Dining Out

ความอร่อยและศิลปะบนจานอาหารระดับฮ่องเต้ที่ร้าน M Krub

Pinterest LinkedIn Tumblr


เชฟแมน – มาน ไว ยิน เป็นเชฟอาหารจีนที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดในขณะนี้ เขาเป็นผู้ที่ทำให้ซาลาเปาไส้ไหลกลายเป็นกระแสฮอตฮิต รวมทั้งเมนูติ่มซำที่ร้านเชฟแมน โรงแรมอีสติน แกรนด์ สาทร ที่มีคิวจองยาวตั้งแต่เปิดร้านใหม่ ๆ
เชฟแมน
มาครั้งนี้เชฟแมนสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการอาหารจีนที่จะก้าวข้ามไปสู่คำว่าความอร่อยและศิลปะที่ลงตัวอยู่ในจานอาหารได้อย่างอัศจรรย์ เพราะเมื่อเอ่ยถึงอาหารจีนใคร ๆ จะคิดถึงงานแกะสลักอลังการที่ประดับลงบนอาหารจานใหญ่ แต่อาหารของร้าน M Krub มีเพียงปลายพู่กันตวัดกลอนภาษาจีนและงาน Sugar Art ที่นำผู้เชี่ยวชาญจากเมืองจีนมาแต่งแต้มให้อาหารกลายเป็นงานอาร์ตที่กินได้อย่างเลอค่า
แม้จะเป็นการรังสรรค์งานที่แปลกใหม่บนจานอาหารจีน แต่กรรมวิธีการทำและรสชาติกลับย้อนยุคกลับไปสู่ความพิถีพิถันเพื่อต้องการดึงรสชาติอันลึกล้ำของเครื่องปรุงเหล่านั้นออกมา อันเป็นหัวใจของการทำอาหารจีนระดับฮ่องเต้

ในบรรดาเครื่องปรุงชั้นนำที่ร้าน M Krub เสาะหามานั้น ล้วนแต่คัดสรรจากแหล่งวัตถุดิบที่มีชื่อของโลก ได้แก่ เนื้อวัวสายพันธุ์วากิวแท้ๆ จากฟาร์มต้นกำเนิดของประเทศญี่ปุ่น ฟัวกราส์ชั้นยอด เห็ดทรัฟเฟิลสีดำ หอยเป๋าฮื้อที่ดีที่สุดจากทะเลประเทศญี่ปุ่น ปลิงทะเล และหูฉลาม นอกจากนั้นยังมีการนำเข้าเครื่องเทศชั้นเยี่ยมจากประเทศจีน และเครื่องปรุงอื่นๆ อาทิสมุนไพรหายาก ผักผลไม้สดๆ ที่ดีที่สุดจากแหล่งต่างๆ เพื่อความอร่อยและคุณภาพของอาหารทุกจาน
อาหารที่นี่เสิร์ฟเป็นSet Menu ไล่ราคาตั้งแต่หัวละ 2,800 – 12,000 บาท(++) แต่ถ้าต้องการสั่งเป็น a la kart มาเพิ่มเติมก็ได้ และคอนเซ็ปต์ของร้านเป็นไพร์เวท ไดนิ่ง คือต้องโทรมาจองโต๊ะทุกครั้งก่อนมากิน เพราะอาหารหลาย ๆ อย่างจะต้องใช้เวลาในการเตรียม 1-2 วันจึงจะได้ความอร่อย เช่น หอยเป๋าฮื้อแห้งที่ต้องใช้เวลาเคี่ยวซอสให้เนื้อนุ่มถึง หนึ่งสัปดาห์

เริ่มอยากลิ้มลองอาหารกันหรือยังคะ มาเริ่มจานแรกเรียกน้ำย่อยกันก่อนดีกว่า เป็นอาหาร 3 อย่าง ๆ ละคำ เริ่มที่เต้าหู้โฮมเมดเนื้อนุ่มละลายในปากทำเป็น 3 สีไล่เป็นชั้น ๆ ด้านบนท็อปด้วยเนื้อปูมายองเนสและปิดด้วยคาร์เวีย , เป็ดห่อข้าวเหนียว และเนื้อปลารมควันที่ให้กลิ่นควันหอมจาง ๆ

หมูไอเบอร์ริโก้ย่างเสิร์ฟพร้อมรวงผึ้ง “หมูไอเบอร์ริโก้” เป็นหมูกีบดำเนื้ออร่อยนิยมนำไปทำเป็นแฮมที่มีชื่อเสียงที่สุด แต่หมูแดงไอเบอร์ริโก้สูตรของเชฟแมนนั้นใช้สันในหมักกับน้ำมันทรัฟเฟิลเพื่อเพิ่มความหอม กินกับรวงผึ้งที่รองอยู่ด้านล่าง และเพิ่มความงดงามด้วย sugar art เป็นรูปรองผึ้งที่ซ่อนวอลนัทเคลือบหวานให้กินคู่กับหมูแดง

หอยเชลล์ผัดเสิร์ฟบนรังนก จานนี้ต้องบอกว่าไม่ธรรมดาเลย เพราะรังนกดูไปคล้ายเส้นหมี่แต่ความจริงคือขนมปังที่นำไปรีดให้แบนแล้วหั่นเป็นเส้นเล็กละเอียดมาก แล้วค่อย ๆ สานให้ขดเป็นรูปรังนกก่อนจะนำไปทอดให้กรอบอร่อยกว่าใช้เส้นหมี่หรือเผือกที่จะตำเหงือกให้หมดอร่อย
สำหรับหอยเชลล์นั้นสดมาก นำไปผัดพอสุกเพื่อรักษาความหวานสดของเนื้อ กินคู่กับซอสมะม่วงให้รสเปรี้ยวเล็กน้อย

เนื้อวากิวย่างมัสตาร์ดครีม ใช้เนื้อวากิวจากจังหวัดคาโกชิมา ประเทศญี่ปุ่น โดยเลือกตรงส่วนริบอายที่มีความมันเล็กน้อยนำมาย่างให้พอสุก เสิร์ฟกับครีมมายองเนสที่มีรสเผ็ดหอมของมัสตาร์ดดิจอง และนำไปย่างเฉพาะด้านบนให้ผิวเป็นสีน้ำตาลทองเพื่อเสริมรสชาติและความสวยงาม

ซุปกะหล่ำน้ำใส ซุปน้ำใสถ้วยนี้มีที่มาไม่ธรรมดาเลย เพราะป็นซุปผักที่ทำถวายฮ่องเต้ราชวงศ์ชิง โดยใช้กะหล่ำปลี 20 กิโลกรัมมานึ่งนานถึง 5 ชั่วโมงเพื่อดึงน้ำผักจากธรรมชาติออกมา ความหวานหอมของซุปถ้วยนี้จึงมาจากสุดยอดของน้ำในผักที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์
ใครที่คิดว่าน้ำผักนั้นมีรสขม ขอให้ลองซดซุปถ้วยนี้แล้วจะเปลี่ยนความคิด เพราะมีแต่ความหอมหวาน และเป็นน้ำสุดยอดผักจึงทิ้งกลิ่นหอมอบอวลไปทั้งปากและลำคอ ที่คนจีนเรียกว่า เช็ง..เช็ง

ข้าวผัดธัญพืชในหม้อดิน จานนี้ส่งเสียงซู่ซ่าและกลิ่นหอมตลบมาตั้งแต่ในครัวเลย เป็นข้าวผัดที่ใช้ข้าว 9 ชนิดและธัญพืช 3 ชนิดซึ่งล้วนแต่บำรุงร่างกายทั้งสิ้น ใส่มาในหม้อเหล็กที่ร้อนจัด โดยเชฟต้องการให้คนกินสนุกสนานกับการปรุงรสชาติข้าวผัดเอง ด้วยเครื่องปรุงถ้วยเล็ก ๆ อาทิ ซอสXO ซอสหอยเป๋าฮื้อ กระเทียมเจียว แฮมทอดกรอบ เมื่อปรุงเสร็จจะได้ข้าวผัดทรงเครื่องที่เคี้ยวแล้วจะหอมหวานอร่อย

เต้าหู้หวานน้ำอัลมอนด์ เป็นศิลปะการทำเต้าหูเป็นดอกเบญจมาศได้สวยงาม เห็นแล้วต้องอึ้ง ทึ่งและอร่อย เชฟที่ทำเมนูนี้ได้ต้องชำนาญในการใช้ปังปอและมีชั่วโมงบินไม่ต่ำกว่า 10 ปี โดยใช้มีดตัดเต้าหู้นิ่มในน้ำแล้วจัดเป็นดอกไม้ ใส่ในน้ำอัลมอนด์ ซดแล้วอร่อยชื่นใจ

แล้วก็มาถึงจานขนมหวานที่หักมุมเป็นขนมหวานฝรั่งเศสในชื่อ เลมอนทาร์ตและเมอแรงค์ชาเขียว โดยใช้ศิลปะการปรุงขนมชั้นสูงของจีนและฝรั่งเศสได้มารวมกันอย่างลงตัวในจานนี้ คือเชฟจีนปั้นน้ำตาลเป็นรูปมะนาวเหลือง ข้างในใส่ด้วยบิสกิตกรอบซึ่งมีกลิ่นรสของตะวันออก แต่เข้ากันกับรสเปรี้ยวของเนื้อครีมมะนาว ความกรุบกรอบของเมอแรงค์รสชาเขียวได้อย่างลงตัว
ร้านM Krub เปิดบริการทั้งมื้อกลางวันและมื้อเย็น ตั้งอยู่ที่ ชั้น 2 อาคารมหานครคิวบ์เลขที่ 96 ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ สถานี BTS ช่องนนทรีย์ ทางออกที่ 3 โทร.02-019-8105

ชิมโดย: ปราณ ชีวิน
ภาพโดย : ศิวกร เสนสอน

Comments are closed.

Pin It