>>ศูนย์ศิลปาชีพ บางไทร ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และศูนย์การค้าสยามพารากอน ร่วมเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 82 พรรษา พร้อมสืบสานงานศิลป์ไทย จัดงาน “ชื่นชมนานาศิลปาชีพไทย ครั้งที่ 6 ศูนย์ศิลปาชีพ บางไทรฯ” ที่ไลฟ์สไตล์ ฮอลล์ ชั้น 2 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ในช่วงวันที่ 4 -13 กรกฏาคมนี้เท่านั้น
ภายในรวบรวมสุดยอดงานหัตถศิลป์ชิ้นเอกที่รังสรรค์โดยคณาอาจารย์และนักเรียนรวม 20 แผนก กว่า 1,000 ชิ้น นำมาจัดแสดงและจำหน่าย โดยรายได้ส่วนหนึ่งทูลเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โดยเสด็จพระราชกุศล เพื่อบำรุงโครงการศูนย์ศิลปาชีพ บางไทรฯ พร้อมชมการสาธิตงานศิลปหัตถกรรมจากช่างฝีมือแผนกต่างๆ
งานนี้จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 นับเป็นการต่อยอดสนับสนุนให้เหล่าศิลปิน ทั้งคณาจารย์และนักเรียน มุ่งมั่นสร้างสรรค์และพัฒนาผลงานใหม่ๆ อย่างไม่หยุดยั้ง นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสอันดีที่ประชาชนทั่วไปรวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติจะได้มีโอกาสสัมผัสและชื่นชมเอกลักษณ์แห่งผลงานศิลปาชีพ งานศิลป์ไทยที่สร้างสรรค์ด้วยฝีมือคนไทยซึ่งเป็นผลลัพธ์แห่งความคิดสร้างสรรค์ ความพากเพียร ฝีมืออันประณีต และคุณภาพอันเป็นเลิศ การร่วมกันสนับสนุนผลงานศิลปาชีพยังเป็นการร่วมกันพัฒนาและสืบสานศิลปะไทยและสังคมไทยแบบบูรณาการอย่างแท้จริงอีกด้วย โดยมีผลงานที่นำมาโชว์ทั้ง 20 แผนก อันได้แก่
แผนกช่างเขียนภาพลายไทย ที่โชว์ “ภาพจิตรกรรมฝาผนังพระที่นั่งพุทไธสวรรย์” ภาพเขียนสีฝุ่นปิดทอง ซึ่งจำลองภาพจิตรกรรมฝาผนังของพระที่นั่งพุทไธสวรรย์ ที่ได้รับยกย่องให้เป็นมรดกทางจิตรกรรมอันล้ำค่าแห่งยุครัตนโกสินทร์ตอนต้น โดยศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงานยกย่องแรงศรัทธาอันแรงกล้าในพุทธศาสนาของเหล่าครูช่างในอดีต ที่อุทิศตนผ่านศิลปะเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา สะท้อนให้เห็นความเทิดทูนในพุทธศาสนาจากอดีตจวบจนปัจจุบัน อีกหนึ่งชิ้นงานเด่น ได้แก่ “ภาพคชสาร” ศิลปะลายรดน้ำลงรักปิดทอง ที่ถ่ายทอดเรื่องราวของช้างสัตว์คู่บ้านคู่เมืองของไทย ประกอบลวดลายกนก ภาพพื้นภพ เหล่าพรรณพฤกษา และสรรพสัตว์น้อยใหญ่ ศิลปะการลงรักปิดทองถือเป็นสุดยอดแห่งงานประณีตศิลป์ช่างสิบหมู่ ซึ่งปัจจุบันมีศิลปินที่สืบทอดศิลปะโบราณที่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัยนี้อยู่เพียงไม่กี่คนเท่านั้น การลงรักปิดทอง คือ การเขียนลวดลายหรือภาพบนพื้นรัก และนำมาปิดด้วยทองคำเปลว และล้างด้วยน้ำให้เกิดเป็นลวดลาย ซึ่งนับเป็นศิลปะที่ต้องอาศัยการฝึกฝนจนชำนาญ และหาชมได้ยากยิ่ง
แผนกช่างศิลปะประดิษฐ์ อวดโฉม “พานพุ่มประยุกต์” พานพุ่มผ้าแบบไทยประยุกต์อันงดงามวิจิตรสำหรับใช้ในเทศกาลงานมงคลต่างๆ ตามประเพณีไทย ผสมผสานงานประณีตศิลป์หลากหลายแขนงเข้าไว้ด้วยกัน ทั้งการประดิษฐ์พานพุ่ม, การประดิษฐ์เครื่องแขวน, การร้อยมาลัย และงานปั้นดอกไม้จากดินขั้นตอนการประดิษฐ์นั้นสุดแสนประณีต เริ่มจากนำผ้าออร์แกนซ่าสีสันสวยงามมาอัดแข็ง และบรรจงพับเป็นกระพุ้งกลีบดอกไม้และใบไม้ทีละชิ้น จากนั้นนำมาเย็บประกอบเข้าด้วยกันอย่างพิถีพิถัน ดอกพุดสีขาวนั้นใช้ดินไทยมาปั้นทีละดอก และร้อยเรียงด้วยเทคนิคร้อยตาข่ายหน้าช้างแบบโบราณ พานพุ่มที่สร้างสรรค์จากผ้าแทนการใช้ดอกไม้สดนั้น ยังคงไว้ซึ่งฝีมืออันประณีตวิจิตรตามแบบโบราณอย่างครบถ้วน อีกทั้งยังคงความงดงามไว้ได้ตราบนานเท่านาน
แผนกช่างเครื่องเคลือบดินเผาอวดโฉม “ภูผารัตติกาล” แจกันเซรามิกปากแคบทรงเท่แปลกตาสีน้ำเงินเข้มดุจผืนป่าในยามราตรี ถ่ายทอดความงามแห่งท้องฟ้ายามค่ำคืนที่ประดับประดาด้วยแสงของดวงจันทร์และหมู่ดาว แจกันทรงสูงขนาดใหญ่นี้สร้างสรรค์โดยเทคนิคเคลือบไฟที่อุณหภูมิร้อนจัด ผสมด้วยแก้ว ทำให้สีสดสวย เงางาม และแข็งแกร่งทนทาน
แผนกช่างเครื่องเรือนหวายสร้างสรรค์ “เก้าอี้ต้นโพธิ์” เก้าอี้หวายดีไซน์สุดเก๋ สูงถึง 2.7 เมตร โดดเด่นและดึงดูดทุกสายตา โดยนำแรงบันดาลใจมาจากต้นโพธิ์ ต้นไม้ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งพระพุทธศาสนา และยังแผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงาและความร่มเย็นแก่ผู้คน นอกจากนี้ยังมี “เก้าอี้หวายพนักสูง” เก้าอี้หวายพนักสูงแนวคอนเทมโพรารีดีไซน์เท่ ที่มาพร้อมโต๊ะเข้าชุด ทั้งหมดทำจากหวายธรรมชาติ ซึ่งนอกจากช่วยเติมความเป็นธรรมชาติให้กับทั้งการตกแต่งแบบเอาต์ดอร์ หรือเติมกลิ่นอายเท่ ให้กับบรรยากาศอินดอร์แล้ว หวายยังมีความยืดหยุ่น เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นแบบบ้านเรา เฟอร์นิเจอร์หวายจึงแข็งแรงและทนทาน ตอบโจทย์ทุกประโยชน์การใช้สอยอีกด้วย
แผนกช่างเครื่องเรือนไม้ นำเสนอ “ตู้เข้ามุมบานกระจก” ตู้ไม้ยางพาราดีไซน์เข้ามุม มาพร้อมลูกเล่น การฝังหมุดไม้ หรือ Wood Inlay ที่เลือกใช้ไม้เนื้อแข็งต่างโทนสีมาสร้างลวดลาย โดยเหลาให้เป็นแท่งกลมและตอกลงบนตัวตู้ ซึ่งต้องอาศัยความชำนาญเป็นพิเศษ และความพิถีพิถันในการเจาะรูแต่ละจุดให้มีขนาดเท่ากันกับหมุดอย่างพอดิบพอดี ตู้ใบนี้ช่วยประหยัดพื้นที่ใช้สอย และยังสร้างให้มุมหนึ่งของบ้านกลายเป็นจุดดึงดูดสายตา ที่ใช้โชว์ของประดับและของสะสมต่างๆ ได้ และยังมี “ตู้สูงโครงไม้กรุกระจกสามด้าน” ตู้ลอยตัวไม้แอช ไม้ที่นิยมนำมาทำเฟอร์นิเจอร์ เนื่องจากเนื้อไม้สีอ่อนและมีลายไม้สวยงามตามธรรมชาติ และทนทาน
แผนกช่างบ้านทรงไทย ภูมิใจนำเสนอ “ชนบทไทย” จำลองภาพสถาปัตยกรรมไทยภาคเหนือมาไว้ในกรอบไม้รูปแบบ Perspective งดงามสมจริงและมีมิติในทุกมุมมอง แผนกบ้านทรงไทย ศูนย์ศิลปาชีพ บางไทรฯ ถือเป็นต้นฉบับแห่งการสร้างสรรค์เรือนไทยจำลองโดยใช้กระดาษแข็งและไม้สัก มาพร้อมภาพวาดธรรมชาติจากสีอะคริลิก ถ่ายทอดวิถีชีวิตและความเป็นอยู่อย่างไทยได้อย่างดงดงามลงตัว
แผนกช่างภาพกระจกสี นำเสนอ “นาฬิกากระจกสี” ทำให้การบอกเวลาเป็นเรื่องที่สนุกสนาน ด้วกับลวดลายน่ารัก และสีสันแสนสดใส โดยใช้กระจกสเตนกลาสหลากสี มาตัดแต่งให้เป็นขนาดและรูปทรงต่างๆ เกิดเป็นภาพและลวดลายดั่งจินตนาการ
แผนกช่างเป่าแก้ว มาพร้อมของตกแต่งมากด้วยประโยชน์ใช้สอยในคอนเซ็ปต์ดอกบัว ดอกไม้แห่งพุทธศาสนาได้แก่ “ดอกบัวแก้ว” ที่ออกแบบให้สามารถนำองค์พระวางไว้ที่ตำแหน่งเกสรเพื่อบูชา กลีบบัวสีชมพูอ่อนสร้างสรรค์ขึ้นจากเทคนิคการเป่าแก้วจากช่างผู้ชำนาญ จึงอ่อนช้อยดั่งดอกบัวหลวงที่กำลังบานสะพรั่ง ส่วน “เชิงเทียนดอกบัวแก้ว” สีน้ำตาลอ่อนจะเพิ่มความงดงามที่ดูกลมกลืนกับโต๊ะหมู่บูชาที่ทำจากไม้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีของเก๋ๆอย่าง “ชุดเครื่องประดับลูกปัดแก้ว” ประกอบด้วยสร้อยคอ สร้อยข้อมือ และต่างหูสีสันสดใสสไตล์โบฮีเมียนโดยทางแผนกได้พัฒนาเทคนิคพิเศษขึ้น โดยการสร้างสรรค์ให้ลูกปัดแต่ละเม็ดมีลวดลายเก๋ไก๋ต่างสีสันฝังอยู่ในเนื้อแก้ว ซึ่งนำมาจัดแสดงในงานครั้งนี้เป็นครั้งแรก
แผนกช่างสานผักตบชวา นำวัชพืชท้องถิ่นอย่างผักตบชวา มาสร้างสรรค์ให้เกิดประโยชน์และสร้างมูลค่าเพิ่มประยุกต์ให้เป็นข้าวของเครื่องใช้จากวัสดุธรรมชาติที่สวยงาม “กระเป๋าเปียแซกเปีย” กระเป๋าหิ้วอารมณ์สบายๆ ที่นำก้านผักตบชวามาถักทอให้เป็นเส้น โดยคงสีสันธรรมชาติไว้ เพิ่มความโดดเด่นด้วยการย้อมสี ผสมผสานกับวัสดุหลากหลาย เช่น หนัง และ ผ้า ที่นำมาบุด้าน นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์น่ารักๆ อย่าง “ไก่ผอบ” ไก่จักสานตัวน้อยที่สามารถเป็นทั้งของประดับและกล่องเก็บของกระจุกกระจิก และยังมี “กระเช้าทรงสี่เหลี่ยม” สานด้วยเทคนิคโบราณให้เป็นลวดลายกะบิด ที่ดูคล้ายรูปทรงของเมล็ดข้าวเปลือก ภายในบุผ้าลวดลายหมากรุกสวยงาม หูนำหวายมาพันเกลียว เพื่อเพิ่มความแข็งแรง เป็นกระเช้าเอนกประสงค์ที่เหมาะกับจะนำไปจ่ายตลาด ใส่อาหารไปปิกนิก หรือนำไปเป็นกระเช้าของขวัญได้อีกด้วย
แผนกช่างตัดเย็บเสื้อผ้าและปักจักร มาพร้อมความโก้หรู กับ “ผูก พัน” กระเป๋าเชือกถักสีทองหลากรูปแบบที่มีให้เลือกทั้งแบบคลัตช์ แบบมีสายสะพายและแบบหูหิ้ว ถักโดยใช้เทคนิคการผูกปมให้แน่นทั้งใบ กระเป๋าจึงมีรูปทรงสวยงาม ยิ่งขึ้นประกอบกับสีทอง ให้อารมณ์โก้หรูในทุกโอกาส
แผนกช่างบาติก ดีไซน์ “เสื้อยืดโปโลบาติกเทคนิคผสม” ที่นำเทคนิคหลากหลายมาผสมผสานกัน ได้แก่ การระบาย, การย้อม และการเขียนสี ผลงานที่ได้จึงมีความแปลกแตกต่างเป็นเอกลักษณ์
โดยเหล่าคณาจารย์และนักเรียนตั้งใจสร้างสรรค์ผลงานชิ้นพิเศษขึ้นมากมาย รวมถึงคิดค้นและพัฒนาเทคนิคใหม่ๆ เพื่องานในครั้งนี้โดยเฉพาะซึ่งมีทั้งผลงานศิลป์ที่สะท้อนความเป็นไทยอย่างเต็มเปี่ยมและชิ้นงานแนวร่วมสมัยหลากสไตล์ พร้อมทั้งบางแผนกก็โชว์การสาธิตวิธีการสร้างงานให้ชมกันแบบสดๆ อย่างใกล้ชิดด้วย ส่วนใครที่สนใจงานชิ้นไหน สามารถร่วมอุดหนุนได้ โดยรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ส่วนหนึ่งทูลเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โดยเสด็จพระราชกุศลเพื่อบำรุงโครงการศูนย์ศิลปาชีพ บางไทรฯ
โดยงานจัดขึ้นที่ไลฟ์สไตล์ ฮอลล์ ชั้น 2 สยามพารากอน ตั้งแต่เวลา 10.00 – 19.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์การค้าสยามพารากอน โทรศัพท์ 0-2610-8000 :: Text by FLASH
Comments are closed.