เรื่องเล็กน้อยที่สร้างความเปลี่ยนแปลงได้ : แอชลีย์ วินเซนต์

คอลัมน์ : Nature Impressions  โดย   แอชลีย์ วินเซนต์

เสือโคร่งไซบีเรียในภาพทั้งหมดเป็นภาพถ่ายของ “ข้าวหอม” และ “มะลิ” สองพี่น้องคอกเดียวกันที่ถือกำเนิดในสวนสัตว์เปิดเขาเขียว เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2011ที่ผ่านมาครับ

ผมได้รู้จักเสือสาวทั้งสองตัวนี้ ก่อนที่มันจะมีอายุครบสี่เดือนได้เพียงอาทิตย์เดียว และนับจากนั้นเป็นต้นมา ผมก็มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับทั้งสองสาวอีกบ่อย ๆ ด้วยการคอยตามเก็บภาพบันทึกการพัฒนาการเจริญเติบโตของพวกเธอในฐานะอาสาสมัคร

เวลาที่ผมถ่ายภาพพวกเธอ ผมต้องนอนราบลงกับพื้นเพื่อให้มุมกล้องอยู่ในระดับเดียวกับสายตาของนางแบบของผม ผมรู้สึกมีความสุขมากเวลาที่เฝ้ามองเสือสองตัววิ่งไล่หยอกล้อกัน รู้สึกเหมือนกับตัวเองได้รับสิทธิพิเศษกว่าใคร และผมรู้สึกทึ่งกับสัญชาตญาณของสัตว์ป่าที่แม้พวกมันจะเกิดกันในเมือง แต่มันไม่ได้ลืมเลือนวิญญาณของนักล่าเลย ขนาดยังเป็นเพียงเสือน้อย พวกมันก็ยังมีท่วงท่าของนักล่าผู้ยิ่งใหญ่


เสือโคร่งเป็นสัตว์กินเนื้อที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่สามของโลก รองลงมาจากหมีสีน้ำตาลและหมีโพล่าครับ เสือโคร่งที่ยังมีเหลืออยู่ในโลกนี้แบ่งออกเป็น 6 สายพันธุ์ พันธุ์ที่มีขนาดและน้ำหนักตัวมากที่สุดคือ เสือโคร่งไซบีเรีย หรือ ที่รู้จักกันในอีกชื่อว่า Amur Tiger (Panthera tigris altaica)เสือโคร่งมีพลังมหาศาลจนสามารถล้มหมีสีน้ำตาลและหมีดำที่มีขนาดตัวใหญ่กว่าได้อย่างไม่ยากนัก นับเป็น 5-8เปอร์เซ็นต์ของอาหารทั้งหมดที่มันกินเลยล่ะครับ

โดยปกติเสือโคร่งจะล่าพวกเก้ง กวาง ละมั่ง หรือหมูป่า เป็นอาหาร แต่ถ้าหาสัตว์ใหญ่ไม่ได้ มันก็จะล่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีขนาดเล็กอย่างพวกกระต่ายแทน และเนื่องจากเสือโคร่งมีฝีมือในการว่ายน้ำเป็นเลิศ มันจึงกินพวกปลาเป็นอาหารด้วย

เสือโคร่งไม่ชอบกินหมาป่านะครับ แต่หากหมาป่าเข้ามาใกล้อาณาเขตของมันเมื่อไร เสือโคร่งมักจะสังหารหมาป่าทันที คงจะเป็นการกำจัดคู่แข่งนั่นแหละครับ เนื่องจากหมาป่าเป็นสัตว์กินเนื้อเช่นกัน ต้องจำกัดจำนวนกันเอาไว้หน่อย เดี๋ยวอาหารจะเหลือไม่พอกิน

เคยมีการเก็บบันทึกไว้เช่นกันว่ามีหมีสีน้ำตาลบางตัวฆ่าเสือโคร่ง และมีการบันทึกไว้ครั้งหนึ่งว่าเห็นหมีสีน้ำตาลกำลังกินเสือโคร่งอยู่ ผมลองนึกภาพดู อดคิดไม่ได้ว่า เมื่อผู้ยิ่งใหญ่สองตัวเผชิญหน้ากัน มันคงจะดุเดือดน่าดู ไม่ว่าฝ่ายไหนจะหาเรื่องก่อน หรือฝ่ายไหนจะป้องกันตัวเอง เหตุการณ์คงถึงบทอวสานอย่างนองเลือดเสมอ



ศัตรูอันดับหนึ่งตลอดกาลของเสือโคร่งทุกสายพันธุ์คือ “มนุษย์” ครับ ไม่ว่าจะจากการบุกรุกเข้าไปในผืนป่าที่เป็นบ้านของพวกมัน หรือการ “ล่าเพื่อความสะใจ”

คนบางกลุ่มเชื่อกันว่า การล้มสัตว์ที่มีพลังมาก ๆ ได้จะเป็นเคล็ดทำให้พวกเขาได้รับอำนาจมากยิ่งขึ้น หรือคนที่ยึดมั่นถือมั่นกับการกินอวัยวะบางชิ้นของสัตว์ป่าเป็นยา “อายุวัฒนะ” หรือคนบางกลุ่มที่เชื่อว่าหากได้กินหัวใจของเสือแล้วจะทำให้เกิดกำลังวังชาและมีพละกำลังทางเพศอย่างเหลือเฟือ

ผมว่าเดินเข้าร้านขายยาแผนปัจจุบันแล้วถามหา“ไวอะกร้า” จะง่ายกว่าไหมครับ ในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง ผมเข้าใจความต้องการของคนนะครับ เพียงแต่ผมทำใจไม่ค่อยได้กับความต้องการที่ต้องแลกมาจากชีวิตอื่น

มีการเก็บบันทึกไว้ว่า ยังมีเสือโคร่งที่หากินเองตามธรรมชาติเหลืออยู่ในเมืองจีน22ตัว ในปี ค.ศ 2005 รัสเซียแจ้งไว้เช่นกันว่าพบเห็นเสือโคร่งอยู่ 331- 393 ตัวทางทิศตะวันออกของประเทศ ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ตามเทือกเขา Sikhote Akin

ปัจจุบันนี้ มีแหล่งอนุรักษ์เสือโคร่งอยู่หลายแห่งทั่วโลก หลายแห่งอนุรักษ์เชิงพานิชแอบหากำไรโดยไม่ได้ใส่ใจต่อสวัสดิภาพของสัตว์อย่างแท้จริง ผมรู้สึกสุขใจที่อย่างน้อยในสวนสัตว์เปิดเขาเขียว อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี มีโครงการอนุรักษ์เสือโคร่งที่ดำเนินการอย่างเห็นแก่ประโยชน์ของสัตว์เป็นเรื่องสำคัญยิ่ง ผมรู้สึกภูมิใจที่ได้เห็นการทำงานอย่างทุ่มเทเอาใจใส่ของผู้อำนวยการสวนสัตว์ และคณะเจ้าหน้าที่วิจัยดูแลสัตว์ ไปจนถึงผู้ดูแลให้อาหารสัตว์แต่ละชนิด ผมสัมผัสได้ว่าทุกคนทำงานด้วยความรักและมีเมตตาต่อสัตว์ด้วยหัวใจจริง

สิ่งที่ผมได้เห็นในสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ทำให้ผมเกิดความศรัทธา ทำให้ผมกล้าคิด ว่าโลกของเรายังไม่สิ้นหวังซะทีเดียว ท่ามกลางความเห็นแก่ตัว การแบ่งพวกพ้อง และการแย่งชิงแบบใกล้คลั่งของคนในโลกปัจจุบันนี้ เรายังเหลือบางคนที่ยอมทำงานเพื่อคนอื่น ต่อสู้เพื่อส่วนรวม เสียสละเพื่อชีวิตที่ต้อยต่ำกว่า และฝ่าฟันเพื่อให้ความยุติธรรมยังคงอยู่

หากท่านรู้สึกสงสารสัตว์ป่า แต่คิดว่าคงช่วยอะไรไม่ได้มากนัก ผมอยากจะเรียนว่า ท่านทำบางอย่างได้นะครับ ทุกวันนี้ข่าวสารทุกอย่างหาได้ง่ายด้วยการหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต ท่านสามารถตรวจเช็คได้ว่ามีที่ไหนใกล้บ้านที่เป็นแหล่งอนุรักษ์สัตว์ป่าบ้าง ท่านอาจจะแปลกใจและตกใจเมื่ออ่านเจอการวิจารณ์เรื่องการทารุณกรรมต่อสัตว์จากบางสถานที่ แต่ท่านก็ต้องได้อ่านเจอว่ามีที่ไหนบ้างที่ดูแลเอาใส่ใจต่อชีวิตและสวัสดิการของสัตว์อย่างจริงจัง สิ่งที่ท่านรู้ จะทำให้ท่านสามารถหลีกเลี่ยงการสนับสนุนคนผิดและหันมาให้กำลังใจคนดีได้อย่างถูกต้อง

แหล่งอนุรักษ์และสวนสัตว์ส่วนใหญ่จะต้องเสียเงินค่าตั๋วเข้าเยี่ยมชม เงินที่ท่านจ่ายไปเพื่อเป็นค่าเข้าและเพื่อซื้ออาหารการกินหรือซื้อของฝากของที่ระลึกทั้งหลายส่วนหนึ่งจะถูกหักออกเพื่อนำไปบำรุงดูแลสัตว์ในสถานที่นั้น ๆ ต่อไปเป็นการแบ่งเบาภาระที่สถานที่เหล่านั้นต้องแบกรับไงล่ะครับ

ขอบคุณทุกท่านที่กรุณาติดตามคอลัมน์นี้ด้วยครับ ขอบคุณเป็นเป็นพิเศษต่อท่านที่กรุณาฝากคอนเมนท์ไว้ในคอลัมน์ที่ผ่าน ๆ มา ผมขอให้ทุกท่านมีวันและคืนที่สวยงาม มีความสุขกับทุกวันของชีวิต และพบกันใหม่นะครับ




รู้จัก…แอชลีย์ วินเซนต์

ชาวอังกฤษเชื้อสายอิสราเอล ที่ผันตัวเองจากการทำธุรกิจด้านเรียลเอสเตท มาทำงานเป็นช่างภาพถ่ายภาพสัตว์ป่าอย่างเต็มตัว เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา

ปัจจุบัน นอกจากเปิดร้าน Nature Impressions จำหน่ายผลงานของตัวเอง ณ สวนสัตว์เปิดเขาเขียว ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ที่กล่าวกันว่า เป็นสวนสัตว์เปิดที่ใหญ่อันดับ 1 ของโลก เขายังทำงานให้กับสวนสัตว์แห่งนี้ ในฐานะอาสาสมัครเก็บภาพสัตว์ป่าไปพร้อมกันด้วย

ผลงานภาพถ่าย “บุษบา” เสือโคร่งเพศเมีย ถ่ายจากสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ของแอชลีย์ได้รับการประกาศให้เป็น สุดยอดภาพถ่าย National Geographic 2012

เสมือนบอกย้ำให้กำลังใจช่างภาพหลายๆ คนว่า “ภาพถ่ายสัตว์ป่าที่ดี ไม่ต้องไปถึงเคนยา”

ติดตามอ่าน …Nature Impressions โดย  แอชลีย์ วินเซนต์  ได้ทุกอาทิตย์ ทาง  ART EYE VIEW

ส่งข่าวสารงานศิลปะร่วมสมัย มาได้ที่ ข่าว ART EYE VIEW www.astvmanager.com และ เซกชัน Lite ในหนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ Email: thinksea@hotmail.com

และคลิกเป็น แฟนเพจ ได้ที่ http://www.facebook.com/arteyeviewnews