Dining Out

ตะลุยกิน Ramen Champions ที่ …@ arena 10

Pinterest LinkedIn Tumblr


นาทีนี้เทรนด์อาหารญี่ปุ่นที่ฮอตฮิต กำลังติดปากคนไทยต้องเป็น “ราเมน” เท่านั้น เมนูอื่นๆ ขอให้หลบไปก่อนดีกว่า แล้วเสือปืนไวอย่าง เสี่ยตัน-ภาสกรนที ก็ไม่รอช้าหันไปคว้าแชมเปี้ยนราเมนของญี่ปุ่น 6 ร้านดัง พร้อมเคลียร์พื้นที่ @ arena เอาไว้ต้อนรับ “ราเมนเลิฟเวอร์” ให้มาพิสูจน์รสชาติโดยเฉพาะ
“ราเมน” เป็นวัฒนธรรมอาหารเส้นของคนญี่ปุ่น ที่ได้รับอิทธิพลมาจากเส้นบะหมี่ของชาวจีน จนกลายมาเป็นอาหารประจำชาติที่คนญี่ปุ่นแต่ละภูมิภาคจะต้องสรรหาสูตรเด็ดเป็นของตัวเอง โดยเฉพาะ “น้ำซุป”ที่หลายเจ้านั้นสืบทอดสูตรและวิธีการปรุงมาจากบรรบุรุษกว่า 50 ปีทีเดียว

คนญี่ปุ่นนิยมกินราเมนกันเป็นอาหารฟาสต์ฟู้ดอย่างมาก ขนาดมีร้านราเมนเปิดขึ้นมาเยอะแยะ เหมือนเมืองไทยมีร้านส้มตำตามซอยเช่นกัน
ความฮอตฮิตของราเมนก็ไม่แพ้เมืองไทย เพราะนอกจากแต่ละเมืองจะมีสูตรราเมนเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวแล้ว ยังมีทั้งสถานีโทรทัศน์ สถาบันต่างๆ ที่จัดการประกวดชิงแชมเปี้ยนราเมนกันปีละหลายๆ งาน เรียกได้ว่ามีร้านราเมนที่คว้าแชมป์เต็มไปหมด ที่สังเกตนั้นจะเห็นว่า คนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ของญี่ปุ่นจะหันมาเปิดร้านราเมนกันไม่น้อย
ผู้เขียนเคยไปเยือนฟูกูโอกะ แล้วมีโอกาสชิมราเมนจากถิ่นนั้น ส่วนมากจะเป็นซุปกระดูกหมูน้ำข้นที่อร่อยมากๆ เรียกได้ว่าเกิดมายังไม่เคยลิ้มลองรสชาติน้ำซุปกระดูกหมูอะไรที่หอมและเข้มข้นแบบนี้มาก่อนเลย

ยามกลางวันคนญี่ปุ่นจะมุดเข้าไปตามตึกที่มีร้านขายราเมนซ่อนตัวอยู่เป็นห้องเล็ก ๆ แคบ ๆ มีอยู่ไม่กี่โต๊ะเท่านั้น แต่ละคนกินเสร็จแล้วก็รีบลุกกลับไปทำงาน พอตกเย็นตามริมถนนก็จะเริ่มตั้งแผงลอยขายราเมนกันเป็นแถว แต่ละร้านจะมีสองผัวเมียตายายบ้างหรือเป็นครอบครัวบ้าง มาช่วยกันปรุงช่วยกันขาย แม้จะเป็นแค่แผงลอยแต่รสชาติก็อร่อยเด็ดขาดจริงๆ ยิ่งอากาศเย็นๆ ซดน้ำซุปกระดูกหมูที่หอมเข้มข้นแล้ว จะช่วยให้ร่างกายอบอุ่นสบายตัวสบายท้องด้วย
ก่อนที่ใครคิดว่าจะไปลิ้มลองสักชามหนึ่งนั้น ขออนุญาตให้ความรู้เกี่ยวกับราเมนก่อน ในชามราเมนนั้น จะมีส่วนประกอบสำคัญ 2 อย่าง ที่จะตัดสินว่าของใครเด็ดกว่ากันคือ “น้ำซุป” ที่มีหลากรส มีทั้งน้ำข้น น้ำใส น้ำสีน้ำตาล แต่จะแยกหลักๆ เป็นซุปน้ำข้นกระดูกหมู,ซุปโชวหยุและมิโซะซุป เครื่องปรุงหลัก ๆ ของน้ำซุปจะเป็น กระดูกหมู ผักสด และปลาแห้ง ส่วนร้านไหนจะมีมากกว่านี้ก็เป็นทีเด็ดที่คิดค้นกันขึ้นมา กว่าจะได้น้ำซุปมานั้นจะต้องเคี่ยวกันไม่ต่ำกว่า 6 – 8 ชั่วโมงทีเดียว

ส่วนประกอบที่สำคัญอีกอย่างคือ “เส้นราเมน” ส่วนมากจะเป็นบะหมี่ไข่ ซึ่งก็แล้วแต่ว่าใครจะมีสูตรเด็ด จะมีทั้งเส้นเล็ก ๆ ไล่เรียงไปจนถึงเส้นใหญ่เหมือนอุด้ง
หน้าตาของราเมนในแต่ละชามจะต้องประกอบด้วย น้ำซุป เส้นราเมน หมูชาชู ไข่ต้ม สาหร่าย หน่อไม้ ต้นหอม เป็นต้น
สำหรับ Ramen Champions ที่ …@ arena 10 มีทั้งหมด 6 ร้าน 6 รูปแบบ พูดถึงสถานที่นั้น ตกแต่งอย่างสวยงามดูดีกว่าร้านราเมนที่ญี่ปุ่นเสียอีก ขนาดเพิ่งจะเปิดเมื่อไม่นานมานี้เอง แต่ก็มีบรรดาวัยรุ่นจำนวนมากที่นัดพบกันเป็นก๊วนเพื่อไปตะลุยกินกัน

นอกจากบรรยากาศที่ทำให้เหมือนเดินเล่นอยู่ในย่านญี่ปุ่นแล้ว แต่ละร้านยังมีตู้สั่งราเมนเหมือนที่ไปญี่ปุ่นทุกร้านก็จะมีตู้นี้เช่นกัน ตู้นี้ก็เหมือนเมนูนั่นแหละ มีรูปแต่ละเมนูพร้อมราคากำกับ
ลองมาดูว่า ราเมนแชมเปี้ยนทั้ง 6 ร้านนั้น ร้านไหนมีทีเด็ดอะไรบ้าง
ทสึจิตะ เป็นแชมปเปี้ยนราเมนเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ซึ่งโด่งดังมากในกรุงโตเกียว ที่นิยมกินราเมนประเภท “ทสึเคเมน” คือแยกน้ำซุป แยกเส้น เวลาจะกินก็ใช้ตะเกียบคีบเส้นจุ่มกับน้ำซุปให้ชุ่มก่อนที่จะส่งเข้าปาก เ
น้ำซุปร้านนี้เป็นซุปกระดูกหมูที่ต้องใช้เวลาเคี่ยวนานถึง 8 ชั่วโมง จนรสชาติหอมกลมกล่อม มีทั้งซุปน้ำข้นจะให้รสชาติที่เข้มข้น ส่วนซุปน้ำใสจะให้รสชาติจะให้รสกลมกล่อมละมุนลิ้น เวลาเสิร์ฟทสึคาเมนชามนี้จะมีมะนาวสดมาให้บีบใส่เส้นเพื่อให้รสชาติจี๊ดจ๊าดขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีเมนูพิเศษสำหรับคนไทยโดยเฉพาะคือ ไก่คาราเกะ หรือไก่ทอดที่เลือกเฉพาะชิ้นสะโพกเนื้อจะแน่นเหนียวเล็กน้อย ก่อนจะทอดไก่นั้นปล่อยให้น้ำมันร้อนจัดแล้วเอาพริกขี้หนูสดสีแดงลงไปทอดในน้ำมันแล้วรีบตักขึ้นมา จะทำให้น้ำมันมีกลิ่นพริกและรสชาติเผ็ด หลังจากนั้นจึงนำไก่ลงไปทอดในน้ำมันจะทำให้ไก่ที่ได้มีความเผ็ดไปด้วย เวลาเสิร์ฟก็เสิร์ฟทั้งไก่ทั้งพริกสีแดงเต็มชามดูน่ากิน

เซตากายะ เป็นราเมนจากโตเกียวเช่นกัน เปิดร้านมาได้ 10 ปีนี้เอง ทีเด็ดที่แปลกแหวกแนวของราเมนร้านนี้คือใช้เกลือจากเมืองคัมโฮฮา ประเทศเวียดนาม มาปรุงแต่งในน้ำซุป เชฟบอกว่าเกลือที่ไหนๆ ก็ไม่อร่อยเท่าที่นี่ เพราะให้ความเค็มได้พอดิบพอดี รวมถึง “โชวยุ” ที่เลือกอย่างดีที่หมักนานถึง 90 กว่าวันทำให้ได้โชวยุที่หอม

ราเมนโชวยุราคาชามละ 270 บาท น้ำซุปสีน้ำตาลใสรสชาติกลมกล่อมไม่เค็มไม่จืดจนเกินไปแถมมีกลิ่นหอมอีกด้วย ฃ
อีกเมนูหนี่งที่ภูมิใจนำเสนอคือ “เกี๊ยวซ่ากุ้ง” (7 ตัว 100 บาท) ร้านนี้ขายดิบขายดีจนห่อไม่ทัน ความอร่อยอยู่ที่ไส้ที่เลือกกุ้งขนาดพิเศษ เนื้อไก่ ขิง กระเทียม ผักต่าง เป็นเกี๊ยวซ่าที่ใช้ลวกแทนการทอดหน้าตาจึงออกมาเหมือนเกี๊ยวกุ้งมากกว่า ส่วนซอสโชวยุที่ใช้จิ้มเกี๊ยวซ่าก็ปรุงพิเศษรสชาติจึงมีความหอมนำเค็ม

คิบิ นำเสนอสุดยอดน้ำซุป โทริ ไพตัน (ชามละ 290 บาท) ที่ใช้ขาไก่ , กระดูกไก่มาเคี่ยวให้เปื่อย ถ้าจะให้อร่อยต้องทิ้งค้างสักคืนหนึ่ง น้ำซุปจะมีกลิ่นหอมแล้วน้ำจะเหมือนเจลลี่นิดๆ จากหนังและเอ็นของขาไก่ ซึ่งเชฟบอกว่านั่นคือน้ำซุปที่อุดมไปด้วยคอลลาเจนที่จะช่วยให้ใครที่ซดน้ำถ้วยนี้ลงไปแล้วหน้าจะเด้งดึ๋งด้วย ส่วนโทริเกี๊ยวซ่า จะใช้เนื้อไก่แทนเนื้อหมู ก็ให้ความอร่อยแปลกไปอีกแบบ

ราเมนของร้านนี้แทนที่จะใส่หมูชาชู แต่เชฟมีลูกเล่นเปลี่ยนมาใช้ไก่ย่างและหมูย่างแทน โดยเฉพาะไก่ย่างนั้นจะย่างได้หนังใสมันน่ากินมาก และไหน ๆ ก็ใช้ไก่เกือบทั้งร้านแล้ว เกี๊ยวซ่าของที่นี่จึงใช้เนื้อไก่บดแทนหมูเสียเลย ไส้ของเกี๊ยวซ่าจึงเนียนนุ่มอร่อยไปอีกแบบ


โชะได เคสุเคะ ใครเคยเห็นน้ำซุปราเมนสีดำบ้าง? ซึ่งปกติที่ญี่ปุ่นนั้นน้ำซุปสีดำมีขายอยู่หลายร้าน เพราะใช้เต้าเจี้ยวดำมาผสม แต่น้ำซุปของร้านนี้นอกจากจะดำด้วยเต้าเจี้ยวดำแล้วยังผสม“ถ่านไม้ไผ่” เข้าไปด้วย น้ำจึงดำปิ๊ดดำปี๋ ซึ่งเชฟบอกว่า เถ้าจากถ่านไม้ไผ่เป็นภูมิปัญญาพื้นบ้านที่จะช่วยในเรื่องทางเดินอาหารให้ทำงาน น้ำซุปดำดูแล้วอาจจะไม่น่ากินเท่าไหร่ แต่ลองซดแล้วจะติดใจเพราะไม่มีกลิ่นขี้เถ้าไม้เลยจะมีก็แต่กลิ่นหอมของน้ำกระดูกหมูและเต้าเจี้ยว

ร้านนี้คว้าแชมป์ราเมนจากโตเกียวมา 3 ปีซ้อน ที่พิเศษอีกอย่างคือ หมูชาบูที่ใช้นั้นจะเลือกเฉพาะส่วนแก้มที่เนื้อนิ่มหมักสูตรพิเศษแล้วตุ๋น 2-3 ชั่วโมงจนเปื่อย เวลาเคีค้ยวแล้วจะนุ่มมากๆ แถมมีรสชาติหอมมันอีกด้วย
เมนูที่ให้สั่งมี โทงโกโระ ชาบูน้ำซุปดำ ราคา 280 บาท ส่วนทงคัทสึ ราเมนหรือซุปกระดูกหมู ราคา 230 บาท

โกะคุมิโสะ ร้านนี้เป็นการรวมตัวของ 2 แชมเปี้ยนราเมน คือ “สึเคยะ” ต้นตำรับเรื่องทงคัตสึ ราเมน (ราเมนแยกน้ำแยกเส้น) และ “กินยะ” ทีเด็ดของน้ำซุปคือ ต้องใช้มิโสะมาจากเขตชินชู เมืองนากาโนะ อันเป็นแหล่งผลิตมิโสะอันเลื่องชื่อของญี่ปุ่น ที่ผลิตมิโสะได้ดีที่สุดในโลก

จุดเด่นของร้านนี้คือ น้ำซุปมิโสะที่เข้มข้นกลมกล่อมซึ่งเคี่ยวจากกระดูกหมูนานถึง 10 ชั่วโมง ใส่ทั้งข้าวโพดหวาน ต้นหอมและถั่วงอก ส่วนtopping จะใช้หมูสับทรงเครื่องแทนหมูชาชู โรยด้วยงาขาวอีกหน่อยดูแปลกและน่ากินมาก นอกจากนี้ ยังมี “มินิชาชู” (100 บาท) สำหรับผู้หญิงที่กินไม่เยอะ ที่พิเศษคือเป็นข้าวราดด้วยหมูชาชูที่ตุ๋นจนนุ่มหอมมาหั่นเป็นชิ้นสีเหลี่ยมเล็ก ๆ ปรุงด้วยซอสพิเศษ

ร้านสุดท้าย ไทโชเคน เปิดมานานกว่า 50 ปีแล้ว ฉายาเทพเจ้าแห่งราเมน เป็นเจ้าตำรับ “ เส้นร้อน” หรือทสึเคเมน และ “เส้นเย็น” อสึโมริ เป็นต้นตำรับเจ้าแรกของญี่ปุ่น ร้านนี้ต้องยกนิ้วให้กับเส้นราเมนที่เหนียวนุ่มเด้ง กลิ่นไข่หอมติดปลายลิ้น ส่วนหมูชาชูใช้หมูดำคูโรบูตะ เลือกใช้ตรงส่วนสันคอซึ่งนุ่ม มาตุ๋นจนเปื่อย เคี้ยวแล้วจะมีเอ็นนิดๆ ให้อร่อย ถ้าสั่ง ทสึเคเมนรสต้นตำรับ เส้นหมี่เย็น ราคา 290 บาท เกี๊ยวซ่ากุ้ง 100 บาท
ใครจะไปตะลุยกินราเมนที่นี่ต้องไปให้เร็วหน่อย เพราะตอนนี้กำลังอยู่ในกระแสเห่อ @ arena 10 อยู่ตรงทองหล่อซอย 10 มีที่จอดรถกว้างขวาง เปิดบริการวันละ 2 รอบคือ 11.00-14.00 น. และ 17.00-22.00 น. ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ เปิดตลอดทั้งวันตั้งแต่ 11.00-23.00 น.

 

>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่  http://www.celeb-online.net
 

Comments are closed.

Pin It