“มวลเมฆมหึมา” เคล้ากลิ่นอายศิลปะตัดกระดาษแบบจีนดั้งเดิม ของ “ยู่ จอร์ดี้ ฟู้”

ART EYE VIEW—ไม่เพียงแต่ผลงานประติมากรรมมวลเมฆ ชื่อ Gaysorn’s Clouds นำเสนอในรูปแบบศิลปะเหนือจริง มีขนาดมหึมา (ยาวกว่า 250 เมตร สูงกว่า 18 เมตร) ลอยเด่นอยู่กลางศูนย์การค้าเกษร เท่านั้นที่ ยู่ จอร์ดี้ ฟู้ (Yu Jordy Fu) สาวชาวจีนอดีตนักเรียนเก่าอังกฤษ มีมาให้ชม สำหรับการกลับมาจัดแสดงผลงานที่ประเทศไทยอีกครั้งของเธอ

แต่ในฐานะผู้ที่มีความเก่งรอบด้าน เป็นทั้ง ศิลปิน, นักออกแบบผลิตภัณฑ์, นักออกแบบแฟชั่น และสถาปนิก

ภายในงาน Jordy’s Multi-Disciplinary Showcase @ Gaysorn ระหว่างวันนี้ – 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 ณ GAYSORN ATRIUM GALLERY และ THE GALERIE ชั้น G ศูนย์การค้าเกษร ยู่ จอร์ดี้ ฟู้ ยังรวบรวมผลงานทุกแขนงที่เธอสร้างสรรค์ขึ้น มาจัดแสดงให้ชมพร้อมกันด้วย

ได้แก่ ผลงานภาพวาดเทคนิคสีน้ำมัน ชุด Emotion Collection ซึ่งเป็นผลงานแนวนามธรรมและกึ่งนามธรรม ภายใต้คอนเซ็ปต์ The Beauty in every day ถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึกจากการที่เธอได้มองเห็นถึงความงดงามที่หมุนเวียนเปลี่ยนไป ตามกาลเวลา ,ภาพวาดเทคนิคสีน้ำมันชุด Feeling Collection ที่โดดเด่นด้วยการใช้สีโทนเหลืองอบอุ่น เป็นตัวถ่ายทอดความรู้สึกที่มีต่อสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นรอบตัว และภาพวาดเทคนิคสีน้ำมันชุด Element Collection ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากช่วงเวลาของการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ปี “มะเมีย”

ผลงานเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านแนวโมเดิร์น อาทิ Cloud Chandeliers โคมไฟระย้ารูปเมฆ ,Cloud Lamp โคมไฟเมฆที่ตีความมาจาก“ศิลปะการตัดกระดาษแบบจีนดั้งเดิม” ถ่ายทอดผ่านมุมมองใหม่ โดยใช้วัสดุเป็นแผ่นอลูมิเนียมนำมาตัดด้วยเลเซอร์ สร้างแสงและเงาด้วยหลอด LED,เฟอร์นิเจอร์ชุด Dream ที่มีความหรูหราและทันสมัย ประกอบด้วย โซฟา โต๊ะ และ เก้าอี้ , พรม Tulip ที่มีการการเลือกใช้วัสดุที่ให้ผิวสัมผัสอ่อนนุ่ม แต่ไม่เก็บฝุ่น ,อุปกรณ์ตกแต่งผนังห้อง Butterfly ที่เน้นลายเส้นและรูปทรงที่พลิ้วไหว

ผลงานออกแบบแฟชั่น ภายใต้แบรนด์ J By Jordy ,ผลงานออกแบบแฟชั่น ที่ทำร่วมกับแบรนด์ดังในประเทศจีนและในยุโรป ,ผลงานระดับ Haute Couture (โอต์ กูตูร์) คอลเลคชั่นแรกที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อปลายปีที่ผ่านมาในงาน Arab Fashion Week ณ เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ภายใต้ชื่อคอลเลคชั่น White Nebula สะท้อนตัวตน ปรัชญาและสไตล์งานออกแบบของจอร์ดี้ มีความโดดเด่นด้วย โครงสร้างการทำชุดเชิงประติมากรรม (Sculptural dress) ไม่ได้ช่วยเน้นสรีระที่งดงามของผู้หญิงแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น หากแต่ยังมีเส้นสายศิลปะ 3 มิติบนพื้นผิวของชุด สะท้อนให้เห็นถึงนัยยะของการออกแบบที่ใช้พื้นที่ให้เป็นส่วนหนึ่งของชุดนั้นๆ ด้วย รวมไปถึงผลงานออกแบบแฟชั่นชุดล่าสุดที่ยังไม่เคยจัดแสดงมาก่อน

ยู่ จอร์ดี้ ฟู้ เผยว่ารู้สึกยินดี และเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสกลับมาจัดแสดงผลงานในประเทศไทยเป็นครั้งที่ 2 การกลับมาในครั้งนี้เรียกได้ว่ามี ความท้าทายเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการนำเอางานในแนว สหศาสตร์ศิลป์ หรือ Multi-Disciplinary Design (ที่ผสมผสานงานศิลป์หลากหลายแขนงเข้ากับสื่อและวิธีการใหม่ๆ ) มานำเสนออย่างเต็มรูปแบบครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

“งานนี้ผู้เข้าชมจะไม่ได้เห็นฉันแค่ในบทบาทของ ศิลปิน แต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะผลงานที่นำมาจัดแสดงทั้งหมด จะเป็นตัวบอกเล่าถึงบทบาทที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะการเป็นจิตรกรวาดภาพ นักออกแบบผลิตภัณฑ์ (เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน) ไปจนถึงนักออกแบบเสื้อผ้า”

ในส่วนผลงานไฮไลท์อย่าง ประติมากรรมมวลเมฆ Gaysorn’s Clouds เธอได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า สร้างขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ Artisan และ Craftsmanship โดยจอร์ดี้ได้นำเอาแนวคิดดังกล่าวมาจากการวิเคราะห์เอกลักษณ์เฉพาะตัวของแบรนด์ต่างๆ ภายในศูนย์การค้าเกษร

กว่าจะได้มาซึ่งประติมากรรมชิ้นนี้ จอร์ดี้ได้ใช้เวลากว่า 3 เดือน ในการวางคอนเซ็ปต์ผลงานในองค์รวม ก่อนที่จะร่างแบบเป็นลวดลายต่างๆ ที่บ่งบอกถึงเรื่องราวของการผลิตชิ้นงานด้วยฝีมือช่างชั้นสูง ทั้งการตัดเย็บสูท การทำเครื่องประดับ หรือการผลิตกระเป๋า ที่ล้วนแต่เปรียบได้กับงานศิลปะ โดยทั้งหมดยังคงกลิ่นอายของศิลปะการตัดกระดาษแบบจีนดั้งเดิม (Ancient technic of Chinese paper-cutting) ที่เน้นลายเส้นที่คมชัดแต่แฝงไว้ด้วยความพลิ้วไหว

จากนั้นนำมาขึ้นลายทั้งแบบ 2 มิติ และ 3 มิติ บนแผ่นอลูมิเนียมสีขาวแล้วตัดด้วยเลเซอร์ ซึ่งเทคนิคการตัดและความเหนือชั้นของวัสดุทำให้ผลงานมีความสมบูรณ์และมีรูปทรงคงที่ ต่างจากการตัดลายแบบเดิมที่จะทำลงบนแผ่นกระดาษ ซึ่งควบคุมเรื่องรูปทรงได้ยาก

ก่อนที่จะนำไปติดตั้งโดยให้ทีมงานช่างศิลป์ระดับมืออาชีพบรรจงดัดด้วยมือทีละจุด จากนั้นยกขึ้นจัดวางไล่ระดับจนเกิดเป็นรูปทรงของมวลหมู่เมฆที่ล่องลอยอยู่ในอากาศ พร้อมกันนี้ จอร์ดี้ยังได้เพิ่มลูกเล่นเรื่องของแสงและเงาลงบนผลงาน ด้วยการใช้หลอดไฟ LED และแสงธรรมชาติจากเพดานด้านบน เพื่อให้ผู้ชมเห็นรูปทรงของผลงานที่ชัดเจนไม่ว่าจะมองจากองศาใดก็ตาม ซึ่งการเล่นเรื่องแสงและเงานี้ ถือเป็นการใช้ “พื้นที่” ให้เป็นส่วนหนึ่งของผลงาน อันเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์การออกแบบของจอร์ดี้นั่นเอง

ส่งข่าวสารงานศิลปะร่วมสมัย มาได้ที่ ข่าว ART EYE VIEW ของ www.manager.co.th Email: thinksea@hotmail.com