เปิดขวดแชมเปญ โมเอ็ท ชองดอง

‘โมเอ็ท แอนด์ ชองดอง’ (Moët & Chandon) เป็นแชมเปญที่มีชื่อเสียงมากว่าศตวรรษแล้ว แชมเปญขวดแรกนั้นได้รับการสร้างสรรค์โดยบาทหลวง พิแยร์ เพอรินยอง (Dom Pierre Perignon) ผู้คิดค้นการนำองุ่นพันธุ์ต่างๆจากกว่า 300 หมู่บ้านในแคว้นแชมเปญมาคั้นและผสมผสานกัน อีกทั้งยัง เป็นผู้คิดค้นขั้นตอนการหมักครั้งที่ 2 ในขวด เก็บบ่มทำให้เกิดฟองอากาศตามธรรมชาติ อันเป็น เอกลักษณ์เฉพาะของการผลิตแชมเปญในแคว้นแชมเปญของประเทศฝรั่งเศส

แชมเปญนั้นเป็นไวน์ ชนิดหนึ่งที่ทำจากองุ่นหลายชนิดรวมกัน ส่วนมากจะเป็นองุ่นขาว ผสมกับองุ่นเปลือกดำ เช่น ชาร์ดอนเนย์ (Chardonnay) ผสมกับ พิโนนัวร์ (Pinot Noir) และ พิโน มูนนิเอย์ (Pinot Meunier) ส่วนมากจะมีการผลิตที่คงที่ คือมีสูตรตายตัวที่ผสมน้ำองุ่นจากหลายๆปีที่ให้รสชาติคงที่ แชมเปญ แบบนี้เรียกว่า Non Vintage ซึ่งไม่ระบุปีนั่นเอง

แต่เนื่องจากบางปีภูมิอากาศดีทำให้องุ่นรสชาติดีเป็นพิเศษมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งปีนั้นผู้ผลิตไวน์และแชมเปญจะผลิตไวน์และแชมเปญชนิดพิเศษนี้ขึ้นมา โดยใช้เฉพาะองุ่นที่เก็บเกี่ยวในปีนั้นๆ ไวน์และแชมเปญที่ผลิตด้วยองุ่นในปีเดียวนี้จะเรียกว่า Vintage

โมเอ็ท & ชองดอง อิมพีเรียลนั้นต่างกันกับ โมเอ็ท & ชองดอง โรเซ ที่อัตราส่วนผสมขององุ่น ทั้ง3ชนิด ซึ่งของอิมพีเรียลนั้น ใช้อัตราส่วนผสมขององุ่นเท่ากัน 1/3 ในขณะที่โรเซนั้น ใช้ชาร์ดอนเนย์ เพียง 20% พิโนนัวร์ และ พิโน มูนนิเอย์ อย่างละ 40% โดยผสมพิโนนัวร์ ลงไปในขั้นตอนการเบลนด์ ครั้งสุดท้าย จึงได้แชมเปญเป็นสีชมพู ซึ่งโมเอ็ท & ชองดอง โรเซนั้น ได้เริ่มแนะนำสู่ตลาดในช่วง สิบกว่าปีที่แล้วนี้เอง

ตำนานของโมเอ็ท & ชองดอง นั้นต้องย้อนกลับไปถึงปี 1743 เมื่อ โคล๊ด โมเอ็ท ทายาทตระกูล ผลิตแชมเปญยักษ์ใหญ่แห่งเมืองแรมส์ ก่อตั้งบริษัทของตนเองได้ ซึ่งในขณะนั้นเขาก็มีอายุถึง 60 ปีแล้ว โมเอ็ทเริ่มต้นจากการขายไวน์และพยายามศึกษาค้นคว้าสิ่งที่ บาทหลวงดอม เพอรินยองค้นพบ เพื่อนำ มาเป็นพื้นฐานในการสร้างสรรค์และผลิตแชมเปญ จนกระทั่งสามารถสร้างอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ที่รู้จัก กันในฐานะ The House of Moët
แต่ยุคทองของโมเอ็ทที่แท้จริงกลับเป็นสมัยของ ฌอง เรอมี่ (Jean-Remy Moët) หลานชายผู้ก่อตั้ง เรอมี่ขยายอาณาจักรด้วยการส่งแชมเปญออกไปจำหน่ายในประเทศ ต่างๆในยุโรป แม้ในช่วงระหว่างสงครามนโปเลียน ธุรกิจการค้าของเขาก็ไม่เคยสะดุดเลย ทั้งนี้ในช่วง เวลาที่ฌอง เรอมี่เริ่มเข้ามาบริหารงาน ก็เป็นเวลาเดียวกันกับที่นโปเลียน (Nopoleon) มหาราชผู้ยิ่งใหญ่ แห่งฝรั่งเศสหรือกล่าวได้ว่าแห่งภาคพื้นยุโรปเริ่มเข้าสู่การบริหารประเทศ ทั้งสองคนมีความสนิทสนม กันตั้งแต่สมัยโรงเรียนทหาร ดังนั้นจักรพรรดิแห่งฝรั่งเศสจึงโปรดปรานแชมเปญเป็นอย่างยิ่ง
ซึ่งในปี 1863 โมเอ็ทได้แนะนำ อิมพีเรียล (Imperial) สู่ตลาดเป็นครั้งแรกเพื่อเป็นเกียรติแก่การขึ้นครองราชย์ ของนโปเลียน ความสำเร็จที่สานต่อในปี1833 ฌอง เรอมี่ มอบกิจการให้แก่บุตรชาย คือ วิคเตอร์ โมเอ็ท และบุตรเขย ปีแอร์ กาเบรียล ชองดอง ร่วมกันดำเนินธุรกิจต่อไป ชื่อของ House of Moët จึงเปลี่ยนเป็น Moët & Chandon นับแต่นั้นเป็นต้นมา ซึ่ง โมเอ็ท & ชองดอง เริ่มมีชื่อเสียง กระฉ่อนอีกครั้งในช่วง ต้นศตวรรษที่19 เมื่อนำไปวางจำหน่ายในโรงแรม และไนท์คลับระดับท็อปของประเทศฝรั่งเศสอย่าง ริทซ์-คาร์ลตัน คลิยอง และ มูแลง รูจ โรงแรมประเทศอังกฤษอย่าง ซาวอย คลาริดเจซ แล้วได้รับความนิยมอย่างสูง
ในช่วงทศวรรษที่70ธุรกิจก็ได้มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว ได้มีการซื้อ กิจการต่างๆเข้ามารวม และในปี1971 กลุ่มโมเอ็ทได้รวมกิจการเข้ากับกลุ่มเฮนเนสซี่ ผู้ผลิตคอนยัคกลายเป็นบริษัท โมเอ็ท เฮนเนสซี่ ดังเช่นปัจจุบันนี้ โดยในประเทศไทย นั้น โมเอ็ท & ชองดอง จัดจำหน่ายโดย บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จำกัด