ART EYE VIEW—วาระที่ โรงแรมมาดูซิ กรุงเทพฯ (Maduzi Hotel Bangkok )เชื้อเชิญ คนดังและหลายแกลเลอรี่ มาร่วมแปลงโฉมห้องพักจำนวน 12 ห้องของโรงแรมฯ ให้เต็มไปด้วยงานศิลปะเพื่อให้คนทั่วไปได้มีโอกาสเข้าไปชม ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ที่ผ่านมา
ดร.ดิสพล จันศิริ เป็นหนึ่งในจำนวนผู้ที่ถูกเชื้อเชิญ ให้มาร่วมกิจกรรมสนุกๆ ครั้งนี้ด้วย
นอกจากห้องพัก 1 ห้องที่ได้รับมอบหมาย จะถูกแปลงเป็นห้องนั่งเล่นสไตล์โมเดิร์น ด้วยเฟอร์นิเจอร์แบรนด์ที่เข้ากัน ยังถูกตกแต่งด้วยงานศิลปะสะสมส่วนตัวของ ดร.ดิสพล จำนวนหลายชิ้น ซึ่งมีแหล่งที่มาแตกต่างกัน
“ผมอยากจะเปลี่ยนห้องนี้ให้เป็นเหมือนกับห้องนั่งเล่นที่ไม่ใหญ่มาก สำหรับคนอายุ สัก 30- 35 ปี อยากให้ดูโมเดิร์นหน่อย ผมก็เลยเลือกเฟอนิเจอร์จากร้านโมทีฟที่ค่อนข้างเข้ากันได้ดี
และห้องนี้น่าจะเป็นห้องของผู้ชายแมนๆชอบขับรถ เริ่มทำงานมาได้สัก 5-10 ปี เริ่มมีเงินสะสม กำลังซื้อคอนโดฯ ซื้อบ้านหลังแรก และเป็นคนใช้ชีวิตในเมือง
ส่วนงานศิลปะที่เลือกมาตกแต่ง ผมเลือกมาหลายคนเลย อยากได้งานที่ดูเซ็กซี่นิดนึงมาตกแต่ง ก็เลยเลือกงานของคนนี้ เป็นศิลปินรัสเซียคนหนึ่งที่มีชื่อเสียงมากๆในช่วงอายุของเขา วาดงานที่ไม่เชิงว่าเรียกร้องสิทธิสตรีนะครับ แต่งานที่เขาวาดจะมีความเซ็กซี่
ส่วนชิ้นนั้นเป็นงานของศิลปินเยอรมัน คนนี้ผมเจอตั้งแต่เขายังเป็นนักเรียนอยู่ นอกนั้นก็เป็นผลงานของศิลปินอีกหลายคนมากเลย พยายามเลือกงานของศิลปินที่คนไทยไม่ค่อยมีโอกาสได้เห็น”
>>>DC Collection ศิลปะไม่ควรเก็บไว้ดูคนเดียว
“ศิลปะ” ไม่ใช่โจทย์ชั่วครั้งชั่วคราว ที่ได้รับมาเพื่อสร้างสีสันให้กับงานอีเว้นท์บางงานเท่านั้น
เพราะนอกจากจะเป็นอาจารย์หัวหน้าภาควิชากฎหมายภาษี มหาวิทยาลัยอัชสัมชัญ ดร.ดิสพล ยังเป็นนักสะสมงานศิลปะคนหนึ่งเมืองไทย ที่มีผลงานของศิลปินไทยและต่างชาติเก็บสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก
จนสามารถเปิดบ้านพักที่จังหวัดเชียงใหม่ บนถนนมณีนพรัตน์ ประตูช้างเผือก และคอนโดฯ ที่สุขุมวิท ให้คนภายนอกสามารถเข้าเยี่ยมชมงานศิลปะภายใต้ DC Collection (DC ย่อมาจาก ดิสพล จันศิริ)
ทว่าระหว่างนี้คอลเลกชั่นที่กรุงเทพฯ ปิดปรับปรุงชั่วคราว เนื่องจากงานบางชิ้นถูกหยิบยืมไปจัดแสดงที่สิงคโปร์
ขณะที่เชียงใหม่ ถ้าใครติดต่อเข้าเยี่ยมชมระหว่างนี้ จะได้ชมผลงานของศิลปินไทยและต่างชาติหลากหลายคน ภายใต้นิทรรศการ High Lights Series1 อาทิ มณเฑียร บุญมา,อารยา ราษฎร์จำเริญสุข,ฤกษ์ฤทธิ์ ตีระวนิช,นาวิน ลาวัลชัยกุล, High Lights Series แอนดี วอร์ฮอล,ดาเมียน เฮิร์สท์,โจเซฟ บอยส์,โยชิโทโมะ นารา,แนน โกลดิน,เจฟ คูน, แมน เรย์,ซินดี เชอร์แมน, กิกิ สมิธ, ฮวง ยาน และโทมัส สตรทซ์ ที่มอบหมายให้ กฤติยา กาวีวงค์ ทำหน้าที่ภัณฑารักษ์
“เปิดให้คนภายนอกเข้ามาชมได้ แต่ต้องติดต่อมา ไม่ได้เป็นแกลเลอรี่ขายของนะครับ เพราะเป็นงานศิลปะที่เราสะสมไว้เองทุกชิ้น เวลามีอาจารย์พานักศึกษามาชม เราจะแฮปปี้มาก เหมือนว่าเราไม่ได้เก็บไว้ดูคนเดียว
สำหรับผม งานศิลปะเราไม่ควรเก็บไว้ดูคนเดียว ควรจะเปิดโอกาสให้คนอื่นได้เรียนรู้ด้วย เพราะอาชีพหนึ่งของผมคือการเป็นอาจารย์ ดังนั้นศิลปวัฒนธรรมเป็นเหมือนการศึกษาอย่างหนึ่ง ที่จะทำให้นักเรียน นักศึกษาได้มีความรู้ เห็นภาพชีวิตและสังคมได้กว้างขึ้น”
>>>ศิลปะที่ครอบครอง สะท้อนแต่ช่วงเวลาของชีวิต
หากมองดูภาพรวมของงานศิลปะที่สะสมมาทั้งหมด ดร.ดิสพล มองว่า ตนเองชอบงานในแนว Concepttual Art มากเป็นพิเศษ
อย่างไรก็ตาม งานศิลปะที่สะสมมาไม่ว่าจะแนวไหน เจ้าตัวรักมันเท่ากันทุกชิ้น เพราะเป็นเสมือนสิ่งที่สะท้อนว่า ชีวิตในช่วงเวลาหนึ่งเป็นอย่างไรและผูกพันอยู่กับสิ่งไหน
“เพียงแต่ว่าบางช่วงอาจจะชอบคนนี้มากเป็นพิเศษ สิ่งที่ผมสะสมมันสะท้อนชีวิตบางช่วง ว่าผมชอบอะไร ผมอยู่ที่ไหน ผมทำอะไร งานศิลปะแต่ละชิ้นจะบอกได้เลย และเพราะอะไรผมถึงซื้องานศิลปะชิ้นนั้น”
ตัวอย่างเช่นเหตุผลของการซื้อผลงานชิ้นแรกมาครอบครองเมื่อครั้งศึกษาคณะนิติศาสตร์ จุฬาฯ ก่อนจะไปเรียนต่อปริญญาโทและเอก ด้านกฎหมายหมายและการฑูต ที่ประเทศอังกฤษและสหรัฐอเมริกา
“ตอนนั้นผมเดินทางไปสเปนกับครอบครัว จำได้เลยว่า ผมซื้องานของ Antonio Saura เป็นศิลปินร่วมสมัยชาวสเปนซึ่งเสียชีวิตไปเมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง ตอนนั้นผมยังไม่รู้จักศิลปินท่านนี้นะครับ แต่เวลาผมไปมิวเซียม หรือไปที่ไหนก็จะเห็นงาน แล้วรู้สึกชอบ ผมซื้องานของเขาภาพเล็กๆเพราะตอนนั้นผมยังเป็นนักศึกษาอยู่เลย ผมก็เอา พ็อคเก็ต มันนี่ ที่ได้ ซื้อภาพเล็กๆมาหนึ่งภาพ เป็นภาพขาวดำที่วาดในสไตล์ของ Saura เหมือนเป็นภาพผู้ชาย 3 คน เพราะผมมีพี่น้องผู้ชาย 3 คน ภาพนั้นจึงเป็นเสมือนตัวแทนของครอบครัวผม”
จากนั้นเจ้าตัวก็เริ่มสะสมมาเรื่อยๆ โดยเน้นสะสมที่ความชอบเป็นหลัก ทั้งผลงานของศิลปินต่างชาติและศิลปินไทย
“ผลงานของศิลปินไทยที่เป็นงานของบรรดาศิลปินอาจารย์รุ่นใหญ่ๆ ที่นักสะสมท่านอื่นๆชอบ เมื่อก่อนผมก็สะสม แต่ตอนนี้ผมหันมาชอบงานของศิลปินรุ่นใหม่มากกว่า เพราะผมอยากเห็นศิลปินโตไปกับเรา เห็นงานพัฒนาไปเรื่อยๆ
สำหรับผมการซื้องานศิลปะแต่ละครั้ง ผมชอบตรงที่เราได้งานศิลปะด้วย แล้วมันก็เป็นประโยชน์ ได้สนับสนุนศิลปินไปด้วยส่วนหนึ่ง
โดยเฉพาะศิลปินไทย ต้องช่วยกันสนับสนุน ผมจะดีใจมากเลย เวลาที่ต่างประเทศ ยืมงานศิลปะที่ผมมีไปโชว์ เพราะว่ามันทำให้คนต่างชาติได้ดูงานศิลปะคนไทยในต่างประเทศ เป็นการเผยแพร่”
เช่นเดียวกันเวลาที่ถูกเชิญให้ไปร่วมงานเปิดนิทรรศการศิลปะของศิลปิน ถือเป็นเรื่องที่ ดร.ดิสพล เต็มใจเป็นอย่างมาก แม้จะไม่ได้ไปช่วยซื้องาน แต่อย่างน้อยถือว่าไปให้กำลังใจ
“ใครก็ตามที่มีศิลปินเชิญไปงาน ขอให้ไปเถอะ จะซื้อหรือไม่ เป็นเรื่องย่อยแล้ว เพราะงานศิลปะ ถ้ามีคนไปให้กำลังใจ ศิลปินดีใจที่สุดแล้ว”
>>>นักให้คำปรึกษาด้านศิลปะครบวงจร
ด้วยเหตุที่เป็นผู้มีรสนิยมที่ดี รู้ช่องทางในการเลือกหาชิ้นงานศิลปะที่น่าสนใจมาครอบครอง ทำให้บ่อยครั้ง ถูกไหว้วานจากเพื่อนและคนสนิท
จนเมื่อไม่นานมานี้ ดร.ดิสพล ได้เกิดแรงบันดาลใจเปิด DCA Art Consultant บริษัทให้คำปรึกษาทางด้านศิลปะ โดยมีออฟฟิศอยู่ที่ โรงแรม St.Regis ถ.ราชดำริ
“นอกจากเป็นอาจารย์ มีบริษัทอสังหาริมทรัพย์เป็นของตัวเอง งานนี้ก็คืออีกสิ่งที่ผมเพิ่งเริ่มต้นทำ จุดเริ่มต้นคือ เพื่อนชอบให้เราไปช่วยซื้อช่วยดูงานศิลปะให้ หรือให้เราช่วยทำบ้าน ทำอะไรต่ออะไร จนในที่สุดทุกคนก็สนับสนุนอยากให้ลองเปิด
เพราะเวลาที่บางคนจะทำบ้าน ทำโรงแรม จะมีความต้องการที่จะได้งานศิลปะเข้าไปประดับตกแต่งสถานที่ใช่ไหมครับ
หรือบางคนที่เป็นนักสะสมงานศิลปะอยู่แล้ว และอยากให้เราไปช่วยทำให้คอลเลกชั่นของเขาดีขึ้น หรือบางคนอยากได้แบบนั้นแบบนี้ ชอบแบบนั้นแบบนี้ เราก็จะช่วยหาของ ทำทุกอย่าง
ผมคุยกับเพื่อนๆ คิดว่าเป็นอะไรที่น่าสนใจ เพราะตอนนี้คนไทยสะสมงานศิลปะมากขึ้น เมื่อก่อนคนไทยอาจจะไม่คิดถึงเรื่องการลงทุนเยอะ แต่ต่างชาติเขาสนใจ บางคนสะสมงานศิลปะเพื่อเป็นการลงทุน แม้แต่ในบริษัทใหญ่ๆ ไม่ว่าจะเป็นธนาคาร ที่เมืองนอกเขาจะมีการลงทุนทางด้านนี้ของเขาเองด้วย หรือแม้แต่ที่เมืองไทยถ้าดูในประวัติศาสตร์ หลายธนาคารของบ้านเราจะมีงานศิลปะสะสมอยู่
ผมจึงคิดว่าเราน่าจะช่วยเป็นแนวทางให้กับพวกเขาได้ อย่างเมื่อตอนเป็นนักศึกษา ผมก็ชอบสะสมงานศิลปะ แต่ต้องติดตามหาข้อมูลเอง ค้นคว้าเอง ดังนั้นงานที่ผมทำอยู่ตอนนี้ จะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยทางลัด ให้กับหลายๆคน เพราะผมมีทีมที่ดีมาก”
ไม่ว่าจะอย่างไร ดร.ดิสพล สนับสนุนให้ทุกคนที่มาขอคำปรึกษา ซื้องานศิลปะเพราะความชอบเป็นอันดับหนึ่ง ด้วยเหตุผลที่ ไม่ว่างานศิลปะชิ้นที่คุณครอบครองอยู่ จะมีราคาขึ้นและลงจนน่าใจหายแค่ไหนในท้องตลาด อย่างน้อยๆมันจะยังอยู่สูงได้ในหัวใจคุณ
“ผมไม่อยากทุกคนคิดว่าซื้องานศิลปะเพื่อการลงทุนอย่างเดียว เพราะเมื่อไหร่ที่คุณคิดอย่างนั้นเนี่ย เกิดวันไหนงานที่คุณเลือก หรือมีคนเลือกให้ เกิดราคาลง ราคาไม่ขึ้น คุณก็อาจจะไม่แฮปปี้
แต่ว่าเมื่อไหร่ที่คุณซื้องานเพราะความชอบด้วย มีการทำการบ้านที่ดี ต่อให้ราคา มันขึ้นไปเรื่อยๆ หรือลงไปไม่มาก ไม่อยากจะขาย คุณก็ยังแฮปปี้ อยู่กับมันได้ ดังนั้น ผมคิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุด คุณต้องชอบ”
ส่งข่าวสารงานศิลปะร่วมสมัย มาได้ที่ ข่าว ART EYE VIEW เซกชัน Celeb Online www.astvmanager.com และ M-Art eye view เซกชัน Lite ในหนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ Email: thinksea@hotmail.com
และคลิกเป็น แฟนเพจ ได้ที่ http://www.facebook.com/arteyeviewnews
Comments are closed.