World Celeb

การกลับมาของตระกูล "มาร์กอส" ที่คนยุคนี้โดนโซเชียลมีเดียฟอกให้ซะเกลี้ยง

Pinterest LinkedIn Tumblr


เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ หรือ “บองบอง” ได้รับการโหวตให้เป็นประธานาธิบดีของฟิลิปปินส์อย่างถล่มทลาย หลังจากเกือบ 40 ปี ที่บิดาของเขาต้องลี้ภัยออกนอกประเทศ

ทำไมคนฟิลิปปินส์ลืมง่ายจัง…

เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ เป็นบุตรชายคนเดียวของ เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส ซีเนียร์ อดีตประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ระหว่างปี 1965-1986

เขาเข้ามาเป็นประธานาธิบดีครั้งแรกในปี 1965 แต่รวบรวมอำนาจเบ็ดเสร็จในปี 1972 ซึ่งเป็นเวลา 1 ปีก่อนจะหมดวาระที่ 2 ของการนั่งในตำแหน่งผู้นำประเทศ และแทนที่จะลงจากตำแหน่ง เขากลับประกาศกฎอัยการศึก

นั่นหมายความว่า รัฐธรรมนูญหมดความหมาย นักการเมืองฝ่ายตรงข้ามถูกจับกุม ไม่ก็ถูกห้ามแสดงบทบาทใดๆ ทางการเมือง เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส ซีเนียร์ ผู้ที่อดีตเคยเป็นนักกฎหมายที่ประสบความสำเร็จ เข้ามาควบคุมทุกองค์กรสำคัญๆ อย่างเบ็ดเสร็จ

ทหารและตำรวจทรมานและสังหารคนที่ต่อต้าน บรรยากาศบ้านเมืองเป็นอย่างนี้ตลอดการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของเขา ยิ่งในปีถัดๆ มา คนที่ร่วมเหตุการณ์จำได้ดีว่าเป็นช่วงเวลาที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของฟิลิปปินส์ ไม่ว่าจะการละเมิดสิทธิมนุษยชน รวมทั้งการคอร์รัปชั่น ประชาชนนับล้านต้องอยู่อย่างยากจน เนื่องจากประเทศเป็นหนี้


ระบอบมาร์กอสใกล้จะล่มสลาย ในเดือนสิงหาคม 1983 เมื่อมีการสังหารผู้นำทางการเมืองฝ่ายตรงข้าม…

เบนิญโย อากีโน ที่ลี้ภัยทางการเมืองไปยังสหรัฐอเมริกาในยุคที่เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส ซีเนียร์ เรืองอำนาจ ตั้งใจจะนำประชาธิปไตยกลับมาสู่ประเทศ เขาบินกลับมายังกรุงมะนิลา แต่ก็ถูกยิงตายหลังลงจากเครื่องบิน

การลอบสังหารครั้งนี้ สร้างความตื่นตระหนกให้แก่ชาวฟิลิปปินส์เป็นอย่างมาก คนนับแสนออกมาแสดงพลังต้องการประชาธิปไตยคืนมา พวกเขาออกมาเดินขบวนประท้วงเคียงข้าง คอรี อากีโน ภริยาหม้ายของเบนิญโย อากีโน

ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส ซีเนียร์ พยายามระงับความโกรธของฝูงชนด้วยการประกาศให้มีการเลือกตั้งทั่วไป และออกมาประกาศชัยชนะด้วยคะแนนโหวตปลอมๆ ขณะที่คนนับล้านยังคงออกมาเดินขบวนประท้วง และส่งผลให้ชาวฟิลิปปินส์ทั่วโลกออกมาเดินขบวนแสดงจุดยืนของตัวเองด้วย


การลุกฮือของประชาชนได้รับการสนับสนุนจากโบสถ์คริสต์ รวมทั้งนายทหารระดับสูง ที่ออกมาต่อต้านเฟอร์ดินานด์ มาร์กอสผ ซีเนียร์ และปฏิเสธที่จะใช้อาวุธปราบปรามผู้ประท้วง

หลังจาก 4 วันของการเดินขบวน ครอบครัวมาร์กอสก็บินหนีไปยังฮาวายด้วยเฮลิคอปเตอร์ของอเมริกัน ตอนนั้น เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ อยู่ในวัย 28 ปี และเพิ่งจะเข้าสู่วงการการเมือง ก็เดินทางไปพร้อมครอบครัว ตอนที่ตรวจคนเข้าเมืองในสหรัฐ มีรายงานว่าพวกเขามีหีบใส่ของมีค่ามากมาย ทั้งจิวเวลรี เสื้อผ้าแบรนด์ไฮเอนด์ และเงินสดจำนวนมาก

เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส ซีเนียร์ เสียชีวิตในอีกเพียง 3 ปีถัดมาหลังจากลี้ภัย

รายงานข่าวว่า ทั้งเขาและภริยา อิเมลดา มาร์กอส รวมทั้ง เพื่อนๆ และญาติๆ ปล้นประเทศไปราว 10 พันล้านดอลลาร์สหรัฐขณะที่อยู่ในอำนาจ โดยประเทศได้คืนมาแค่ 4 พันล้านดอลลาร์เท่านั้น


อิเมลดา มาร์กอส อดีตนางงามโด่งดังในด้านการสะสมของหรูหรา สินค้าดีไซเนอร์ชั้นนำ และเธอชื่นชอบเดินทางทั่วโลกไปซื้อรองเท้าดีไซเนอร์ โดยเธอเป็นเจ้าของรองเท้าแพงๆ กว่า 3,000 คู่ ซึ่งพบในที่พักประธานาธิบดีหลังจากที่ครอบครัวมาร์กอสได้ลี้ภัยไปยังอเมริกา

หลังจากกลับมาจากลี้ภัย อิเมลดา ถูกแจ้งข้อกล่าวหาหนีภาษี และฟอกเงิน แต่กลับรอดคดีมาได้โดยไม่ต้องเข้าคุก ส่วนบองบอง ได้ใช้ความร่ำรวยของครอบครัว กับคอนเน็กชันเก่าๆ เพื่อจะกลับมาเล่นการเมืองอีกครั้ง โดยเริ่มจากการเข้าสู่เวทีการเมืองท้องถิ่นก่อนที่จะเข้ามาเป็น สส. และวุฒิสมาชิก เช่นเดียวกับมารดาของเขาที่ได้เป็น สส. ขณะที่น้องสาว อีมี ก็เป็นวุฒิสมาชิก และเป็นอดีตผู้ว่าราชการจังหวัด

ปัจจุบันอายุ 64 ปี บองบอง โด่งดังท่ามกลางคนฟิลิปปินส์รุ่นใหม่ ขณะที่คนรุ่นเก่าเห็นว่า เขาพยายามมาลบล้างความผิดของบิดา โดยการทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น และลดการละเมิดสิทธิมนุษยชน นอกจากนี้ เขายังออกมาตอบโต้ว่า ตอนนั้นเขาเด็กเกินกว่าจะมารับผิดชอบอาชญากรรมที่เกิดขึ้นในสมัยพ่อของเขา

Comments are closed.

Pin It