ในรัฐปาหัง ดินแดนแห่งนี้เดิมเป็นป่าซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่ของชนพื้นถิ่น จนกระทั่งในปี ค.ศ.1885 “วิลเลียม คาเมรอน” (William Cameron) นักสำรวจชาวอังกฤษเดินทางมาค้นพบ ทำให้ปัจจุบันมีชาวอังกฤษนิยมมาพักผ่อนกันเป็นจำนวนมาก ทั้ง ผู้สูงอายุ คนเกษียณอายุ หรือว่าจะเป็นคู่รัก รวมถึงนักท่องเที่ยวจากชาติอื่นๆ ก็เริ่มมาท่องเที่ยวพักตากอากาศที่นี่กันมากขึ้น
บนที่ราบสูงนี้ประกอบไปด้วยเมืองหลัก 3 เมือง ไล่ไปตามระดับความสูง คือ “ริงเลท” (Ringlet) เมืองที่สร้างขึ้นเป็นแห่งแรกในคาเมรอน ชาวเมืองส่วนใหญ่เป็นคนจีน ที่นี่ถือเป็นพื้นที่หลักในการทำสวนผลไม้ สวนผัก เมืองถัดไปคือเมือง “ทานา ราตา”(Tanah Rata) เป็นศูนย์กลางการปกครอง เมืองราชการในอดีต มีบ้านพัก บังกะโล ตลาด ร้านค้า ร้านอาหารมากมาย โดยเฉพาะ กลุ่มตึกเก่า และกลุ่มอาคารกลางเมืองที่สร้างอย่างสวยงามนั้น ซึ่งถือเป็นจุดเดินเที่ยวชั้นดีของเมืองนี้ และเมืองสำคัญลำดับสุดท้ายคือ “บรินชาง” (Brinchang) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่สูงสุดในหุบเขา มีการทำไร่ชา สวนผลไม้ ฟาร์มสตรอเบอร์รี่ และพืชผักเมืองหนาวอื่นๆ
เมื่อมาถึงด้านบน “คาเมรอน ไฮแลนส์” สิ่งแรกที่สัมผัสได้เลยเมื่อลงจากรถ นั่นก็คือ อุณหภูมิที่ลดต่ำลง มีลมเย็นๆ มาสัมผัสผิวกายถึงขั้นต้องรีบหาเสื้อกันหนาวมาสวมใส่ ยิ่งถ้าไปในช่วงเดือน พ.ย.-ก.พ. อุณหภูมิลดเหลือเลขตัวเดียวกันเลยทีเดียว ดังนั้น ที่พักและโรงแรมบนนี้จึงไม่มีการติดตั้งแอร์ แต่จะให้แขกผู้มาพักเปิดหน้าต่างรับลมจากด้านนอกแทน รับรองว่าอากาศเย็นสบายไม่แพ้ติดแอร์แน่นอน ที่สำคัญที่พักบนนี้ต้องจองล่วงหน้ากันเป็นเดือน เพราะเต็มตลอด หากใครจะมาพักบนนี้ต้องวางแผนดีๆ

อากาศเย็นแค่นั้นยังฟินไม่พอ เพราะเมื่อกวาดสายตามองไปรอบๆ ให้ความรู้สึกเสมือนกำลังอยู่ที่ยุโรปก็ว่าได้ ด้วยวิว 360 องศา ประกอบกับ หุบเขาสลับซับซ้อนที่เป็นไร่ชาเขียวขจี มองไปได้ไกลสุดลูกหูลูกตา สดชื่นอย่างบอกไม่ถูก
อยู่บน “คาเมรอน” นอกจากได้สัมผัสอากาศหนาว ที่นี่ยังมีกิจกรรมต่างๆ มากมาย ทั้งการเดินทางผ่านหมู่บ้านเล็กๆ ที่แสนน่ารัก เยี่ยมชมฟาร์มตะบองเพชรเล็ก ไร่สตรอเบอร์รี และฟาร์มน้ำผึ้ง เหยียดแขนขาในไร่ชา ซึ่งไร่ชาที่ดังที่สุดที่นี่หนีไม่พ้น “ไร่ชาสุไหง ปาลัส” (Sungei Palas) ในสังกัด BOH ชาแบรนด์ดังของมาเลเซีย ตั้งอยู่ในเมืองบรินชาง เป็นไร่ชาขนาดใหญ่ที่สูงที่สุดในคาเมรอน ไฮแลนด์ ภายในมีจุดชมวิว จุดถ่ายรูปไร่ชาอันกว้างใหญ่สวยงาม มีการจัดตกแต่งภูมิทัศน์อย่างสวยงาม นอกจากนี้ ยังมีโรงงานผลิตชาเปิดให้เที่ยวชม มีพิพิธภัณฑ์ชาให้เดินดูกรรมวิธีแบบโบราณ รวมถึงมีร้านขายของที่ระลึกเน้นชาสารพัด และร้านอาหาร เครื่องดื่ม ที่มีมุมระเบียงเป็นไฮไลต์ให้นักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปไร่ชาในมุมสวย

รวมถึง “สวนลาเวนเดอร์” (Lavender Garden) ย่าน “Kea Farm” สวนสวยด้านในตกแต่งแสนเก๋ มีมุมสวยงามให้เลือกถ่ายรูปกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็น มุมที่นำรองเท้ามาปลูกต้นไม้ มุมตู้ไปรษณีย์ มุมคิตตี้ที่เด็กๆ ชอบกัน มุมคิวปิด มุมป้ายเก๋ๆ และมุมไฮไลต์คือ มุมแปลงดอกไม้ ด้านหน้าที่ปลูกดอกลาเวนเดอร์ ซัลเวีย บีโกเนีย เป็นแปลงสีม่วง เหลือง แดง ตัดสลับกันอย่างสวยงาม ขณะที่ ด้านบนนั้นเป็นสวนสตรอเบอร์รี่ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินเข้าไปเก็บสตรอเบอร์รี่ในสวนได้
อีกหนึ่งกิจกรรมยอดนิยมในคาเมรอน ไฮด์แลนด์ ซึ่งถือเป็นธรรมเนียมที่นี่ก็คือ การจิบชาและกินขนมสโคน ตามธรรมเนียมในแบบฉบับอังกฤษ ซึ่งเริ่มต้นขึ้นในสมัยที่มาเลเซียเป็นประเทศอาณานิคมของอังกฤษ นายทหารชาวอังกฤษใช้ที่ราบสูงแห่งนี้ เป็นสถานที่ผ่อนคลายจากอากาศร้อนในเมืองด้านล่าง โดยร้านที่แนะนำให้แวะไปจิบชาและลิ้มลองขนมสโคนลูกโตๆ ต้องที่ “โรงแรมสโมกเฮ้าส์” (Smokehouse Hotel) ที่เป็นโรงแรมแห่งแรกในคาเมรอน ไฮแลนด์ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1937 ในสไตล์ทิวดอร์ บริเวณรอบๆ มีสวนหย่อม มีไม้ดอกไม้ประดับตกแต่งอย่างสวยงาม ให้ความรู้สึกเสมือนอยู่ในยุโรป

นอกจากนี้ อากาศบนที่ราบสูง “คาเมรอน ไฮแลนส์” แห่งนี้ ยังได้ชื่อว่าเป็นอากาศที่บริสุทธิ์มากที่สุด ดังนั้น การหลบหนีอากาศร้อนอบอ้าวด้านล่าง มาสูดอากาศบริสุทธิ์ที่นี่สักสองสามวัน ก็สามารถเติมพลังให้แก่คุณได้อย่างแน่นอน
หากคุณยังคิดไม่ออกว่า จะหลบมุมไปพักผ่อนที่ไหนให้ “คาเมรอน ไฮแลนส์” เป็นหนึ่งในตัวเลือกของการพักผ่อนครั้งนี้ รับรองคุณจะฟิน และอยากที่จะกลับมาเที่ยวที่นี่อีกเป็นแน่นอน
สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสำรองที่นั่งได้ที่ www.bangkokair.com หรือ Call center โทร. 1771 ตลอด 24 ชม. รวมถึง การท่องเที่ยวมาเลเซีย สำนักงานกรุงเทพฯ โทร. 0-2636-3380-81

Comments are closed.

Pin It