Lifestyle

เตรียมพบการกลับมาของ “วันเดอร์ฟรุ๊ต” ไลฟ์สไตล์เฟสติวัล ที่ดีที่สุดในเอเชีย

Pinterest LinkedIn Tumblr


>>“วันเดอร์ฟรุ๊ต” ไลฟ์สไตล์เฟสติวัลรูปแบบใหม่ที่ผสานแนวคิดใส่ใจโลกและสิ่งแวดล้อม เริ่มเผยรายชื่อศิลปินที่จะมาร่วมงานในปีนี้ ได้แก่ The Faint, The Submotion Orchestra, Howie B, Dapyk Solo, Desktop Error, มหาจำเริญ (Mahajamreon), โพลีแคท (Polycat) พร้อมกับแนะนำไฮไลต์แรกของงานซึ่งเป็นโปรเจกต์พิเศษที่เกิดขึ้นจากการร่วมงานกันเป็นครั้งแรกของสองศิลปินต่างสาขาชาวอังกฤษ ที่ขอการันตีความสามารถและชื่อเสียงระดับโลก Jon Hopkins x Chris Levine present theiy_project สัมผัสผลงานจากแรงบันดาลใจผ่านแสงไฟและเสียงดนตรีจากสุดยอดศิลปินของแต่ละสาขา ที่จะเปิดโชว์เป็นครั้งแรกในงานวันเดอร์ฟรุ๊ต ยังไม่หมดเท่านี้ วันเดอร์ฟรุ๊ตยังมีการแสดงอีกมากกว่า 30 รายการที่จะมีการประกาศให้ทราบอย่างต่อเนื่อง
Chris Levine
ในปีที่สองนี้ วันเดอร์ฟรุ๊ต ยังคงเน้นการผสมผสานศิลปะ ดนตรี และวัฒนธรรมที่หลากหลายอย่างลงตัว ปีนี้ขยายเวลาจัดงานเพิ่มขึ้นเป็น 4 วันระหว่างวันที่ 17-20 ธันวาคม 2558 กับบรรยากาศแคมปิ้งท่ามกลางธรรมชาติในพื้นที่ของสยามคันทรีใกล้เขตเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี โดยจุดเด่นของวันเดอร์ฟรุ๊ตที่ดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพจากนานาประเทศ ให้เดินทางเข้ามาร่วมงานเกิดจากคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ โดดเด่น และน่าสนใจ เพื่อมอบทางเลือกที่แตกต่างให้แก่ผู้มาร่วมงานตั้งแต่

1. การแสดงดนตรีบน 4 เวทีหลักโดยเหล่าศิลปิน-ดีเจระดับโลก รวมทั้งศิลปินไทยที่น่าจับตามอง
2. ผลงานศิลปะสร้างสรรค์
3. การทำฟาร์มสู่การปรุงอาหาร
4. กิจกรรมเพื่อสุขภาพกายและใจ
5. การร่วมวงสนทนาและเวิร์กชอป
6. กิจกรรมกลางแจ้ง และอีกมากมาย
Jon Hopkins
ทั้งนี้ด้วยเป้าหมายที่ต้องการช่วยผลักดันความสร้างสรรค์ปลุกจิตสำนึกด้านความรับผิดชอบ สนับสนุนวิถีชีวิตแบบยั่งยืนผนวกกับความก้าวหน้าทางความคิดซึ่งถูกถ่ายทอดออกมาเป็นผลงานที่เกิดขึ้นจริง เหล่านี้ทำให้วันเดอร์ฟรุ๊ตก้าวขึ้นเป็นผู้นำเฟสติวัลในเอเชีย กับแนวโน้มที่จะก้าวไปไกลยิ่งขึ้น

วันเดอร์ฟรุ๊ต ยังมุ่งส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศด้วยพื้นที่จัดงานซึ่งอยู่ใกล้กับเมืองพัทยา หนึ่งในจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยอดนิยมของโลกนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสทัศนียภาพเฉพาะตัวของชายหาด อาหารทะเลสดใหม่ทรัพยากรธรรมชาติ และความบันเทิงครบวงจรโดยในช่วงเดือนธันวาคมซึ่งเป็นช่วงที่มีการจัดงาน ยังเป็นช่วงใกล้เทศกาลและวันหยุดยาว วันเดอร์ฟรุ๊ต จึงนับว่าเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่กำลังวางแผนวันหยุดและมองหาการพักผ่อนอย่างมีสไตล์ ซึ่งการจัดงานครั้งแรกเมื่อปีที่ผ่านมาวันเดอร์ฟรุ๊ตก็ได้รับการยอมรับจากสื่อต่างๆ ทั่วโลก หนึ่งในนั้นคือ Pulse Radio ซึ่งได้ยกย่องว่าวันเดอร์ฟรุ๊ตเป็นเฟสติวัลใหม่ที่ดีที่สุดในเอเชีย (“Asia’s best new festival”)

วันเดอร์ฟรุ๊ต ได้เปิดตัวแคมเปญแรก ผ่านการทำ “Reverse Graffiti” ด้วยเทคนิคการทำกราฟิตี้แบบไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จากการทำความสะอาดพื้นผิวสกปรกตามจุดต่างๆ ในกรุงเทพฯ พร้อมสื่อความหมายเป็นนัยให้เห็นถึงการทำผลงานสร้างสรรค์ขึ้นโดยไม่เพิ่มปริมาณขยะให้โลก และให้คนไทยเริ่มพิจารณาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นจากตัวเราซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายหลักของงาน ได้แก่ จุดประกายความสงสัย ผลักดันความสร้างสรรค์ และสนับสนุนวิถีชีวิตแบบยั่งยืน

ภายในงาน ผู้ร่วมงานวันเดอร์ฟรุ๊ตจะได้สัมผัสกับประสบการณ์แปลกใหม่ และพบกับเซอร์ไพรส์มากมายที่ซ่อนอยู่ในมุมต่างๆ ตั้งแต่ผลงานศิลปะกลางแจ้งที่ใส่ลูกเล่นเซ็นเซอร์ทริกเกอร์ไว้ โซนแฟชั่นที่สามารถสนุกกับการเลือกพร็อพแต่งตัวสไตล์แปลกๆ ใน Wonder Salon หรือจะเลือกชอปเสื้อผ้า แต่งหน้าทำผม ใน Taste Of Wonder ไปจนถึงการแสดงดนตรีแนวอีสานพื้นบ้านกับรถบัสหมอลำผลงานจาก หอศิลป์บ้านจิม ทอมป์สัน

ผู้ร่วมงานยังสามารถเลือกสำรองที่นั่งเพื่อร่วมรับประทานอาหารในสไตล์ Wonder Feasts พร้อมกับชมทัศนียภาพรอบงานอย่างชัดเจน จากภายใน Theatre of Feasts ผลงานสถาปัตยกรรมที่งดงามสร้างจากวัสดุที่ยั่งยืนลิ้มรสเมนูเซตเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับวันเดอร์ฟรุ๊ต รังสรรค์โดยเชฟชื่อดังที่มีรางวัลการันตี นำโดย เชฟกากั้น(Gaggan Anand) เจ้าของร้านอาหาร Gaggan ซึ่งติดอันดับ 10 จาก 50 ร้านอาหารดีที่สุดในโลก (The World’s 50 Best Restaurant 2015) และเป็นอันดับหนึ่งในเอเชีย (Asia’s 50 Best Restaurant) ซึ่งความพิเศษเพิ่มเติมคือเชฟแต่ละท่านจะมาแสดงฝีมือปรุงอาหาร พร้อมผสานคอนเซ็ปต์ Farm to Feasts ด้วยการคัดสรรผลิตผลออร์แกนิกสดจากฟาร์มของวันเดอร์ฟรุ๊ต ผู้ร่วมงานจะมีโอกาสได้เรียนรู้วิธีการเก็บผลผลิตจากฟาร์ม และนำมาปรุงอาหารด้วยตัวเอง ด้วยรูปแบบเกษตรกรรมเชิงสร้างสรรค์ กับกลุ่ม Thailand Young Farmers

สำหรับปีนี้ วันเดอร์ฟรุ๊ตขอแนะนำความน่าสนใจล่าสุดScratch Talks เชิญร่วมวงสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น จากการร่วมมือกับ Summit องค์กรที่รวบรวมนักธุรกิจผู้ริเริ่ม และผู้นำทางความคิดชั้นนำจากนานาประเทศ นอกจากนี้ วันเดอร์ฟรุ๊ต จับมือกับ SC Asset เชิญผู้สนใจเข้าร่วมโปรแกรม The Sharing Neighborhoodร่วมทำเวิร์กชอปกับผู้เชี่ยวชาญผู้พร้อมแบ่งปันความรู้ความสามารถจากแขนงต่างๆ (skill sharers) หรือจะเลือกทำเวิร์กชอปผ้ามัดย้อม ศิลปะงานไม้ การแกะสลักผลไม้ และการกลับมาอีกครั้งของ Yoga of Bass คลาสโยคะกลางธรรมชาติประกอบดนตรีที่จะช่วยกระตุ้นพลังความสดใส

วันเดอร์ฟรุ๊ตยังมีกิจกรรมเพื่อการพัฒนาร่างกายและจิตใจ ด้วยการนั่งสมาธิ และการเต้นระบำ รวมทั้งบริการนวดและทรีตเมนต์ต่างๆ ภายใน Healing Village โดยการกำกับดูแลของ อู้ พหลโยธิน นักออกแบบไทยชื่อดังระดับสากล หรือผู้ที่ชอบลุยชอบผจญภัยทำกิจกรรมกลางแจ้งแช่ทะเลสาบที่ล้อมรอบไปด้วยทุ่งมันสำปะหลัง เลือกเดิน หรือปั่นจักรยานเพื่อสำรวจสิ่งที่น่าสนใจรอบๆ ตัวงาน และขอย้ำอีกครั้งว่าวันเดอร์ฟรุ๊ตเป็นเฟสติวัลสำหรับทุกเพศทุกวัยขอแนะนำ Camp Wonder ซึ่งจะรวบรวมกิจกรรมเพื่อให้เด็กเล็กได้มีส่วนร่วม มีการท้าทายความคิด เพื่อให้แสดงออกทางความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นโยคะสำหรับเด็ก และการโต้ตอบผ่านการเล่านิทาน นอกจากนี้ยังมีบริการพี่เลี้ยงเด็กเตรียมพร้อมต้อนรับชาววันเดอร์ฟรุ๊ตรุ่นจิ๋ว (มีค่าบริการ)

สำหรับที่พักในปีนี้มีให้เลือกหลากหลายสไตล์ไม่ว่าจะเป็นบูติกแคมปิ้งแพกเกจโรงแรม และอื่นๆ อีกมากมาย บัตรเข้างานราคาปกติเริ่มต้นที่ 5,500 บาท เพื่อให้สะดวกต่อการวางแผนและการเตรียมตัวมาพบกันที่วันเดอร์ฟรุ๊ตในปีนี้ ท่านสามารถเช็กข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.wonderfruitfestival.com :: Text by FLASH














Comments are closed.

Pin It