>>บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ชวน Celeb Online ทดสอบรถยนต์สองรุ่น ได้แก่ รุ่น 730Ld M Sport ใหม่ และ X1 ใหม่ล่าสุด สองฟีลลิ่งในสองเส้นทางที่จังหวัดภูเก็ต เร้าใจด้วยสมรรถนะ เทคโนโลยีอันก้าวล้ำ และฟังก์ชันต่างๆ ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์เช่นปัจจุบัน
ต้องยอมรับว่านับตั้งแต่บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ขยายสายผลิตภัณฑ์รถยนต์รุ่นประกอบในประเทศจากโรงงาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ในจังหวัดระยอง จึงเดินหน้าเปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู 730Ld M Sport และ X1 รุ่นประกอบในประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นในการมอบยานยนต์ระดับพรีเมียมพร้อมด้วยบริการคุณภาพระดับโลกให้คนไทยได้เป็นเจ้าของอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
โดยก่อนที่จะจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ได้ชักชวน Celeb Online และเหล่านักเขียนไลฟ์สไตล์สายรถยนต์เข้าร่วมทดสอบบีเอ็มดับเบิลยู 730Ld M Sport และ X1 ใหม่ล่าสุดก่อนใคร ที่จังหวัดภูเก็ต สำหรับวันแรกเริ่มออกสตาร์ทจากโรงแรมที่พัก “ภูเก็ต แมริออท รีสอร์ต แอนด์ สปา ในยาง บีช” ซึ่งก็เป็นโรงแรมที่เพิ่งเปิดใหม่สดๆ ร้อนๆ อีกเช่นกัน ขับไปตามเส้นทางถนนเพชรเกษม มุ่งหน้าไปยังเขาหลัก จังหวัดพังงา ด้วยบีเอ็มดับเบิลยู 730Ld M Sport ใหม่ เรียกว่าเป็นรถยนต์รุ่นแฟลกชิปที่มาพร้อมสมรรถนะล้ำหน้าและรูปลักษณ์ดึงดูดสะกดทุกสายตาจริงๆ เพราะไม่ว่าจะขับผ่านไปยังจุดไหน ก็จะได้รับความสนใจจากผู้พบเห็นตลอดการเดินทาง
สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู 730Ld M Sport ใหม่ มาพร้อมกับระบบ Air Flap Control ซึ่งจะทำงานเมื่อตัวรถต้องการระบายความร้อน โดยนอกจากจะพัฒนาสมรรถนะด้านแอโรไดนามิกให้กับรถแล้ว ยังเพิ่มความสะดุดตาให้กับส่วนหน้าของรถด้วยจำนวนซี่ของไตคู่บีเอ็มดับเบิลยูที่เพิ่มขึ้น ส่วนไฟหน้ายังได้รับการออกแบบขยายไปจนถึงขอบไต ขณะที่ไฟทรงกลมคู่อันเป็นเอกลักษณ์ของบีเอ็มดับเบิลยูถูกจัดวางอย่างพอดี ช่วยทั้งการใช้งานและดึงดูดสายตา
และด้วยเทคโนโลยี BMW EfficientLightweight โครงสร้างแบบ Carbon Core จึงช่วยลดน้ำหนักรวมของรถได้มากถึง 130 กิโลกรัม เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ด้วยโครงสร้างตัวถังที่ผลิตด้วย Carbon Core ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ในบีเอ็มดับเบิลยู i8 ทำให้บีเอ็มดับเบิลยูรุ่นนี้เป็นรถยนต์รุ่นแรกในเซกเมนต์นี้ที่ใช้โครงสร้างผลิตจากพลาสติกเสริมเส้นใยคาร์บอน (CFRP) ผสมผสานกับโครงสร้างเหล็กและอะลูมิเนียม ช่วยเสริมความแข็งแกร่งและความมั่นคงของห้องโดยสาร ขณะเดียวกันก็ช่วยลดน้ำหนักของตัวรถได้อย่างมาก
เทคโนโลยีช่วงล่างในรุ่นมาตรฐานยังช่วยยกระดับสมรรถนะและคุณภาพในการขับขี่ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ขณะเดียวกันความสมดุลทั้งสองประการของสุนทรียภาพในการขับขี่ ยกระดับให้รถยนต์รุ่นนี้ก้าวไปสู่จุดสูงสุดในเซกเมนต์รถยนต์หรู โดยในรุ่นมาตรฐานได้รวมช่วงล่างแบบถุงลม สำหรับเพลาขับทั้งหน้าและหลังและระบบควบคุมความนุ่มนวลของโช้กอัพเอาไว้ด้วย
นวัตกรรมใหม่ล่าสุดนี้ยังมอบอิสระแห่งการขับขี่มากยิ่งขึ้น โดยสามารถเลือกใช้งานโหมดที่เหมาะสมที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานใน Sport Mode หรือ Eco Pro Mode เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ หรือเลือกใช้ ADAPTIVE mode ซึ่งสามารถเรียกใช้งานได้ผ่านสวิตช์ควบคุมแบบใหม่ การตั้งค่าเหล่านี้ขึ้นอยู่กับรูปแบบในการขับขี่และประเภทของเส้นทาง
บีเอ็มดับเบิลยู 730Ld M Sport ใหม่นี้ยังใช้หน้าจอควบคุม iDrive แบบระบบสัมผัส ซึ่งนอกจากจะสามารถควบคุมระบบต่างๆ ในแบบเดิมแล้ว ระบบสัมผัสนี้ยังเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถเลือกสั่งการและควบคุมจากการสัมผัสหน้าจอได้เช่นกัน
อีกหนึ่งฟังก์ชันใหม่ของการใช้งานร่วมกับระบบ iDrive คือ การสั่งงานด้วยการเคลื่อนไหวของมือโดยไม่ต้องสัมผัสหน้าจอ หรือ BMW Gesture Control เซ็นเซอร์ 3 มิติจะจับการเคลื่อนไหวของการสั่งงานระบบควบคุมความบันเทิงและการสื่อสาร ซึ่งใช้งานได้อย่างง่ายดาย เช่น การปรับระดับเสียง การรับหรือปฏิเสธสายเรียกเข้าโทรศัพท์ เป็นต้น
นวัตกรรมระบบควบคุมแบบมัลติฟังก์ชันในรูปแบบของ บีเอ็มดับเบิลยู ทัช คอมมานด์ (BMW Touch Command) หรือควบคุมสั่งการด้วยระบบสัมผัสผ่านหน้าจอแท็บเล็ตพกพาขนาด 7 นิ้ว สามารถใช้งานได้จากทั้งภายในและนอกตัวรถ ซึ่งสามารถปรับและควบคุมระบบต่างๆ ของรถ ไม่ว่าจะเป็นการปรับที่นั่ง แสงไฟภายในตัวรถ การปรับอุณหภูมิ รวมถึงระบบความบันเทิงต่างๆ ระบบนำทาง และระบบการสื่อสาร และยังสามารถเล่นไฟล์เพลงและวิดีโอ รวมถึงใช้เป็นเกมคอนโซลได้อีกด้วย เรียกว่าเชื่อมต่อรถกับโลกภายนอกได้อย่างสมบูรณ์แบบ ยิ่งหลังคากระจกเป็นแบบ Sky Lounge Panorama ที่ใช้ไฟแอลอีดีบริเวณด้านข้างส่องให้แผ่นกระจกเปล่งประกายระยิบระยับทั่วแผ่นด้วยแล้ว ยังช่วยเพิ่มฟีลลิ่งให้ดูราวกับเป็นท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยผืนดาวเลยทีเดียว
และยังคงผสมผสานความสะดวกสบายและสมรรถนะ ความปราดเปรียวขณะขับขี่ไว้อย่างครบครัน เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบแถวเรียงขนาด 3 ลิตร เทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo จึงให้กำลังสูงสุด 265 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดที่ 620 นิวตันเมตร ทำงานเชื่อมกับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 6.2 วินาที แต่ยังคงมอบความนุ่มสบายให้กับผู้โดยสารได้อย่างเต็มที่ถึงแม้เส้นทางจะคดเคี้ยวหรือขรุขระก็ตาม ด้วยล้ออัลลอยน้ำหนักเบาขนาด 20 นิ้ว แถมภายนอกยังเรียกร้องทุกสายตาด้วยเส้นสาย High-Gloss Shadow Line ในแบบของบีเอ็มดับเบิลยู และชุดแต่ง M Aerodynamics อีกด้วย โดยบีเอ็มดับเบิลยู 730Ld M Sport นี้ราคาจำหน่ายใหม่ในประเทศไทยที่ 6,399,000 บาท
ส่วนวันที่สองของทริปสุดเอ็กซ์คลูซีฟนี้ พวกเราเปลี่ยนเส้นทางพร้อมเปลี่ยนรถยนต์เป็นบีเอ็มดับเบิลยู รุ่น X1 ใหม่ล่าสุดอีกด้วย โดยขับออกจากโรงแรมภูเก็ต แมริออท รีสอร์ต แอนด์ สปา ในยาง บีช ไปตามเส้นทางเลียบหาดเพื่อมุ่งหน้าไปยังแหลมพรหมเทพซึ่งมีความงดงามเป็นอย่างมาก มีทั้งความลาดชันและวิวทิวทัศน์ที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี
โดยบีเอ็มดับเบิลยู รุ่น X1 ใหม่ล่าสุดนี้ มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร พร้อมเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ที่ให้พละกำลังและแรงบิดสูงสุดที่ 136 แรงม้า และ 220Nm ขณะที่รุ่นดีเซล X1 sDrive18d ใช้เครื่องยนต์ BMW TwinPower Turbo 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร ให้พละกำลัง 150 แรงม้า เรียกว่าแรงดีไม่มีตกตั้งแต่ต้นยันจบทั้งเส้นทางเรียบ ลาดชัน หรือแม้แต่ทางคดเคี้ยวก็ตาม
สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู X1 ทั้งแบบเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล มีดีไซน์แนวสปอร์ตที่ดูทรงพลังเหมือนกัน ด้วยชุดแต่งแบบ xLine ภายในตกแต่งด้วยลายไม้โอ๊ก ไฟหน้าแอลอีดี และตกแต่งด้วยเบาะนั่งหนังแท้ดาโกต้า พร้อมระบบปรับเบาะแบบไฟฟ้าที่สามารถจดจำตำแหน่งฝั่งคนขับได้ ขณะพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังรองรับความจุได้สูงสุดถึง 1,550 ลิตร ทั้งยังมอบความบันเทิงเต็มรูปแบบและระบบนำทางบนจอภาพขนาด 8.8 นิ้ว แต่ถ้าคุณยังไม่จุใจสามารถเติมความสปอร์ตแบบเต็มตัวด้วยชุดแต่ง M Sport ที่ครบครันด้วยล้ออัลลอยน้ำหนักเบาแบบ Bicolor M ชุดแต่ง M Aerodynamics เบาะนั่งสปอร์ตหุ้มหนังแท้ดาโกต้า และพวงมาลัย M Sport
ที่สำคัญระบบนำทางที่ทำงานบนหน้าจอ Control Display ขนาด 8.8 นิ้ว พร้อมแผงควบคุมที่เพิ่มคุณสมบัติใหม่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นฟังก์ชันการทำงานแบบแบ่งหน้าจอ หรือระบบบีเอ็มดับเบิลยู Head-Up Display ก็ยังช่วยทำการแสดงข้อมูลสำคัญบนบานกระจกหน้ารถด้วยกราฟิกเต็มสีสัน ให้เวลาขับขี่สามารถมองเห็นข้อมูลครบถ้วนโดยไม่ต้องละสายตาจากถนนข้างหน้าเลยทีเดียว
แถมยังหมดกังวลเวลาจอดรถอีกด้วย เพราะด้วยระบบ Parking Assistant ของ X1 ใหม่ล่าสุดนี้ ช่วยให้สามารถมองหาช่องจอดและนำรถเข้าจอดได้แบบอัตโนมัติ โดยไม่ต้องจับพวงมาลัย แม้แต่การค้นหาช่องจอดที่เหมาะสม โดยระบบจะทำการวัดพื้นที่ช่องจอดที่ระยะห่างไม่เกิน 1.5 เมตรจากด้านข้างรถ ขณะที่ตัวรถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วไม่เกิน 35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อเลือกช่องจอดได้แล้ว ก็สามารถกดสวิตช์ Parking Assistant เพื่อให้รถยนต์เปลี่ยนเกียร์และควบคุมทั้งพวงมาลัย เบรก และคันเร่งโดยอัตโนมัติในขณะเข้าจอด ในระหว่างที่เรียกใช้ฟังก์ชันช่วยจอดนี้ ข้อมูลการทำงานของระบบจะแสดงผลอยู่บนหน้าจอ Control Display อย่างครบถ้วน สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู X1 ใหม่ล่าสุดนี้ สามารถเป็นเจ้าของด้วยราคาเริ่มต้นที่ 2,299,000 บาท ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทรศัพท์ 1-800-269-269 หรือที่เว็บไซต์ www.bmw.co.th
ทริปนี้กับบีเอ็มดับเบิลยูจึงเป็นทริปที่คุ้มค่าที่สุด เพราะได้ทดสอบความใหม่ของรถยนต์ถึงสองรุ่นด้วยกัน ทั้งรุ่น 730Ld M Sport และ X1 ในแบบสองฟีลลิ่งสองเส้นทางเลยทีเดียว หรือแม้แต่โรงแรมที่พักอย่างภูเก็ต แมริออท รีสอร์ต แอนด์ สปา ในยาง บีช ก็ยังใหม่เอี่ยมอ่องเช่นกัน ท่ามกลางวิถีชีวิตของภูเก็ตแท้ๆ ครบทุกรสทั้งสายฝน แสงแดด ภูเขา ทะเล และสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ :: Text by FLASH
Comments are closed.