ใคร ๆ ก็คงเคยลิ้มลองปูอบวุ้นเส้น กุ้งอบวุ้นเส้นกันมาจบเบื่อแล้ว วันนี้เลยขอพาไปเปลี่ยนบรรยากาศแบบเริดหรูกับ เมนูล็อบสเตอร์อบวุ้นเส้น หรือถ้ายังอลังการไม่พอจะเปลี่ยนเป็นปูอลาสก้าอบวุ้นเส้นมาลิ้มลองก็ยังได้
เนื่องจากคุณวินัย ตั้งศิริวาณิช เจ้าของร้าน “ ภ.คิทเช่น” เป็นทั้งนักชิมและพ่อครัว ส่วนอาหารที่ชอบรับประทานเป็นชีวิตจิตใจคือ” อบวุ้นเส้น” เจ้าไหนว่าอร่อยต้องดั้นด้นไปชิมให้หายสงสัย ชิมมาสิบกว่าปี แล้วก็ซุ่มค้นคว้าหาเคล็ดลับความอร่อยของเมนูอบวุ้นอีก 3 ปี จนที่สุดฝึกเคล็ดวิชาได้สำเร็จจึงเปิดร้านนี้ขึ้นมาโดยกล้าประกาศจุดเด่นของร้านชัดเจนคือ “ ที่สุดของอบวุ้นเส้น”
แถมที่ร้านนี้ยังสั่งของทะเลสด ๆ เป็น ๆ จากทั่วโลกมาเอาใจคนรักซีฟู้ดอีกด้วย อาทิ ปูอลาสก้า กุ้งลอบสเตอร์ ปลาเทอร์บอท กั้ง ฯลฯ.
เมนูที่มากินร้านนี้แล้วต้องสั่งคือ “อบวุ้นเส้น” เริ่มต้นที่กุ้งลายเสืออบวุ้นเส้น ราคา 480 บาท แต่ถ้าอยากสัมผัสคำว่าที่สุดของอบวุ้นเส้น ต้องสั่ง “บอสตันลอบสเตอร์อบวุ้นเส้น” ไปเลยราคาหม้อละ 1,200 บาท แค่เชฟยกมาออกจากครัวมาเสิร์ฟกลิ่นก็หอมฟุ้งไปทั่วร้านทำเอาลูกค้าทุกโต๊ะต้องเหลียวมองทีเดียว
บอสตันลอบสเตอร์อบวุ้นเส้นอลังการสมราคาเพราะสับเป็นชิ้น ๆ มาเต็มหม้ออบ ตักวุ้นเส้นเข้าปาก อึ่ม!!รับรู้ถึงความเหนียวนุ่มชุ่มน้ำซอสกลิ่นหอมรสชาติดีมากบอกได้เลยว่าน้ำซอสครบเครื่องกว่าร้านทั่ว ๆ ไป ส่วนกุ้งลอบสเตอร์เนื้อเหนียวแน่นเนื้อหวานเจี๊ยบ กินแล้วน้ำตาจิไหล!!! ไม่ต้องจิ้มอะไรก็อร่อย แต่ถ้ากลัวเลี่ยนก็มีน้ำจิ้มซีฟู้ดรสแซบเว่อร์เป็นตัวช่วยเพิ่มความแซบขึ้นอีก ที่สุดของกุ้งลอบสเตอร์อยู่ที่ก้ามที่ใหญ่ยักษ์เท่าก้ามปู แต่เนื้อละเอียดและหวานกว่าก้ามปูมาก ไม่เชื่อท้าให้มาพิสูจน์ได้
ปลาบู่นึ่งซีอิ้ว ทีเด็ดอยู่ที่น้ำปรุงซีอิ้วที่นำมาราดบนตัวปลา ซึ่งเป็นสูตรเด็ดเคล็ดลับที่ร้านนี้ภูมิใจนำเสนอเช่นกัน ให้กลิ่นรสของซีอิ้วที่หอมมาก ๆ ส่วนปลาบู่ซึ่งถือเป็นราชาของปลาน้ำจืดนั้น เลือกปลาบู่ตัวโตเป็น ๆ มาทอดไฟแรง ๆ ให้เนื้อข้างนอกฟูกรอบ แล้วค่อยลดไฟลง จากนั้นจึงนำมาราดซีอิ้วแล้วนึ่งบนลังถึงให้ไอน้ำร้อนจัด การทอดก่อนจะช่วยเก็บความหวานของเนื้อปลาอยู่ข้างใน เมื่อมาเจอกับซีอิ้วหอม ๆ กุยฉ่ายขาว คึ่นไฉ่ พริกสด ยิ่งอร่อยเข้าไปอีกหลายสเต็บ
อีกไฮไลต์คือ ปูอลาสก้า เป็น ๆ ซึ่งสามารถนำไปได้หลายเมนู อาทิ นึ่ง ,อบวุ้นเส้น หรือผัดพริกเกลือ ( กิโลกรัมละ4,500 บาท ตัวหนึ่งน้ำหนักประมาณ 2.6 กิโลกรัม) แต่ขอแนะนำให้กินแบบนึ่งดีที่สุด ปกติทั่ว ๆ จะมีแต่นำเข้าปูอลาสก้าที่นึ่งแล้วแช่เย็นจากเมืองนอก รสชาติเนื้อปูจึงจืด ๆ แต่ปูอลาสก้าเป็น ๆ เนื้อหวานเจี๊ยบสมราคาจริง ๆ จึงเชียร์ให้กินแบบไม่ต้องปรุงแต่งเพื่อดื่มด่ำกับความหวานของเนื้อปูราคาแพง
ข้าวผัดปู (200.-/800.-) คอนเฟิร์มว่าเป็นข้าวผัดปูของแท้ เพราะใส่กรรเชียงปูเนื้อเป็นก้อน ๆ ขาวจี๊วะน่าเจี๊ยะมาก ใครที่แพ้ปูคือเห็นแล้วน้ำลายสอห้ามพลาดเด็ดขาด
ของทานเล่นซึ่งเป็นไฮไลต์ของร้านนี้คือ “ยำมะม่วงเบา” ( 150บาท) มะม่วงเบาก็มาไกลถึงสงขลาเลย รสชาติไม่เปรี๊ยวจี๊ดเหมือนสามฤดู มีกลิ่นหอม นำมาสับเป็นเส้น ๆ คลุกเคล้ากับ มะพร้าวคั่ว หอมเจียว กุ้งแห้งป่น ใส่น้ำปรุง 3 รสเปรี้ยวหวานเค็ม เคี้ยวแบบเพลิน ๆ ระหว่างรอาหารจานใหญ่มา
หมูทอดน้ำปลา ( 250บาท) ความพิเศษอยู่ที่หมูทอดแล้วยังนุ่มเคี้ยวสบายเพราะเลือกใช้ตรงส่วนสันคอ ใส่น้ำปรุงลงไปให้หอม กินคู่กับ พริกขี้หนู เม็ด พระเทียมเม็ด หัวหอมซอย เคี้ยวได้เพลิน ๆ ถ้าได้มะนาวอีกสักอย่างก็เหมือนเมี่ยงหมูเลย
ขอแนะนำให้เหลือพื้นที่ในกระเพาะไว้กิน ลูกตาลลอยแก้ว ล้างปากก่อนกลับไปนอนฝันหวาน เป็นลูกตาลลอยแก้วที่ไม่เหมือนใคร เพราะเลือกแต่ลูกเอ๊าะ ๆ จริง ๆ เนื้อนุ่มทุกชิ้น น้ำเชื่อมก็ไม่หวานจนเกินไป กินแบบแช่เย็นเจี๊ยบชื่นใจมาก
อาหารยังมีให้เลือกสั่งอีกมากมายอาทิ ทอดมันกุ้ง ปูผัดพริกขี้หนู ปลากะพงทอดน้ำปลา ต้สยำกุ้ง ปูทะเลหลน ปลาหมึกทอดกระเทียม ปูม้าผัดพริกไทยดำ ฯลฯ. ส่วนสนราคาก็ปกติเหมือนร้านทั่วไป
ตอนนี้ทำโปรโมชั่นพิเศษ “คู่อร่อย..สุดคุ้ม” สั่งกุ้งบอสตันอบวุ้นเส้นกับปลาเก๋าดำนึ่งซีอิ้ว/ปลาเก๋าดำผัดพริกเกลือ ราคา 1,580 บาท จากราคาเต็ม 2,460 บาท
ร้าน ภ.คิทเช่น เปิดบริการทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00 – 22.00 น. วันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 11.00 – 22.00 น. ตั้งอยู่ที่ 3395 ถนนพระราม 9 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กทม 10250 โทร 02-3227211 หรือ http://m.facebook.com/porsumpaokitchen
ภาพโดย พลภัทร วรรณดี
เรื่องโดย :ปราณ ชีวิน
Dining Out
Comments are closed.