ถนนมหาเศรษฐ์ เป็นถนนตัดใหม่ที่เชื่อมสุรวงศ์และสี่พระยา ให้เดินทางไปมาได้สะดวก และในย่านนี้ก็มีร้านอาหารผุดขึ้นหลายๆ ร้าน จนกลายเป็นอีกแหล่งหนึ่งที่นักชิมแวะเวียนมาประจำ วันนี้จะชวนไปทานร้านเจ้าถิ่นของที่นี่กัน
Delight Kitchen เป็นร้านอาหารแรกๆ ที่มายึดทำเลแถวนี้ตั้งแต่เพิ่งตัดถนนใหม่ๆ เมื่อเกือบ 10 ปีมาแล้ว ซึ่งเดิมร้านนี้เคยตั้งอยู่ที่ตลาดสามย่านในชื่อ สากลซีฟู้ด มาก่อน และขึ้นชื่อเรื่องอาหารประเภทซีฟู้ดมาก เพราะอยู่ใกล้ตลาดสามย่าน อันเป็นแหล่งอาหารทะเลที่บรรดาร้านอาหารกรุงเทพฯ จำนวนไม่น้อย ต้องมาซื้อหาจากที่นี่
ร้านนี้มีอาหารให้เลือก 2 ชาติคือ จีนและเวียดนาม ซึ่งก็แปลกเพราะอาหารเวียดนามส่วนมากเป็นผักกินเพื่อสุขภาพ แต่อาหารจีนแนวซีฟู้ดกินเน้นความอร่อยมากกว่า แต่ข้อดีคือ เป็นทางเลือกให้ลูกค้าได้กินทั้งของอร่อยและเพื่อสุขภาพไปพร้อมๆ กัน
อาหารเวียดนามที่นี่ขึ้นชื่อมาก มีลูกค้าขาประจำมาอุดหนุนโดยเฉพาะช่วงเย็นและสุดสัปดาห์ เป็นเวียดนามแถบอุดรฯ-หนองคาย โดยนำสูตรเด็ดของร้านชื่อดังในหนองคาย รวมทั้งวัตถุดิบต่างๆ ก็ส่งตรงมาจากหนองคายกันเลย เมนูแรกของอาหารเวียดนามที่ทุกคนมาแล้วต้องสั่งคือ แหนมเนือง (150 บาท) ที่พิเศษคือ “หมูแหนมเนือง” ที่เป็นสูตรของที่ร้านปรุงเอง โดยสั่งหมูยอดิบจากอุดรฯ แล้วมาผสมกับหมูสับปรุงรสชาติเฉพาะ ที่พิเศษคือ น้ำจิ้มที่ปรุงพิเศษอีกเช่นกัน น้ำจิ้มข้นหอมมีพริกตำและถั่วลิสงคั่วใหม่ๆ ตำละเอียดปนลงไป เครื่องเคียงสดๆ ก็มีทั้งกระเทียมกลีบเล็กที่ให้ความหอม กล้วยดิบ มะม่วง แตงกวา ห่อกับแผ่นแป้งที่นุ่มเหนียว กลายเป็นแหนมเนืองคำโตๆ เวลาเคี้ยวอย่าลืมเด็ดผักสดๆ ที่ให้มาเต็มชาม เคี้ยวคู่กับแหนมเนืองด้วย จึงจะทำให้รสชาติแหนมเนืองคำนี้อร่อยสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
อีกจานที่แปลกและไม่เคยเห็นมาก่อนคือ เมนูชื่อ “แป้งบริสุทธิ์” (150 บาท) มองไปจะเห็นแป้งใสๆ ห่อด้วยเนื้อกุ้งสีส้มและเครื่องปรุงอื่นๆ ยั่วน้ำลายดีแท้
ต้นหอมทรงเครื่อง (150 บาท) จานนี้สวยแปลกน่ากิน ใช้กุ้งสดขนาดปานกลางมาผัดกับหมูแล้วปรุงรสให้หอม ก่อนจะเสิร์ฟนั้น เชฟจะประดิดประดอยมาเป็นคำๆ โดยนำเครื่องทั้งหมดมาวางลงผักกาดหอม แล้วมัดด้วยต้นหอมขนาดพอคำเรียงมาเต็มจาน ดูละลานตาน่ากินมาก
เมนูอาหารเวียดนาม ยังมีให้เลือกลิ้มลองอีกแยะ แต่ต้องเก็บพื้นที่ของกระเพาะเอาไว้ทานซีฟู้ดจานเด็ดของที่ร้าน จึงต้องขอหยุดเวียดนามเพียงเท่านี้ แล้วหันกลับไปกวาดตาดูเมนูอาหารจีนซีฟู้ดบ้าง
สุรศักดิ์ ตัณฑ์พูนเกียรติ เจ้าของร้านบอกว่า จะพิถีพิถันกับการเลือกซีฟู้ดที่นำมาประกอบอาหาร อย่างอาหารประเภทปลาจะใช้ปลาเป็นๆ จะได้รสชาติของเนื้อที่แน่นและหวานสนิท ส่วนปูที่ร้านมีขนาดใหญ่พิเศษ สำหรับนักกินซีฟู้ดประเภทชอบปูตัวโตๆ อย่าง ปูทะเลจากมหาชัย ปูม้ามาจากทางภาคใต้ของไทย ได้ของดีๆ สดๆ อย่างนี้ ลูกค้าสามารถสั่งให้เชฟในครัวปรุงอะไรมาให้กินก็ได้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นนึ่งซีอิ๊ว ผัดพริกไทยดำ หรือผัดผงกะหรี่ที่ขึ้นชื่อของที่ร้าน ซึ่งผู้เขียนไปชิมมาแล้ว ในวันนั้นเจอปูม้าตัวใหญ่ขนาด 1.2 กิโลกรัม (กิโลกรัมละ 1,350 บาท) ก้ามปูใหญ่เท่าฝ่ามือผู้หญิง ผัดออกมาเต็มจานใหญ่ เนื้อปูแกะออกจากก้ามเป็นเส้นๆ แสดงถึงความสด รสชาติหวานเจี๊ยบ น้ำข้นขลุกขลิกของผงกะหรี่กับไข่หอมอร่อยจนเสียดาย ต้องสั่งข้าวเปล่ามาคลุกกิน เพื่อไม่ให้เสียของ
ส่วนกุ้งของที่นี่ก็ใช้ กุ้งแม่น้ำเป็นๆ ตัวใหญ่ขนาดตัวละ 4-6 ขีด เมนูกุ้งที่ควรสั่งคือ กุ้งย่างแล้วจิ้มกับน้ำจิ้มซีฟู้ด เท่านี้ก็อร่อยแล้ว ที่แนะนำให้ย่าง เพราะจะทำให้สามารถลิ้มลองรสชาติความหวานตามธรรมชาติของกุ้งได้เป็นอย่างดี แล้วถ้าร้านเก่งๆ จะย่างกุ้งให้สุกกำลังดี เนื้อไม่แห้งจนเสียของ และที่สำคัญ มันที่หัวกุ้งต้องสุกกำลังดีเช่นกัน ของร้านนี้เสิร์ฟออกมาต้องรีบใช้ช้อนตักมันกุ้งตรงส่วนหัวเข้าปากก่อน มันกุ้งออกสีส้มปนน้ำตาล ให้รสชาติหวานมันอร่อยเฉพาะตัว อร่อยแบบไม่ง้อน้ำจิ้มเลย
ปลากระพงยัดไส้ (240/420/720) เมนูนี้ควรสั่งมาลิ้มลองเพราะอร่อยมาก เป็นการรังสรรค์ของเชฟที่ใช้ปลากระพงเป็นๆ มาแล่เนื้อเป็นชิ้นๆ แล้วใช้กุ้งสับมาห่อเนื้อปลากระพง ก่อนจะนำไปทอดในน้ำมันร้อนๆ ให้เหลือง ราดด้วยน้ำแดง เสิร์ฟตอนร้อนๆ จะได้กลิ่นหอมของเนื้อกุ้ง กัดลงไปได้รสชาติของเนื้อปลา เทียบไม่ถูกว่าเนื้อกุ้งหรือเนื้อปลากันแน่ ที่หอมอร่อยกว่ากัน
ปลาบู่นึ่งซีอิ๊ว จานนี้อาจดูธรรมดาเหมือนๆ กันทุกร้าน แต่ด้วยประสบการณ์ของเชฟ ที่รู้เทคนิคทั้งการนึ่งปลาให้สุกกำลังดี เพื่อทำให้เนื้อปลาฟูรักษาความอร่อยของเนื้อปลา ประกอบกับได้ซีอิ๊วหมักตามธรรมชาติอย่างดีจากฮ่องกง จะให้กลิ่นหอมช่วยให้เนื้อปลาบู่ทั้งหวานหอมยิ่งขึ้น
เมนูตบท้ายของมื้อนี้ เป็นขนมหวานแบบจีนฮ่องกงคือ วอแป๋ง ดีไลท์ (150 บาท) วอแป๋งเป็นแผ่นแป้งกลมๆ ที่นำมาประกบกันโดยมีไส้อยู่ข้างในแล้วนำไปทอดในน้ำมันติดกระทะเล็กน้อย ทอดแบบใจเย็นๆ จะได้แป้งที่กรอบทั้งแผ่น ปกติไส้ข้างในนิยมใช้พุทราจีนเชื่อมแล้วนำมาบดละเอียด แต่ของร้านนี้ทำเป็นไส้ครีมที่ใส่ในซาลาเปา รสชาติไม่หวานจัดนัก กัดไปแล้วกรุบกรอบหอมอร่อย ต้องกินคู่กับชาจีนร้อนๆ เป็นการล้างความเลี่ยนจากอาหารมื้อหนักด้วย ทำให้มื้ออร่อยนี้จบอย่างแฮปปี้เอนดิ้ง
ข้อดีของร้านนี้อีกอย่างคือสามาารถสั่งอาหารไทยจานอร่อยของร้านบ้านจำนงค์ ซึ่งตั้งอยู่ติด ๆ กัน( เจ้าของเดียวกัน) ซึ่งผู้เขียนติดใจ คือ “กุ้งไข่เต้น” เป็นไข่ตุ๋นเนื้อนุ่มเนียนใส่กุ้นสดด้วย ที่พิเศษคือราดด้วยน้ำยำรสจัดจ้าน ทีเดียว
ร้าน Delight Kitchen เปิดบริการตั้งแต่ 11.30-2.00น. และ 17.00-23.00น. วันอาทิตย์เปิดทั้งวัน โทร. 0-2631-8800
ชิมโดย : ปราณ ชีวิน
ภาพโดย : ศิวกร เสนสอน
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
Comments are closed.