>>“โรคมะเร็ง” ถือเป็นโรคร้ายที่มีผู้ป่วยเป็นจำนวนมากและมีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปี ซึ่งไม่ใช่เกิดขึ้นเพียงแค่ในประเทศไทย แต่ยังเป็นอุบัติการณ์ที่เกิดขึ้นในแทบทุกประเทศก็ว่าได้ ทำให้โรคนี้นับเป็นภัยร้ายแห่งยุคที่คุกคามคนทั่วโลก จึงไม่น่าแปลกใจที่โรงพยาบาลกลุ่มบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS ให้ความสำคัญกับโรคมะเร็งเป็นอย่างมาก
โดยทาง BDMS ตั้งเป้าพัฒนาการรักษามะเร็งให้เป็น “ศูนย์ความเป็นเลิศเฉพาะทาง (Center of Excellence : COE)” ร่วมกับโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง อุบัติเหตุ และออร์โธปิดิกส์ เริ่มต้นใน 9 โรงพยาบาลจากโรงพยาบาลในกลุ่มทั้งหมด 45 โรง เพื่อบูรณาการรักษาให้ครอบคลุมและเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่ดีและเหมาะสมที่สุด โดยมี รพ.วัฒโนสถ เป็นศูนย์กลาง ให้การดูแลรักษาโรคมะเร็งแบบครบวงจรหรือที่เรียกว่า “Total Cancer Care”
นายแพทย์ธีรวุฒิ คูหะเปรมะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวัฒโนสถ โรงพยาบาลมะเร็งกรุงเทพ ในโรงพยาบาลกลุ่ม BDMS กล่าวว่า เนื่องจากมะเร็งเป็นโรคที่มีผู้ป่วยจำนวนมาก และมีแนวโน้มสูงขึ้นทั่วโลก ประกอบกับการดูแลรักษานั้นจำเป็นต้องอาศัยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเครื่องมือในการรักษาจำนวนมาก ซึ่งเครื่องมือเหล่านี้ถือว่ามีราคาสูง ดังนั้น การดูแลรักษาโรคมะเร็งแนวคิดจะต่างจากโรคอื่นทั่วๆ ไป ที่ยิ่งกระจายเข้าถึงชุมชนหรือกระจายไปตามลักษณะทางภูมิศาสตร์ของประเทศได้มากเท่าไรก็ยิ่งดี แต่โรคมะเร็งจะต้องเป็นการรักษาแบบรวมศูนย์ การกระจายจะไม่ได้การรักษาที่ดีที่สุด จึงเป็นที่มาของการเป็นศูนย์ความเป็นเลิศเฉพาะทางด้านมะเร็ง
อย่างในหลายๆ ประเทศหรือแม้แต่องค์การอนามัยโลก (WHO) ยังระบุว่าการรักษาโรคมะเร็งต้องใช้การรวมศูนย์ เพราะหากกระจายการรักษาออกไปจะหาบุคลากรหรือเครื่องมือได้ไม่เพียงพอ จึงจำเป็นต้องมีศูนย์ความเป็นเลิศเฉพาะทางขึ้น
โดยศูนย์ความเป็นเลิศเฉพาะทางด้านมะเร็งของ BDMS ในส่วนกลาง คือ รพ.วัฒโนสถ สามารถให้บริการได้ครบทั้งหมด ส่วนโรงพยาบาลกลุ่ม BDMS ในส่วนภูมิภาค ก็สามารถรองรับผู้ป่วยโรคมะเร็งได้เช่นกัน โดยทำเป็นเครือข่ายของโรงพยาบาลวัฒโนสถ (Wattanosoth Cancer Center Network)
เนื่องจากการรักษาโรคมะเร็งจะต้องมีการประชุมทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแต่ละสาขาว่าจะวางแผนการรักษาในแต่ละกรณีอย่างไรบ้าง ทำให้ไม่ว่าเข้ารักษาที่โรงพยาบาลแห่งใด ก็มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการดูแลรักษาว่าต้องทำสิ่งใดก่อนหลัง เช่น จะผ่าตัดก่อนหรือไม่ หรือให้ยาเคมีบำบัดก่อน เป็นต้น ซึ่งหากโรงพยาบาลกลุ่ม BDMS ในภูมิภาค มีความพร้อมก็สามารถดูแลรักษาได้ทันที แต่หากมีข้อจำกัดบางประการ อาจใช้วิธีการส่งตัวมารักษาที่ส่วนกลาง หรือปรึกษามายังโรงพยาบาลวัฒโนสถทาง Teleconference หรือส่งทีมแพทย์จากส่วนกลางไปช่วยดูแลในภูมิภาคแทน
นอกจากนี้การบริการของ BDMS ในเรื่องการรักษาโรคมะเร็งยังให้บริการดูแลรักษาแบบ Total Cancer Care ที่เริ่มตั้งแต่การตรวจคัดกรองความเสี่ยงในการเป็นมะเร็ง การให้คำแนะนำดูแลสุขภาพ การตรวจคัดกรองมะเร็งที่มีความเสี่ยง การให้การดูแลรักษา และการฟื้นฟู โดยนายแพทย์ธีรวุฒิ อธิบายถึงการดูแลรักษามะเร็งในแต่ละขั้นตอนเพิ่มว่า
“เริ่มจากการคัดกรองหรือสกรีนความเสี่ยงก่อนว่าตัวเองมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งชนิดใด ซึ่งจะมีการทำเป็น Check list เพื่อประเมิน ทั้งจากพฤติกรรม ไลฟ์สไตล์ต่างๆ หรือแม้แต่ประวัติครอบครัว ซึ่งหากพบว่ามีความเสี่ยงก็จะให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัวเพื่อเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในการดูแลสุขภาพ เพื่อลดความเสี่ยงนั้นลง และเข้าสู่ขั้นตอนตรวจคัดกรองค้นหามะเร็งระยะเริ่มต้นเฉพาะมะเร็งที่มีความเสี่ยง
เช่น พบการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี ก็ต้องมีการตรวจคัดกรองมะเร็งตับเป็นประจำ เป็นต้น เพื่อที่จะค้นหาโรคได้ตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม หรือโรคมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งปากมดลูก สามารถตรวจคัดกรองค้นหาได้ตั้งแต่ก่อนระยะเป็นมะเร็ง ก็จะช่วยป้องกันการเกิดโรคได้ หรือทำให้เข้าสู่กระบวนการรักษาไว โอกาสหายขาดสูง
ส่วนในขั้นตอนการรักษา ทางโรงพยาบาลกลุ่ม BDMS มีการรักษาแบบครบวงจรทั้งสามเสาหลักของการรักษามะเร็ง คือ ทั้งการผ่าตัด การฉายรังสีรักษา และการให้ยาต้านมะเร็ง โดยมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการประชุมดูแลเพื่อเลือกวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับผู้ป่วย ให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดี
หลังจากรักษาหายแล้ว ก็ต้องมีการตรวจประเมินติดตามถึงการกลับมาเป็นซ้ำ พร้อมทั้งเฝ้าระวังมะเร็งชนิดอื่นๆ เพราะจากการศึกษาพบว่า มะเร็งบางชนิดเมื่อหายแล้วจะมีโอกาสเกิดมะเร็งชนิดอื่นตามมา เนื่องจากมะเร็งมีความสัมพันธ์กัน เช่น มะเร็งเต้านม มีความสัมพันธ์กับมะเร็งลำไส้และมะเร็งรังไข่ เมื่อรักษาเต้านมหายแล้วก็ควรตรวจเช็กมะเร็งบางชนิดต่อด้วย”
นอกจากการรักษามะเร็งได้อย่างครบวงจรแล้ว ศูนย์ความเป็นเลิศด้านมะเร็งของโรงพยาบาลกลุ่ม BDMS ยังพัฒนาต่อเนื่องในหลายๆ ด้าน อย่างด้านวิชาการหรืองานวิจัย BDMS มีการจับมือเป็นสถาบันพี่น้องกับ สถาบันมะเร็ง เอ็มดี แอนเดอร์สัน ซึ่งเป็นศูนย์มะเร็งอันดับหนึ่งของสหรัฐอเมริกา จึงไม่น่าแปลกใจที่นี่ได้รับการยอมรับจากผู้คนทั่วโลก มีผู้คนจากหลากหลายประเทศบินตรงมาเพื่อทำการรักษาโรคมะเร็งที่นี่โดยเฉพาะ
“การพัฒนาให้เป็นศูนย์ความเป็นเลิศเฉพาะทางด้านมะเร็ง นอกจากจะเป็นการช่วยภาครัฐในการดูแลรักษาผู้ป่วยมะเร็งในประเทศไทยแล้ว ยังเป็นการช่วยรองรับนโยบายเมดิคัล ฮับ ของประเทศไทยด้วย เนื่องจากโรคมะเร็งเป็นปัญหาของคนทั่วโลก แต่เมื่อเราพัฒนาจนเป็นศูนย์ความเป็นเลิศเฉพาะทาง คือมีมาตรฐานแบบระดับโลก ชาวต่างประเทศจำนวนมากจึงไว้ใจและเดินทางมารักษา ซึ่งส่งผลดีในเชิงเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพด้วย” นายแพทย์ธีรวุฒิกล่าวสรุป
Comments are closed.