Art Eye View

“The Puppet & My Mind Records” งานแสดงเดี่ยวครั้งแรกของ “พิทักษ์พงษ์ เจียมศรีพงษ์” ผ่าน ‘Mari’ และคาแรคเตอร์สุดน่ารัก

Pinterest LinkedIn Tumblr


ศิลปะเป็นเสมือนเครื่องมือของการทำความเข้าใจเรื่องราวความรู้สึกนึกคิด และการแสดงพฤติกรรมของมนุษย์ เซ็นทรัล: ดิ ออริจินัล สโตร์ (Central: The Original Store) บนถนนเจริญกรุง เชิญทุกคนมาร่วมสำรวจความคิด และอารมณ์ภายในใจ ที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการแสดงออก ในมุมที่เราอาจไม่เคยสังเกตตัวเองมาก่อน กับนิทรรศการภาพวาด ชุด “The Puppet & My Mind Records” งานแสดงเดี่ยวครั้งแรกของ พิทักษ์พงษ์ เจียมศรีพงษ์ หรือที่รู้จักกันในนามว่า PEX จิตรกรร่วมสมัยชั้นนำของไทย และเจ้าของภาพวาดตัวการ์ตูนที่สุดแสนจะน่ารัก ‘Mari’ ด้วยการนำเสนอผลงานจิตรกรรมการวาดภาพเชิงอุปมาอุปไมย ซึ่งจะสะท้อนภาพของกระบวนการความคิดอันซับซ้อนของผู้คน ผ่านคาแรคเตอร์โดดเด่นของ Mari รวมถึงคาแรคเตอร์อื่นๆ อีกหลากหลายรูปแบบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ได้ถูกกลั่นกรองมาจากอารมณ์และความรู้สึกต่างๆ ผสมผสานเรื่องราวความคิดในมุมมองของศิลปิน ชวนให้ผู้ชมงานได้ฉุกคิด วิเคราะห์ ตีความเรื่องราว แล้วหาข้อสรุปของตัวเองว่า ตัวฉันเป็นแบบไหน? รวมทั้งยังมีภาพสเก็ต และประติมากรรมลิมิเต็ดอิดิชั่น ที่สร้างสรรค์ขึ้นสำหรับนิทรรศการนี้โดยเฉพาะ พร้อมเปิดให้ผู้สนใจสามารถเข้าชมและจับจองผลงานศิลปะที่จะนำมาจัดแสดงในครั้งนี้ได้ ตั้งแต่วันนี้ถึง 29 พฤษภาคม 2565 ณ ชั้น 4 เซ็นทรัล: ดิ ออริจินัล สโตร์


PEX เล่าถึงจุดเริ่มต้นในการจัดนิทรรศการครั้งนี้ว่า สำหรับเขาแล้วเชื่อว่า ลึกๆ ข้างในจิตใจของทุกคนนั้น ยังมีความเป็นเด็กซ่อนอยู่ นี่จึงเป็นเหตุผลที่เขานำเด็กมาสร้างงานศิลปะ ที่คนส่วนใหญ่มักจะมองว่าเด็กนั้นไร้เดียงสาไม่มีพิษมีภัย แต่สำหรับเขาคิดว่าเป็นการมองเพียงผิวเผิน เพราะด้วยสภาพสังคมสมัยนี้ เด็กสามารถเข้าถึงสื่อหรือสิ่งเร้าต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว จนบางครั้งเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าสิ่งเหล่านั้นเหมาะสมต่อกระบวนความคิดเพียงใด?


สำหรับงานแสดงชุดนี้ชื่อว่า “The Puppet & My Mind Records” ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘อุปมาอุปไมย’ ที่นำไปสู่การสร้างภาพในงานศิลปะหรือในเชิงเปรียบเทียบกันของผู้เชิดและผู้ถูกเชิด จากปัจจัยภายนอก และภายในจิตใจของตนเอง สิ่งที่น่าสนใจในผลงานชุดนี้ ก็คือ การนำลักษณะของหุ่นเชิดมาสื่อในบางรูป และบางภาพก็ใช้สัญลักษณ์แทน เช่นหมี หรือ ชุดคอสตูม ที่ดูเหมือนมีชีวิต และคอยควบคุมผู้สวมอีกที ซึ่งอาจจะแทน


ความหมายของความคิดอีกด้านที่ซับซ้อนของผู้สวมเองก็ได้ และเมื่อมันมามีอิทธิพลเหนือเหตุผล สิ่งนี้ก็ได้เข้ามาเชิดเราแล้วนั่นเอง หรือจะเป็นกิเลส ที่ทำให้เรากระทำการตรงข้ามกับความรู้สึกที่แท้จริง สิ่งนี้ก็เข้ามาเชิดเราอีกเช่นกันและจะสังเกตได้ว่า ภาพเด็กที่เขาวาดขึ้นนั้น บางภาพก็ไม่ได้ระบุเพศอย่างชัดเจน เพราะคิดว่า เพศที่แท้จริง อาจซ่อนอยู่ภายในจิตใจ ไม่ใช่รูปลักษณ์ภายนอก และสิ่งนี้แหละที่เป็นผู้เชิดอย่างแท้จริง

นอกจากภาพวาดสีอะคริลิคบนแคนวาสแล้ว เขายังได้คัดเลือกงานสเก็ตบางส่วนที่สะท้อนความรู้สึกของเขาที่มีต่อสังคม ในช่วงที่ทำงานชุดนี้ จึงเป็นเหมือนการบันทึกและช่วยบำบัดความรู้สึกของเขาไปพร้อมๆ กัน


ที่มีชื่อว่า ‘The puppet’ หุ่นกระบอกที่ถูกบังคับไปตามผู้เชิด แต่จะแน่ใจได้อย่างไรว่า ผู้เชิดเองไม่ได้ถูกเชิดจากความรู้สึกที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่แสดงผ่านหุ่นเชิดอีกที โดยผลงานศิลปะเชิงเปรียบเทียบชิ้นนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากหนูน้อยหมวกแดง ที่มีเนื้อเรื่องมาจากตอนที่หนูน้อยผู้นี้เดินเข้าไปในป่า แล้วได้เจอกับหมาป่า ซึ่งในความคิดของศิลปินนั้น ลักษณะก็เหมือนกับเด็กคนนึงที่ต้องเผชิญกับเรื่องราวหรือสภาพแวดล้อมของสังคมที่อาจมีความโหดร้าย เปรียบเสมือนเป็นหมาป่า และได้หยิบยกตัวละคร นั่นก็คือ Mari มาเป็นตัวแทนของเด็กคนนึง ผสมผสานเทคนิคการแสดงสัญลักษณ์และสีสัน เพื่อใช้ในการสื่อสารให้ผู้ชมได้สัมผัสประสบการณ์ความสุขสนุก และครุ่นคิดไปกับการตีความในแบบของตนเอง

สามารถไปชมและจับจองผลงานเป็นครั้งแรก ได้ ณ พื้นที่จัดนิทรรศการหมุนเวียนชั้น 4 เซ็นทรัล: ดิ ออริจินัล สโตร์ วันอังคารถึงอาทิตย์ ตั้งเเต่เวลา 10.00 – 18.00 น. งานนี้เข้าชมฟรีตลอดการจัดงาน


Info. : เซ็นทรัล: ดิ ออริจินัล สโตร์ (Central: The Original Store) ตั้งอยู่บริเวณปากซอยเจริญกรุง 38 ศูนย์รวมวัฒนธรรมรูปแบบใหม่ที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ที่เป็นต้นกำเนิดร้านค้าปลีกแห่งแรกของกลุ่มเซ็นทรัล ที่เตียง และสัมฤทธิ์ จิราธิวัฒน์ ผู้ก่อตั้งกลุ่มเซ็นทรัลได้ซื้อไว้เมื่อปี 1950 บนถนนเจริญกรุง นับเป็นจุดบรรจบอย่างลงตัวของความเก่าและใหม่ ผสานความเป็นเซ็นทรัลในยุคบุกเบิกเข้ากับบริบทในยุคปัจจุบัน สะท้อนความมุ่งมั่นของครอบครัวจิราธิวัฒน์ที่ต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนกรุงเทพฯ และคนในชุมชน พร้อมเชื่อมโยงวัฒนธรรมและจิตวิญญาณของย่านเจริญกรุงในช่วงกลางศตวรรษ เข้ากับประสบการณ์ที่ทันสมัยเพื่อต้อนรับคนในเจเนอเรชั่น

พื้นที่ที่เชื่อมโยงอดีตและปัจจุบันแห่งนี้ เปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนตุลาคม ปี 2020 ที่นำเสนอนิตยสารและหนังสือในบริบทของยุค สินค้าที่ระลึก นิทรรศการ ห้องสมุดและศูนย์บริการค้นคว้าข้อมูล พื้นที่จัดกิจกรรม ร้านอาหาร คาเฟ่ และบาร์ดนตรี เป็นสถานที่แฮงเอาท์สำหรับชาวกรุงเทพฯ ยุคใหม่

ตัวอาคารประกอบไปด้วยอาคารขนาดเล็ก 5 ชั้น เชื่อมต่อสู่บ้านเก่าแก่ 2 ชั้น อีกหลังหนึ่งด้วยสวนขนาดเล็ก โดยโครงสร้างในส่วนของอาคารได้รับการปรับปรุงใหม่โดยสถาปนิกแนวมินิมัลลิสต์ชาวเบลเยียม วินเซนต์ แวน ดอยเซน ถือเป็นโครงการแรกของเขาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมดื่มด่ำบรรยากาศและการตกแต่งสวยงามเหนือกาลเวลา ที่ออกแบบโดย Tripster ดีไซน์สตูดิโอจากญี่ปุ่น

Comments are closed.

Pin It