Lifestyle

4 พิพิธภัณฑ์ของใช้สุดแปลก

Pinterest LinkedIn Tumblr

>>หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เราพาคุณๆ ไปทัวร์ชอปปิ้งมอลล์แห่งใหม่ๆ ของกรุงเทพมาแล้ว สัปดาห์นี้เราจะพาคุณออกเดินทางไปต่างประเทศ ไปเยือนพิพิธภัณฑ์แปลกๆ บน 2 ฟากฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก ทั้งอเมริกาและอังกฤษ กับ 4 พิพิธภัณฑ์คอนเซ็ปต์ไม่เหมือนใคร กับการรวบรวมเอาของใช้ในชีวิตประจำวันและของใช้ในครัวเรือนมาสะสมไว้ให้ได้ไปเยี่ยมชมกัน


สถานที่แรกคือ พิพิธภัณฑ์ดินสอคัมเบอร์แลนด์ Cumberland Pencil Museum ในเมืองคัมเบรีย ทางเหนือสุดของประเทศอังกฤษ ที่ซึ่งว่ากันว่าเป็นแหล่งกำเนิดของดินสอ เนื่องจากการเกิดพายุครั้งใหญ่เมื่อประมาณศตวรรษที่ 1500 ทำให้ต้นไม้ใหญ่ในเขตนี้โค่นลง และชาวบ้านก็ได้ค้นพบก้อนถ่านสีดำที่อยู่ใต้ดิน ซึ่งนั่นคือกราไฟต์ และได้นำมาใช้ขีดเขียน นับจำนวนเลข และบันทึก จนกระทั่งวิวัฒนาการมากลายเป็นดินสออย่างในปัจจุบัน

โดยในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ได้มีการรวมประวัติความเป็นมาของดินสอ ขั้นตอนการทำ และมีดินสอหลากหลายชนิดจากทั่วทุกโลกมาไว้ด้วยกัน และที่สำคัญที่นี่ยังมีดินสอที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่สูงเกือบ 8 เมตร และมีน้ำหนักกว่า 400 กิโลกรัม ใครสนใจอยากไปเยี่ยมชม ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.pencilmuseum.co.uk


ที่ถัดมายังอยู่ในอังกฤษ ถัดลงใต้มาหน่อยในแถวเมืองเซาธ์พอร์ต เขตเมอร์ซี่ไซด์ ไม่ไกลจากลิเวอร์พูลนัก มีอีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์ที่แปลกขึ้นไปอีก กับพิพิธภัณฑ์เครื่องตัดหญ้า British Lawnmower Museum ที่เขารวมเอาเครื่องตัดหญ้าสารพัดแบบต่างสไตล์มาไว้ให้คุณได้รับชม มีทั้งแบบไฮเทค แบบคลาสสิก แบบราคาแพงๆ และแบบโบราณสุดๆ ที่มีอยู่นับ 100 ปี ทั้งหมดมีกว่า 250 เครื่อง พิพิธภัณฑ์นี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติให้กับEdwin Beard Budding ผู้ที่ประดิษฐ์เครื่องตัดหญ้าเครื่องแรกขึ้นเมื่อปีคริสตศักราช 1830

ลองไปดูเครื่องตัดหญ้าสุดพิเศษยี่ห้อ โรลส์รอยซ์ ที่เขามีในคอลเลกชั่นให้คุณชมด้วย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.lawnmowerworld.co.uk/


ข้ามฝั่งมาทางอเมริกากันบ้าง ที่เมืองเทนเนสซี่ กับพิพิธภัณฑ์กระปุกเกลือและพริกไทย Salt and Pepper Shaker Museum โดยกระปุกเกลือและพริกไทยที่มีวางใช้อยู่บนโต๊ะอาหาร เป็นของใช้อีกชิ้นที่มีคนนิยมสะสม ด้วยการออกแบบและลวดลายแสนน่ารัก โดยที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เขามีสะสมไว้กว่า 20,000 ชุด ที่เสาะหามาจากทั่วโลกมานานกว่า 25 ปี บางชิ้นมีอายุยาวนานกว่า 400 ปี

ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ คุณจะได้เห็นวิวัฒนาการของกระปุกเกลือและพริกไทย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และความหลากหลายในดีไซน์ของกระปุกพริกไทยและเกลือ ในยุคนี้ที่ทั้งเทคโนโลยีและจินตนาการก้าวไปไกล เราจึงได้เห็นชุดเกลือและพริกไทยในสไตล์ที่หลากหลายต่างวัฒนธรรมกันออกไป ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://thesaltandpeppershakermuseum.com


แห่งสุดท้ายที่เราจะพาคุณไปรู้จัก นั่นคือ พิพิธภัณฑ์ฝาชักโครก Barney Smith's Toilet Seat Art Museum เป็นการรวบรวมเอาผลงานศิลปะบนฝาชักโครกกว่า 30 ปีของคุณลุง บาร์นี่ สมิธ อดีตนักประปาจากเมืองเท็กซัส ซึ่งเริ่มจากการมองหาที่แขวนเขากวาง ซึ่งลักษณะของฝาชักโครกเข้ากับรูปทรงได้อย่างพอเหมาะพอดี

หลังจากนั้นคุณลุงบาร์นี่จึงเริ่มทำงานศิลปะและลวดลายลงบนฝาชักโครกเรื่อยมา จนถึงวันนี้มีทั้งหมดกว่า 1,000 ชิ้น ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.unusualmuseums.org/toilet/  :: Text by FLASH

 
>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่  http://www.celeb-online.net หรือ App Store ได้แล้วที่ celeb online ipad edition

Comments are closed.

Pin It