>>ชมโฉมใหม่ “Eathai” (อีทไทย) ที่สุดแห่งอาณาจักรอาหารไทยที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ซึ่งมีให้เลือกสรรกันอย่างครบครันในสไตล์การตกแต่งแบบร่วมสมัยแสนคลาสสิก ที่มีให้เลือกอิ่มเอมทั้งสตรีทฟู้ด เมนูเด็ดจากร้านดังทั่วประเทศ ไปจนถึงการเลือกชอปร้านขายของสไตล์ดั้งเดิม ทั้งอาหารสด อาหารแห้ง ไปจนถึงหนังสือ และยา
บนพื้นที่กว่า 3 พันตารางเมตรในชั้น LG ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี คือที่ตั้งของ ‘Eathai’ (อีทไทย) ในรูปโฉมใหม่ ที่ตกแต่งในสไตล์ร่วมสมัย ให้ความรู้สึกแบบไทยๆ แสนคลาสสิก ทั้งได้ใจนักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสความเป็นไทย รวมไปถึงถูกใจคนไทยด้วยกันที่หวนหาความเก๋ไก๋แบบย้อนอดีต
โดยภายในพื้นที่ของ Eathai แบ่งออกเป็น 13 โซน ทั้งส่วนของร้านอาหาร ซึ่งมีทั้งร้านยอดนิยมเจ้าดัง ไปจนถึงสตรีทฟู้ด สารพัดอาหารขึ้นชื่ออันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองไทย ไปจนถึงสตูดิโอสอนทำอาหารไทย มีส่วนของตลาดขายของแบบไทยๆ ที่ครบถ้วนทุกผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ข้าว ไปจนถึงหนังสือ และยารักษาโรค เรียกได้ว่าสามารถรองรับไลฟ์สไตล์นักชิมและคนรักอาหารไทยทั้งชาวไทยและต่างชาติ ให้ได้สัมผัสประสบการณ์ความอร่อยและการชอปปิ้งในที่เดียวด้วยความประทับใจ ภายใต้สโลแกนว่า ‘กลั่นทุกรสชาติและทุกวิถีไทยเอาไว้ในที่เดียว’
โซนแรก ครัวสี่ภาค (Krua 4 Pak)
ครัวสี่ภาค เป็นเหมือนปิ่นโตเถาใหญ่ที่รวมเอาร้านอร่อยจากทั่วทุกภาคของไทยมาไว้ในปิ่นโตใบนี้ ไม่ว่าจะเป็น ครัวภาคกลาง โดย สุวคนธ์, สุกี้โบราณ เอี้ยวฮั้ว ครัวภาคเหนือ โดย ครัวสะบันงา ครัวอีสาน โดย Esan Kitchen (อีสาน คิทเช่น) ครัวอาหารฮาลาล และอาหารภาคใต้ โดย Makan Halal รวมถึงอาหารมังสวิรัติ โดย คุณเชิญ อาหารทะเล โดย The Cape by Laem Cha-Roen Seafood (แหลมเจริญซีฟู้ด) และครัวชาววัง ต้นตำรับอาหารชาววัง สูตรหม่อมหลวงเนื่อง นิลรัตน์ ทุกร้านในครัวสี่ภาคล้วนแต่สะท้อนถึงวัฒนธรรมการรับประทานอาหารของคนไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
โซนที่สอง สตรีทฟู้ด (Street Food)
โซนสตรีทฟู้ดยกเอาบรรยากาศติดดินและเป็นกันเองของอาหารริมทางของไทยมาพร้อมกับเมนูอร่อยที่มีทั้งอาหารจานเดียวและของกินเล่น อาทิ หมูสะเต๊ะ หมูปิ้ง หอยทอด ผัดไทยเสวย ก๋วยเตี๋ยวกั้งบ้านเพ ข้าวมันไก่ประตูน้ำ เย็นตาโฟนายอ้วน และเมนูอื่นๆ ที่จะทำให้เข้าใจถึงเสน่ห์ของสตรีทฟู้ดของไทย
โซนที่สาม ลิตเติล ไชน่าทาวน์ (Little Chinatown)
ลิตเติลไชน่าทาวน์ โดยร้านแสนยอด โซนใหม่ซึ่งอยู่ภายใต้ครัวสี่ภาค นำเสนออาหารสไตล์ลูกครึ่ง ไทย-จีน ที่มาพร้อมเมนูอย่างราดหน้าปลาเต้าซี่ หมี่ซั่ว ข้าวผัดเสฉวน ราดหน้าคะน้าฮ่องกง ข้าวหน้าเป็ดย่าง หมูแดง หมูกรอบ ข้าวขาหมู เป็นต้น ภายใต้กลิ่นอายของย่านเยาวราชที่มีชีวิตชีวาด้วยป้ายไฟจำนวนมาก เสมือนยกเอาเยาวราชขนาดย่อมมาไว้ที่นี่
โซนที่สี่ บ้านขนมไทย (Baan Kanom Thai )
บ้านขนมไทยรวมรวมขนมไทยรสชาติดั้งเดิมไว้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นขนมน้ำกะทิ ของเชื่อม และข้าวเหนียวหน้าต่างๆ โดยมีแรงบันดาลใจมาจากถาดทองเหลืองขนาดใหญ่ที่ไว้ใส่ขนมไทย
โซนที่ห้า หวานเย็น (Wan Yen)
ดับร้อนด้วยซุ้มขายของหวานเย็น ชื่นใจ อย่างไอศกรีมมะพร้าว หรือไอศกรีมมะม่วง ที่สามารถเลือกท็อปปิ้งเพิ่มรสชาติได้ เพิ่มดีกรีความหวานเย็นให้เข้มข้นยิ่งขึ้นด้วยลอดช่องวัดเจษฯ เต้าทึง น้ำแข็งไส เฉาก๊วย ฯลฯ
โซนที่หก มุมอร่อย (Moom Aroi)
โซนมุมอร่อยคัดสรรอาหารไทยเจ้าอร่อยจากทุกสารทิศมารวมไว้ที่นี่ หมุนเวียนเปลี่ยนเมนูทุก 2 สัปดาห์ แรงบันดาลใจในการออกแบบโซนนี้มาจากป้ายสัญลักษณ์การรับประกันรสชาติความอร่อยที่เราคุ้นตาตามร้านเจ้าเด็ดเจ้าดังทั่วไทย เกิดเป็นธีมอีทไทยชวนชิมที่อยากให้ทุกคนได้แวะมา
โซนที่เจ็ด ตลาดอีทไทย (Talad Eathai)
ตลาดอีทไทยรวบรวมผลิตภัณฑ์อาหารทั้งของแห้ง ของสด และของใช้ในครัวเรือน เช่น ผลไม้สดทั้งนำเข้าและท้องถิ่น, สลัดบาร์, ผักออแกนิก, เนื้อสัตว์ รวมถึงขนมไทยของฝากสำหรับนักท่องเที่ยว การตกแต่งที่ชวนให้นึกถึงบรรยากาศคึกคักของตลาดอีทไทยได้รับแรงบันดาลใจมาจากการดึงองค์ประกอบเล็กๆ น้อยๆ ต่างๆในตลาด อย่างเช่นกระจาดหวายหรือเพิงสังกะสี มาถ่ายทอดเป็นสัญลักษณ์ที่ชวนให้คนนึกถึงตลาดแบบไทยๆ
โซนที่แปด โกรเซอรี่ สี่ภาค (Grocery 4 Pak)
จุใจกับโซนใหม่ของอีทไทยที่มีครบทั้งผลิตภัณฑ์อาหารแห้ง เครื่องปรุง, เครื่องแกง, เครื่องเทศพร้อมปรุง สำหรับอาหารทั้งสี่ภาค ในคอนเซ็ปต์ร้านขายของชำที่คุ้นเคยในวัยเด็กที่มีของให้เลือกอย่างครบครันในบรรยากาศเป็นกันเอง
โซนที่เก้า อีท ไทย ไรซ์ (Eat Thai Rice)
อีกหนึ่งโซนใหม่ที่รวบรวมข้าวสารไว้มากถึง 23 สายพันธุ์ ทั้งหมดเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่น OTOP จากทุกภาค อาทิ ข้าวไรซ์เบอร์รี ข้าวกล้องหอมนิล ข้าวลืมผัว ฯลฯ สีสันอีกอย่างของโซนนี้อยู่ตรงที่คอนเซ็ปต์ทุ่งข้าวกับหุ่นไล่กาที่ทำให้รู้สึกเหมือนยกทุ่งนามาไว้ที่ อีท ไทย ไรซ์ ให้เลือกเก็บเกี่ยวกันในที่เดียว
โซนที่สิบ ไทยคุกบุ๊ก & ซูวีเนียร์สโตร์ (Thai Cookbook & Souvenir Store)
ร้านจำหน่ายตำราอาหารไทย หนังสือทำอาหาร และของที่ระลึกจากอีทไทย เช่น กระเป๋าผ้า จานกระเบื้องจานสังกะสีเคลือบ โปสการ์ด ฯลฯ เพราะที่นี่คือร้านหนังสือ การออกแบบโซนนี้จึงได้แรงบันดาลใจโดยตรงจากหนังสือนั่นเอง
โซนที่สิบเอ็ด อีทไทย คาเฟ่ (Eathai Café)
all day dining ที่มีครบทั้งเมนูอาหารเช้า ของกินเล่น อาหารจานเดียว กับข้าว ของหวาน และเครื่องดื่มที่รวมถึงกาแฟโบราณ เพราะรวมเอาเมนูยอดนิยมในอีทไทยมาไว้ในที่เดียวกัน เพียงแค่ก้าวเข้ามาในโซนนี้ก็จะสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายความเป็นกันเองของร้านกาแฟสมัยโบราณด้วยการออกแบบที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการนำประตูโครงเหล็กร้านคาเฟ่โบราณมาเป็นกิมมิก
โซนที่สิบสอง เวชพงศ์โอสถ (Vejpong Pharmacy)
เวชพงศ์โอสถ เป็นร้านขายยาชื่อดังย่านเยาวราช ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสมุนไพร, ยาสมุนไพรไทย และสมุนไพรจีนแผนโบราณ ที่มีประวัติมายาวนานกว่า 100 ปี เคียงคู่มากับประวัติของเยาวราช สิ่งที่เวชพงศ์โอสถนำมาที่อีทไทยไม่ได้มีเพียงแต่สมุนไพรและผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความตั้งใจที่จะพัฒนาสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้บริโภคด้วย
โซนที่สิบสาม อิษยา คุกกิ้ง สตูดิโอ (Issaya Cooking Studio)
สตูดิโอสอนทำอาหาร โดย “เชฟเอียน กิตติชัย” หรือ พงษ์ธวัช เฉลิมกิตติชัย และทีมงาน มีทั้งคลาสสอนทำเมนูอาหารไทยแบบดั้งเดิม อาหารไทยเมนูง่ายๆ, อาหารนานาชาติ, เพสทรี (Pastry) รวมไปถึงคลาสสอนทำเครื่องดื่มและคลาสสอนทำอาหารสำหรับเชฟตัวน้อย :: Text by FLASH
Comments are closed.