>>คุยกับนักสะสม “ตั้ม – ณัฐพงษ์ สุธรรมโชติ” ที่จะพาคุณควบขี่ BMW คันคลาสสิก เปิดกรุของสะสมสุดวินเทจ ที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่สิ่งของมากอายุ แต่ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์และความทรงจำ รวมทั้งคุณค่าที่อมตะ ควรค่าแก่การส่งผ่านไปยังคนเจเนอเรชั่นต่อๆ ไป
กว่า 20 ปีแล้วที่ณัฐพงษ์ เริ่มต้นบนเส้นทางนักสะสมของเก่า โดยเขาเริ่มจากของชิ้นเล็กๆ น้อยๆ ของใช้ในชีวิตประจำวัน ก่อนจะขยับไปสู่สิ่งที่ใหญ่ขึ้น ขยายคอลเลกชั่นของสะสมเขาด้วยการเสาะหาของวินเทจที่สุดแสนอมตะ อย่าง BMW R69S มอเตอร์ไซค์คันคลาสสิกที่เต็มไปด้วยความทรงจำในวัยเด็ก
เขาเอ่ยปากเล่าถึงจุดเริ่มต้นให้ฟังว่า “ผมเรียนด้านสถาปัตยกรรมศาสตร์ เลยชอบมองข้าวของโบราณทุกอย่าง หรือของที่เราสะสมมา ด้วยมุมมองทางศิลปะ ต้องยอมรับว่าการออกแบบในยุคก่อน มีความสวยงามมากกว่าปัจจุบันนี้เยอะ แถม material ที่ทำในยุคเก่า เขาใช้วัตถุดิบที่เรียกว่าค่อนข้างหายาก หรือหาไม่ได้ในยุคนี้แล้ว แบบเหล็กคือเหล็ก หนังก็คือหนัง ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำ จะเป็นสิ่งที่คงทนถาวร ซึ่งนั่นเป็นจุดเริ่มต้นจุดแรกที่ทำให้เรามีความรู้สึกว่า การที่เราจะเลือกเก็บสิ่งของอะไรสักอย่างหนึ่ง ณ เวลานี้ เพราะวัตถุดิบบางอย่างเหล่านั้นหาดูไม่ได้อีกแล้ว แถมของแต่ละชิ้นมันทำให้เรามองเห็นไปถึงอดีต ที่เราเคยเห็นมาตั้งแต่เด็กๆ”
จากของเล่น ของใช้ในบ้านที่คุ้นชินตาตั้งแต่สมัยเด็ก จนทุกวันนี้เขาก้าวเข้าสู่การสะสมรถโบราณ อย่างมอเตอร์ไซค์ตัวใหญ่เสียงนุ่มตามสไตล์เครื่อง Boxer อย่าง BMW R69S เป็นรถมอเตอร์ไซค์ยืนหนึ่งในดวงใจ และเขายังสะสมไปจนถึงอะไหล่แท้รุ่นเก่า หายาก เพื่อให้แน่ใจว่า ไม่ว่าวันเวลาจะเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน สองล้อของรถคันเดิมนี้ ก็จะหมุนเคลื่อนไปตามกาลเวลาได้ โดยไม่มีวันสะดุดหยุดลง เพียงเพราะขาดฟันเฟืองตัวใดตัวหนึ่งที่สำคัญ
“สำหรับคันนี้ไม่ใช่แค่สะสม แต่ยังนำออกมาใช้งานอยู่บ่อยครั้ง เป็นรถที่สำคัญมากสำหรับผม เพราะจำได้ว่าครั้งหนึ่งเราเคยนั่งซ้อนมอเตอร์ไซค์พ่อ แล้วมีมอเตอร์ไซค์ BMW คันนึงขับผ่านมา แล้วพ่อก็ชี้ให้เราดูว่า นี่มันเป็นความฝันของปาป๊าเลยนะ ปาป๊าอยากจะมีรถมอเตอร์ไซค์คันนี้ ซึ่งตอนนั้นเราไม่รู้เลยว่านี่คือมอเตอร์ไซค์ BMW ด้วยความที่เราเป็นเด็ก เราก็ยังมองไม่เห็นว่ามันสวยตรงไหน แต่พอวันเวลาผ่านไป เราโตขึ้น เริ่มเข้าสู่วงการมอเตอร์ไซค์ เราก็เริ่มมองหามอเตอร์ไซค์ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง จนได้ไปเจอรถมอเตอร์ไซค์ BMW คันนึง แล้วเราก็นึกขึ้นได้ว่า เออ ใช่ คันนี้คือคันที่ป๊าเคยอยากได้ตอนนั้นเราเคยถามว่า ทำไมปาป๊าถึงไม่ซื้อ คำตอบที่เราได้มาก็คือว่า ปาป๊าต้องการที่จะเก็บเงินให้พวกเราเรียนหนังสือมากกว่า เพราะต้องเข้าใจว่า มอเตอร์ไซค์ BMW ก็มีราคาที่สูงกว่ามอเตอร์ไซค์ทั่วไป ปาป๊าเลือกที่จะให้เราเรียนให้จบก่อน แกถึงจะให้รางวัลกับตัวเอง แต่สุดท้าย แกก็เสียไปก่อนที่แกจะได้ซื้อรถ”
และเขาก็ได้สานต่อความฝันของพ่อ พร้อมทั้งสานความฝันของตัวเองไปพร้อมๆ กัน การทุ่มเทหัวใจดูแลเอาใจใส่รถมอเตอร์ไซค์ BMW คันเก่ง จึงเป็นมากกว่าการดูแลรักษารถหนึ่งคัน แต่เป็นการดูแลความฝันอันยิ่งใหญ่ทั้งของพ่อผู้จากไปและของลูกชายที่เข้ามาสานต่อ
“ทุกครั้งที่ได้ขับขี่รถโบราณ เราจะระลึกถึงเสมอว่า เขามีอายุมากกว่าเรา เขาได้โลดแล่นไปบนถนน ที่เราไม่เคยสัมผัสด้วยซ้ำ เพราะถนนบางเส้นไม่มีอีกแล้ว ซึ่งอันนี้จะเป็นสิ่งที่เราจะระลึกเสมอว่า เขาเหยียบแผ่นดินไทยก่อนเราอีก เขาข้ามผ่านกาลเวลาของทุกสิ่งทุกอย่าง เขาไม่ได้ผ่านแค่เรื่องราวของถนน แต่เขาผ่านความทรงจำของเจ้าของเก่าแต่ละคน ในแต่ละช่วงอายุ ช่วงเวลา เพราะฉะนั้นเขามีจิตวิญญาณ เขามี story ในตัวเขาเองที่ผ่านระยะเวลาทั้งหมดที่ทำให้เขาอยู่กับเรามาจนทุกวันนี้”คุณตั้มบอกว่า ที่รถโบราณอย่าง BMW ก้าวผ่านเวลามาได้ทุกวันนี้ เป็นเพราะมีระบบวิศวกรรมเครื่องยนต์ที่เป็นเลิศ ทำให้ไม่เกิดปัญหาจุกจิก ดูแลให้ดีไปเลยทีเดียว แล้วก็ใช้กันไปยาวๆ
“เราเชื่อมั่นในวิศวกรรมเยอรมัน แล้วก็ดีไซน์ในเรื่องของเครื่องยนต์เขานะครับ เขาสามารถผลิตรถที่มีความคงทนถาวร แล้วก็ดูแลรักษาน้อย รถทุกคันที่เราเก็บรักษา แทบจะไม่ต้องดูแลอะไรเลย สิ่งที่สำคัญที่สุดของเราคือการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องปกติ เพราะฉะนั้นภาพที่ทุกคนมองว่า รถโบราณเป็นรถที่ต้องดูแลเยอะจุกจิก งอแง สำหรับ BMW นี่เราบอกได้เลยว่า ถ้าดูแลรักษาดีจริงๆ สามารถ maintenance เขาครั้งเดียวในครั้งแรก ให้กลับเป็นเหมือนตอนที่เขาออกห้าง หรือ restore ให้สมบูรณ์แบบไปเลย คือทำครั้งเดียวเท่านั้น
พูดเลยว่า ตั้งแต่ทำรถมา ทุกคันทำ 1 ครั้ง แล้วไม่เคยทำอีกเลย แม้กระทั่งเวลาเดินทาง มีคนบอกว่าก็ไม่ค่อยได้ใช้นี่ ไม่จริงครับ ประวัติชีวิตผม ผมใช้รถตลอดเวลา เพราะฉะนั้นไปดูได้เลยว่า การใช้รถของผม หรือการเดินทางของผม เดินทางมากกว่ารถใหม่ๆปัจจุบันนี้ด้วยซ้ำ แล้วทุกคันไม่เคยมีปัญหา เพราะว่าเทคโนโลยีของเยอรมัน เราต้องยอมรับว่า เขาเป็นที่สุดในเรื่องของของการออกแบบวิศวกรรมจริงๆ รถมันมีพลังในตัวมันเอง ทุกครั้งที่เราขับ เราไม่เคยรู้สึกว่าเขาเก่าเลย ขนาดขับขึ้นเขา เรายังรู้สึกว่าเขาเหมือนรถใหม่”
นอกจากนี้เขายังย้ำแนวคิดที่สำคัญให้เราฟังว่า “เวลาเราขับรถคันนี้ เราไม่จำเป็นต้องขับเร็ว แม้ว่าเขาจะทำความเร็วได้ แต่สิ่งสำคัญคือ เราอยากเห็นวิว ทิวทัศน์ข้างทาง เพราะเราไม่ได้ขับรถเพื่อทำเวลา แต่เรากำลังขับขี่กาลเวลา…
เราไม่ได้เล่นรถโบราณ เพราะหลงยุค แต่เราเห็นคุณค่าของสิ่งต่างๆ ในอดีตต่างหาก อย่าลืมว่าเทคโนโลยีใหม่ๆ เรายังต้องเจอมันทุกวัน แต่ของโบราณที่เราลืมมันไปแล้ว มันจะค่อยๆจางหายไป เพราะฉะนั้นเราพยายามจะเก็บสิ่งที่เป็นสิ่งของเก่า หรือของโบราณไว้ให้ลูกให้หลาน ให้วงศ์ตระกูลเราได้เห็น แล้วก็ได้ซึมซับว่าในอดีตสิ่งที่ผ่านมา ของเหล่านี้คือของที่มีค่าทั้งนั้นนะ แล้วของพวกนั้นก็ไม่ได้ผิดอะไรที่เราจะต้องลืม หรือทำให้กลายเป็นของโบราณที่ถูกทิ้งขว้าง”
ติดตามเรื่องราวละความผูกพันของคนกับมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู ในซีรีส์ Make Life A Ride #Stories ได้ที่ https://youtube.com/playlist?list=PL3rknt59FI8aKU8lkjFLPuKIXjrxL9nEt
#BMWMotorradTH #MakeLifeARideTH #MakeLifeARideStories
Comments are closed.