>>ในงาน BIG+BIH 2015 ซึ่งจัดขึ้นที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา เมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา ที่ได้รวบรวมเอาสินค้าของขวัญและของแต่งบ้านแบรนด์ไทยๆ มาให้จับจ่ายเลือกสรรกันอย่างเพลิดเพลิน ทั้งในส่วนของบรรดาขาชอปในเมืองไทยไปจนถึงผู้ประกอบการจากต่างประเทศที่เดินทางมาค้นหาสินค้าดีไซน์เยี่ยมคุณภาพดีไปวางจำหน่าย โดยท่ามกลางร้านค้านับร้อยนับพัน โซน Talent Thai ของสินค้าไลฟ์สไตล์คลื่นลูกใหม่ที่ผ่านการคัดจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ถือได้ว่าเป็นไฮไลต์ที่ทุกคนจับตามองบรรดาแบรนด์ไทยคุณภาพดีที่กำลังรอการเจียระไนให้เปล่งประกายบนเวทีโลก
ในช่วงแรกที่การส่งเสริมการส่งออกของไทย คือการทำให้การผลิตมีคุณภาพ ได้มาตรฐานสากล เพื่อแข่งขันในตลาดระดับโลกได้ ในเวลาถัดมาเมื่อเกิดคู่แข่งในฐานะผู้ผลิตจากประเทศเพื่อนบ้านอย่าง จีนหรือเวียดนาม ที่ค่าแรงถูกกว่า การส่งออกของไทยจึงต้องยกระดับไปอีกขั้น
สถาบันส่งเสริมการออกแบบและนวัตกรรมเพื่อการค้า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จึงถือกำเนิดขึ้น เพื่อช่วยในการพัฒนาเพิ่มคุณค่าของผลิตภัณฑ์ด้วยการดีไซน์ โดยทั้งช่วยพัฒนาบุคลากรที่จะมาตอบสนองความต้องการของตลาดในส่วนนี้ และเพิ่มความเข้าใจในส่วนของผู้ประกอบการ ซึ่งกว่าจะมาจนถึงการสร้างแบรนด์เพื่อปรับฐานะสู่ผู้ส่งออกในแบรนด์ของตัวเอง ไม่ใช่เพียงในฐานะผู้ผลิต โดยทำผลงานได้เป็นอย่างดี พาแบรนด์ไทยไปสู่ตลาดโลกได้อย่างงดงามในหลากหลายผลิตภัณฑ์
ม.ล.คฑาทอง ทองใหญ่ ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการออกแบบและนวัตกรรมเพื่อการค้า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า “การพัฒนาศักยภาพและขีดความสามารถของนักออกแบบไทย ถือเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์สำคัญของกระทรวงพาณิชย์ เพื่อพัฒนาและส่งเสริมการสร้างมูลค่าเพิ่มและการสร้างแบรนด์สินค้าและบริการของไทย ช่วยให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มธุรกิจดีไซน์ เพราะไม่เพียงแต่จะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้แตกต่างจากคู่แข่งในตลาดโลกได้แล้ว ในขณะเดียวกันสินค้าในกลุ่มนี้ยังช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของสินค้าไทยในตลาดโลกอีกด้วย
โดยสไตล์การออกแบบของไทย เรามีจุดเด่นที่แตกต่างและเป็นที่ต้องการของตลาดโลก เพราะเรามีวัฒนธรรมของเรา คนไทยมีมุมมองที่แตกต่างไม่เหมือนใคร และที่สำคัญเรายังโดดเด่นในด้านการดีไซน์ที่เป็นออแกนิก และการนำวัสดุธรรมชาติเข้ามาผสมผสาน
การทำงานของเราในฐานะกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ นอกจากการช่วยพัฒนาเรื่องการดีไซน์ออกแบบ ให้ข้อมูล ความรู้แล้ว ยังพัฒนาไปสู่การสร้างแบรนด์โดยมีการอบรม สัมนา แบ่งปันประสบการณ์จากรุ่นพี่ๆ พร้อมทั้งสนับสนุนให้เขามีเวทีแสดงฝีมือ มีช่องทางติดต่อกับลูกค้า อย่างงานแสดงสินค้านี้ ก็เป็นการโชว์ศักยภาพของเขาสู่เวทีโลกได้ด้วย”
ตลอดระยะเวลากว่า 12 ปีที่ผ่านมา สถาบันส่งเสริมการออกแบบและนวัตกรรมเพื่อการค้า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้สร้างโครงการดีๆ อย่าง Designer Room และ Talent Thai ที่ช่วยสนับสนุนดีไซเนอร์ไทยมาไม่น้อยกว่า 650 รายเลยทีเดียว
เฉพาะในปีนี้ทางกรมได้เปิดตัว 38 แบรนด์สินค้าไลฟ์สไตล์คลื่นลูกใหม่จาก “โครงการ Talent Thai 2015” โดยแบ่งนักออกแบบเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่ม Now คือ กลุ่มที่มีอายุธุรกิจ 1 – 3 ปี จำนวน 23 แบรนด์ และกลุ่ม Next ที่มีอายุธุรกิจ 3 – 6 ปี อีกจำนวน 15 แบรนด์ ซึ่งแต่ละแบรนด์มีความน่าสนใจแตกต่างกันออกไป อย่างเช่น
แบรนด์ Cozy Cottage แบรนด์ผ้าซึ่งออกแบบด้วยการวาดมือเป็นลวดลายที่ละเอียดสวยงาม นำไปประกอบเป็นหลากหลายผลิตภัณฑ์อย่าง ผ้าพันคอ กระเป๋า ปลอกหมอน ไปจนถึงสมุดโน้ต กระดาษห่อของขวัญ ฯลฯ
แบรนด์ KLANK นำเอาวัสดุงดงามอย่างผ้าไทยมาเติมความความเรียบหรูสง่างามให้กับผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีทันสมัยอย่าง ลำโพงบลูทูธ ได้อย่างลงตัว
แบรนด์ C E ' H A L O เซรามิกทำมือที่ดีไซน์ออกมาได้อย่างอ่อนหวานน่ารัก
แบรนด์ Nava Bath & Body Workshop จากทายาทโรงงานผลิตสบู่ ที่ปรับปรุงการผลิตให้สามารถทำสบู่ได้หลากหลายรูปทรงพร้อมกลิ่นหอมๆ อันเป็นเอกลักษณ์ของพืชผลแบบไทยๆ อย่าง มะลิ, กล้วยไม้, มะม่วง ฯลฯ
แบรนด์ THE SLEEVELESS GARDEN แบรนด์เครื่องหนังที่นำเอาความรู้และประสบการณ์ทางด้านสถาปัตย์ของดีไซเนอร์มาปรับใช้ทำให้ได้กระเป๋าซึ่งมีรูปทรงและมิติที่แตกต่าง
แบรนด์ Rubber Killer การนำวัสดุเหลือใช้อย่าง ยางในรถยนต์ มาดีไซน์ประยุกต์ให้กลายเป็นกระเป๋าใบเท่ที่ถูกใจคุณรุ่นใหม่ซึ่งสนใจเรื่องการอนุรักษณ์สิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ยังมีแบรนด์อื่นๆ ที่น่าสนใจ อย่างเช่น Angsa, BASIC TEEORY, Mirror Mirror, UNTRUST US, daddy’s girl By Danaiya, Love Supreme, PINSEL ON THE SHELF, Dhammada Garden, Earth Republic, Ease-Embroidery Design Studio, ELEMENTSEDEN, zappeaze, plural designs, RUBBERLY, SUR, This Means That, Varni Southern Wick, Daddy Pet, Purru, Carletta Jewellery, Mafia, METEOR, NATTA STUDIO, PAHKIN Pym Jewellery, Bonny and lady petch, GREY RAY STATIONERY, May & Clay Ceramics Studio, Pin (The Art Of Metal's Life), salt and pepper, TA.THA.TA และ Mha Dog and living
โดยผู้ประกอบการที่ได้รับคัดเลือกจะได้เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อพัฒนาขีดความสามารถและเตรียมความพร้อมสู่การขยายตลาดในต่างประเทศ ด้วยการอบรมและร่วมเวิร์กชอปเพื่อพัฒนาองค์ความรู้แบบ 360 องศา ทั้งในด้านการออกแบบ การผลิต การตลาดและการสร้างแบรนด์ พร้อมเปิดโอกาสให้นำผลงานไปเข้าร่วมงานแสดงสินค้าและนิทรรศการระดับประเทศ และระดับโลก เพื่อให้นักออกแบบได้พบปะเจรจาธุรกิจกับกลุ่มผู้ประกอบการโดยตรง เหมือนอย่างเช่นในงาน BIG + BIH 2015 นี้ ที่เป็นงานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ที่มีชื่อเสียงและที่ได้รับความนิยมจากเหล่าบายเออร์ทั่วโลก
โดยนอกจากนี้แล้ว ยุทธศาสตร์ใหม่ของสถาบันก็พัฒนาไปอีกขึ้น นั่นคือการส่งออกธุรกิจบริการ อย่างธุรกิจการออกแบบ Design Firm หรือ Creative House ซึ่งจะเป็นก้าวใหม่ของการส่งออกของไทยที่สามารถนำรายได้เข้าประเทศมหาศาล โดยไม่ต้องสูญเสียทรัพยากรธรรมชาติเลยแม้แต่น้อย ใครที่สนใจในโครงการต่างๆ ที่น่าสนใจของทางสถาบันส่งเสริมการออกแบบและนวัตกรรมเพื่อการค้า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.ditp-design.com
Comments are closed.