ต้องเริ่มจากเลิกใช้ชีวิตและวิธีคิดในแบบเดิมๆ เหมือนที่ผ่านมา ลองทำอะไรใหม่ๆ กับ 7 วิธีรีเซ็ทชีวิตใหม่
1.JoyFul มีความเบิกบาน สนุกสนาน ละทิ้งความคิดและความรู้สึกที่ทำให้เรารู้สึกท้อแท้หรือเกินจะรับไหว เมื่อเรารู้ตัวว่ากำลังมีความคิดหรือความรู้สึกแบบนี้เกิดขึ้น ให้เตือนตัวเองว่านั่นเป็นเพียงความคิดในใจเท่านั้น แล้วหันไปสนใจอะไรที่มีประโยชน์ต่อชีวิตมากกว่าเรื่องพวกนี้ดีกว่า
2.Start New Year เริ่มต้นสนุกไปกับเทศกาลฉลองปีใหม่ ไปเที่ยวกับเพื่อน และครอบครัว มีความสุขอิ่มเอมไปกับกิจกรรมที่ร่วมทำด้วยกัน การอยู่กับความวิตกกังวลมากๆ จะกลายเป็นความเครียดสะสมส่งผลเสียต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตของเรา
3.Make friends เปิดใจมองหาเพื่อนใหม่ ๆ ยิ่งอยู่ในวัยทำงานเราก็มักจะเจอแต่คนเดิมๆ สิ่งแวดล้อมเดิมๆ เพื่อนเก่าๆ ก็ทำงานหรือไปทำธุรกิจของตัวเอง หรือมีครอบครัวจนแทบไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย เปิดใจหาเพื่อนใหม่ที่จะทำให้เราพบคนเจ๋ง ๆ ที่อาจกลายเป็นเพื่อนสนิทในอนาคต ลองเลือกไปเข้าร่วมกิจกรรมสักอย่าง เช่น การเรียนทำขนม เวิร์คช็อปงานฝีมือหรืออาสาสมัครทำงานเพื่อสังคม เป็นต้น อาจจะเปิดโลก พบเพื่อนใหม่ก็เป็นไปได้
4.Globalization อัพเดทเทรนด์ต่างๆ ให้ทันยุค ทันสมัย เท่าทันโลกที่เปลี่ยนแปลง รู้จักคน รู้จักเทคโนโลยี เพราะต้องยอมรับตอนนี้ คือยุคดิจิทัล ไม่ว่าจะวัยไหนๆ วัยเด็ก วัยรุ่น วัยเก่า ก็ต้องรู้จักเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลง เข้ามามีบทบาทในชีวิตการงาน ชีวิตความเป็นอยู่ของเรา อย่าคิดว่าเราไม่อยากรู้ ไม่อยากเรียนแล้ว ทำให้เราจะคุยกับใครไม่รู้เรื่อง
5.Health มีเงินเยอะก็แค่ไหนก็ซื้อสุขภาพไม่ได้ ดังนั้นการดูแลรักษาสุขภาพร่างกายของตัวเราเองอย่างถูกต้องและเหมาะสม การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การออกกำลังกายสม่ำเสมอ การพักผ่อนอย่างเพียงพอ ดูแลสภาพจิตใจ ปรับทัศนคติความคิด รวมถึงปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตไม่ให้ทำลายสุขภาพ จะช่วยให้เรามีสุขภาพกายและใจดีขึ้น ทั้งแข็งแรงและสดใส
6.Life Long Learning เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เสมอ สมองของมนุษย์มีไว้เพื่อคิด แก้ปัญหา สร้างสรรค์งาน ถ้าเราไม่ให้โอกาสตัวเองที่จะตั้งคำถาม สุดท้ายเราจะลงท้ายด้วยความเบื่อ ซึมเศร้า และไม่รู้จะไปทางไหนดี การเรียนรู้สิ่งใหม่จะช่วยให้สมองแก่ช้าลง ให้เซลล์สมองใหม่ได้โต ช่วยเพิ่มความคิดและทักษะความยืดหยุ่นในเชิงสร้างสรรค์ และสิ่งสำคัญทำให้เรามีความสุข สนุก กับการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
7.สุดท้ายซึ่งถือว่า สำคัญมากที่สุด คือ การให้ความสำคัญกับสุฃภาพใจของเรา เริ่มจาก การแบ่งปันความสุขให้คนอื่น ลดความเห็นแก่ตัวลง ขึ้นชื่อว่า การแบ่งปัน ไม่มีข้อกำหนด ไม่มีรูปแบบ หรือขอบเขตที่จะมากะเกณฑ์แบบตายตัว การแบ่งปันเป็นการให้ที่ผู้ให้มุ่งที่จะช่วยเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายหรือขาดแคลนให้แก่อีกฝ่ายคือ ผู้รับ และที่สิ่งที่ผู้ให้ได้กลับคืนมา คือ ความสุขในใจนั่นเอง
ผู้ให้ข้อมูล ศ.นพ.รณชัย คงสกนต์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล BMHH – Bangkok Mental Health Hospital
Comments are closed.