Dining Out

ลิ้มรสฝีมือเชฟระดับมิชลินสตาร์ที่ Brio

Pinterest LinkedIn Tumblr


>>วันนี้เราจะพาคุณไปสัมผัสประสบการณ์อิ่มแบบสุดพิเศษ ด้วยมื้ออาหารแสนอร่อยระดับมิชลิน สตาร์ ของ “เชฟนิโคลาส์ อิสนารด์” เชฟชาวฝรั่งเศส แห่งร้านอาหารชื่อดังแห่งฝรั่งเศส “L’Auberge de la Charme” ที่ได้รับการันตีคุณภาพด้วยมิชลิน สตาร์ ระดับ 1 ดาว ที่มาเป็น Guest Chef คนพิเศษที่ “ห้องอาหารบริโอ” โรงแรมแมริออท รีสอร์ต แอนด์ สปา กรุงเทพฯ ที่จะรังสรรค์ความอร่อยในคุณได้ลิ้มลองกันเพียงสัปดาห์นี้เท่านั้น

นับจากวันนี้ไปถึงวันเสาร์ที่ 26 กุมภาพันธ์นี้ ห้องอาหารบริโอ ของโรงแรมแมริออท รีสอร์ต แอนด์ สปา กรุงเทพฯ จะแปลงร่างจากห้องอาหารอิตาเลียนพันธุ์แท้ ไปสู่แหล่งรวมความอร่อยสุดพิเศษของอาหารฝรั่งเศสกลิ่นอายอิตาเลียน ต้อนรับเชฟคนพิเศษ “นิโคลาส์ อิสนารด์” เชฟชาวฝรั่งเศส แห่งร้าน L’Auberge de la Charme ร้านอาหารชื่อดัง การันตีคุณภาพด้วยมิชลิน สตาร์ ระดับ 1 ดาว ตั้งอยู่ในแคว้นเบอร์กันดี ประเทศฝรั่งเศส ที่จะมาทำอาหารจานหรูสุดครีเอตให้นักชิมชาวไทยได้ลิ้มลองกัน

เชฟมิชลิน สตาร์ วัย 32 ปี ท่านนี้มีความหลงใหลในการปรุงอาหารฝรั่งเศสตอนใต้คลุกเคล้ากลิ่นอายแห่งอาหารอิตาเลียน และด้วยความเป็นชาวโพรวองซ์โดยกำเนิด อาหารของเชฟนิโคลาส์จึงมีกลิ่นอายแบบเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งในการมาเยือนเมืองไทยครั้งนี้ ก็ได้นำความคิดสร้างสรรค์ และความชำนาญในการปรุงอาหารในสไตล์ของเขามาถ่ายทอดเป็นเมนูพิเศษให้เราได้ชิมกัน อาทิ

“Amuse Bouche”
อาหารจานเรียกน้ำย่อย ที่เป็นตับเป็ดบดเสิร์ฟคู่กับเยลลี่แอปเปิลเขียว หอมอร่อย รสชาติเข้ากันได้อย่างลงตัว

“Soupe a l'oignon version contemporaine aux truffes”
ซุปหัวหอมเมนูดั้งเดิมของฝรั่งเศส แต่นำมาปรุงแบบร่วมสมัย นั่นคือ ถ้าเป็นในแบบดั้งเดิมจะเป็นซุปหัวหอมที่ด้านหน้ามีขนมปังและชีสอยู่ด้านบน แต่ในเมนูนี้เชฟนิโคลาส์ ได้แนวคิดแบบร่วมสมัย การปรุงแบบ Deconstruction ที่นำหัวหอมไปทำเป็นไอศรีม และเวลาเสิร์ฟจะราดด้วยน้ำซุปร้อนๆ ซึ่งเมื่อไอศรีมหัวหอมเย็นๆ เจอความร้อนก็จะกลายเป็นซุปหัวหอม รสชาติกลมกล่อม

“Homad, Houmous, emulsion citron – gingembre, kumkuat”
เมนูที่มีกลิ่นอายอาหารเลบานีส เป็นกุ้ง Lobster เนื้อแน่นหวานจากรัฐเมน ทานกับ Hummus ซอสถั่วสไตล์อาหรับ ราดด้วยซอสขิงมะนาว พร้อมีซอสที่ทำจากลูก คอมคัว (Kumkuat) เป็นไม้ผลคล้ายกับส้มหรือพีช มีรสออกเปรี้ยว

“Agneau en deux cuissons, poivrons confits, à la calabraise”
เมนูสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน เป็นซี่โครงแกะที่ปรุง 2 สไตล์ คือส่วนหนึ่งกริลล์ในกระทะแบบดั้งเดิม และอีกชิ้นทำแบบ Comfit คือการปรุงในน้ำมันให้สุกอย่างช้าๆ ที่จะให้เนื้อสุกนิ่มนวลคล้ายการตุ๋น ทำให้ได้ลิ้มรสความอร่อยหลายสไตล์ในจานเดียว

“Feuille à feuille de framboise, pain d’épice“
ของหวานที่ทำจากราสเบอร์รี่ซ้อนกันเป็นชั้นๆ มีทั้งมูสราสเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ Sorbet และผลราสเบอร์รี่สดพร้อมวิปครีมวางคั่นระหว่างขนมปังขิงแผ่นเรียบกลม

คุณจะเลือกชิมเมนูเหล่านี้ได้หลากหลายแบบ ทั้งแบบเซ็ตฟลูคอร์ส 6 รายการ ในราคาท่านละ 3,600 ++บาท หรือจะเลือกสั่งทานในเมนูชุดอาหารกลางวัน ราคาท่านละ 1,100 ++บาท มีบริการตั้งแต่วันนี้ถึงวันเสาร์ที่ 26 กุมภาพันธ์นี้เท่านั้น ดังนั้น ถ้าใครอยากชิมเมนูเหล่านี้ รีบๆ กันหน่อย เพราะอาหารระดับมิชลินสตาร์ไม่ได้มีมาให้ชิมกันบ่อยๆ นะคะ :: Text by FLASH mag.

:: Super Special
ล้วงเคล็ดลับพ่อครัวมิชลิน สตาร์
นอกจากจะมาปรุงอาหารอร่อยๆ ให้เราได้รับประทานกันแล้ว เชฟนิโคลาส์ ยังพร้อมเปิดเผยเคล็ดลับ และสอนเทคนิคการปรุงอาหารสำหรับเมนูพิเศษในแบบฉบับเชฟรางวัลดาวมิชลิน ให้คุณๆ ได้ชมกันอย่างใกล้ชิด ในราคาเพียงท่านละ 5,500 ++ บาท (รวมเซ็ตเมนูอาหารกลางวัน) ในวันเสาร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา 10.00 น. เท่านั้น ถ้าใครไม่อยากพลาด กรุณาโทรสำรองที่นั่งล่วงหน้า เพราะเขาเปิดรับจำนวนจำกัด

>>> ประวัติเชฟนิโคลาส์ อิสนารด์
เป็นชาวโพรวองซ์แต่กำเนิด อาหารของเชฟนิโคลาส์จึงมีกลิ่นอายแบบเมดิเตอร์เรเนียน เชฟนิโคลาส์มีการปรุงอาหารที่เป็นเอกลักษณ์เรียกว่า Cuisine du Terroir ซึ่งเป็นการปรุงอาหารที่ยังคงรสชาติแบบดั้งเดิม ผสมผสานการคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพเยี่ยมที่หาได้เฉพาะในท้องถิ่น กลายเป็นอาหารเบอร์กันดีแบบดั้งเดิมที่ใช้วิธีการปรุงอาหารสมัยใหม่

เชฟนิโคลาส์ สะสมประสบการณ์ทำอาหาร จากการร่วมงานกับเหล่าเชฟที่มีชื่อเสียงมากมายในประเทศฝรั่งเศส อาทิ เชฟจิลเยส กูจอง เชฟมิชลิน สตาร์ ระดับ 3 ดาว จากร้านอาหาร L’Auberge du Vieux Puits โดยเชฟนิโคลาส์ได้ร่วมงานในตำแหน่ง Chef de Cuisine เป็นเวลา 3 ปี หลังจากนั้นเชฟนิโคลาส์ได้ย้ายไปร่วมงานกับร้าน Le Chateau de Curzay โดยได้กำหนดทิศทางของอาหารให้อยู่ในระดับชั้นสูงตามมาตรฐานของประเทศฝรั่งเศส และด้วยความพยายามอย่างสูงของเขานั่นเอง ที่ทำให้ Le Chateau de Curzay ได้รับรางวัลมิชลิน สตาร์เป็นครั้งแรก

ก่อนมาเปิดกิจการของตนเอง ร้าน L’ Auberge de la Charme ที่ดัดแปลงมาจากบ้านเก่าที่ทำจากหิน ซึ่งมีอายุถึง 229 ปี ตั้งอยู่ในแคว้นเบอร์กันดี ไม่ไกลจากตัวเมืองเพรนัวส์ และห่างจากเมืองดิชงเพียง 15 นาที ให้บริการอาหารแบบโพรวองซ์ และเบอร์กันดี ด้วยประสบการณ์และความสามารถที่โดดเด่นของเชฟนิโคลาส์ ทำให้ร้านอาหารแห่งนี้ เป็นที่รู้จัก พร้อมได้รับความนิยมจนกระทั่งได้รับรางวัลมิชลิน สตาร์ ภายในระยะเวลาอันสั้นเพียงไม่ถึง 1 ปีเท่านั้น

>>> ข้อมูลร้านบริโอ
ร้านอาหารที่ให้บริการอาหารอิตาเลียนรสชาติดั้งเดิมภายใต้บรรยากาศความทรงจำอันแสนอบอุ่น และเป็นมิตรของเมืองทัสแคนที่ทั้งคลาสสิกและโรแมนติก การตกแต่งเน้นให้เห็นสไตล์ “วิถีชีวิตอิตาเลียน” ทั้ง กำแพงหินทราย และซุ้มประตูโค้งที่ทำจากอิฐ พร้อมตกแต่งด้วยภาพพิมพ์สีซีเปียบนกำแพง โต๊ะไม้เนื้อแข็งชั้นดีโชว์ความงาม กำแพงกั้นห้องที่ทำเป็นชั้นวางไวน์ในตัว

อาหารที่เสิร์ฟล้วนแล้วแต่เป็นของคุณภาพดี สดใหม่และคงรสชาติดั้งเดิมไว้อย่างครบถ้วน อย่างแฮนด์เมดพาสต้า พิซซ่าเนื้อบางกรอบอบด้วยเตาฟืน พร้อมเมนูของหวาน กาแฟกลิ่นหอมหวลและไวน์ชั้นเยี่ยมจากอิตาลี โดยได้รับการันตีความอร่อยด้วยรางวัลห้องอาหารอิตาเลียนดีเด่นจากนิตยสารไทยแลนด์ แทตเลอร์ ประจำปี 2553 จากผลโหวตของผู้อ่านนิตยสารไทยแลนด์ แทตเลอร์ทั่วประเทศ

เปิดให้บริการ มื้อกลางวันเวลา 11.30-14.30 น. มื้อค่ำเวลา 18.00-22.30 น. สอบถามรายละเอียดและสำรองที่นั่ง โทรศัพท์ 0-2476-0022 ต่อ 1416

 
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่  http://www.celeb-online.net












Comments are closed.

Pin It