เชื่อหรือไม่ แค่ปรับสี-แต่งผม บุคลิกดูดีขึ้นเยอะเล้ย!

เหลียวมองไปที่ไหน ไม่ว่าจะเป็นสาวในสื่อ ดาราไทย-เทศต่างทำสีผมกันทั้งนั้น หรือสาวธรรมดาบนท้องถนน บางคนเหลืองทั้งหัว บางคนเหลืองเป็นช่อ กระจุกๆ บนหัว มันมีศัพท์เทคนิคที่เรียกว่า โลว์ไลท์ (Lowlight) และ ไฮไลท์ (Highlight) ซึ่งมีคุณสมบัติต่างกัน เพื่อเสริมสร้างบุคลิกให้โดดเด่น แตกต่างกัน

โลว์ไลท์ ช่วยทำให้ผมดูมีมิติ แถมเป็นธรรมชาติ ขณะที่ไฮไลท์ทำให้ใบหน้าปิ้งปั้งขึ้นกว่าเดิม ผิดหูผิดตา

งานเข้าแบบนี้ ต้องไปหาปรมาจารย์เรื่องสีและเส้นผม

“จริงๆแล้วการทำสีโลว์ไลท์ หรือไฮไลท์ เป็นการไล่สีต่างระดับ เพียงแต่ต่างกันตรงที่ว่า โลว์ไลท์ เป็นการแซมสีที่เข้มกว่าพื้นผม และไฮไลท์เป็นการแซมสีที่สว่างกว่าพื้นผมเท่านั้นเอง” อ.ศิวกร ให้ความหมาย และความต่างของโลว์ไลท์ – ไฮไลท์

“โลว์ไลท์จึงเหมาะกับคนที่ต้องการความเป็นธรรมชาติ แต่อยากให้ผมดูมีมิติ ส่วนไฮไลท์ ต้องการเน้นสีผมให้สว่าง หน้าดูไบรท์ เหมาะกับคนที่สีผิวไม่ขาวมาก เพราะช่วยขับผิวหน้าให้สว่างได้

“สีโลว์ไลท์จะใช้สีน้ำตาลเข้ม เบอร์ 2 โลว์ไลท์ต้องมีพื้นเป็นบลอนด์ แล้วค่อยมาแซมระดับน้ำตาล หรือดำ โดยช่อผมที่จะทำโลว์ไลท์ขึ้นอยู่กับการออกแบบ แต่ละทรงผม ถ้าเป็นโลว์ไลท์มาตรฐาน ก็จะเป็นช่อเท่าๆกัน แต่ถ้าเป็นแฟชั่น เราก็สามารถออกแบบจัดวางได้เลยว่า เราจะเน้นจุดไหนขึ้นมาให้ทรงผมทรงนั้นดูน่าสนใจขึ้น การแซมโลว์ไลท์อยู่ที่ว่าเราออกแบบจะแซมกี่สี อาจจะแซม 2 ระดับก็ได้ คือ แซมระดับน้ำตาล หรือ ดำก็ได้ ที่ต่ำกว่าพื้น ถือว่าเป็นโลว์ไลท์

“เทรนด์ผมตอนนี้ส่วนใหญ่อิงกราฟฟิก (graphic)อยู่ จะสั้นหรือยาวก็ได้ แต่กรอบของทรงยังต้องค่อนข้างชัดเจน เน้นกราฟฟิก แต่ถ้าเป็นเทรนด์เอเชีย เทรนด์ญี่ปุ่นจะเป็นกรอบเบลอๆ เพราะฉะนั้นจะมีเทรนด์ผม 2 เทรนด์

เทรนด์โลกอิงในเรื่องของกราฟฟิก แต่เทรนด์เอเชีย ญี่ปุ่น จะเป็นลักษณะผมแบบคลุมหน้าคลุมตา”

ความที่น้องนางแบบผมยาวมาก อ.ศิวกร จึงตัดขึ้นมาประมาณ 3 – 4 นิ้ว เพื่อให้ดูเป็นรูปเป็นทรงมากขึ้น อีกทั้งช่วยเล็มผมแตกปลายด้วย ส่วนที่เลือกตัดหน้าม้า ก็เพื่อจะช่วยในเรื่องกรอบหน้า ให้มีความชัดเจนมากขึ้น อิงในเรื่องกรอบทรงที่ชัดเจน ดูเป็นสาวเปรี้ยวในบัดดล

เราสามารถใส่สีไฮไลท์ลงไปตามเส้นแบบนี้ได้เลย หรือเราจะปรับพื้นผมก่อนก็ได้ ผมที่เราจะทำเป็นไฮไลท์ได้สองเรื่องคือไฮไลท์แซมบนพื้นผมที่สว่าง หรือผมดำมาก แล้วเอาสีลงสว่างแซมลงไป” อ.ศิวกร เลือกที่จะทำสีไฮไลท์ก่อนปรับพื้นผม แถมแอบกระซิบบอกเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ ด้วย

“ก่อนโกรกผม จริงๆแล้ว ไม่จำเป็นต้องสระผมก่อนก็ได้นะ เพราะน้ำมันบนหนั งศีรษะของเราจะช่วยเคลือบสีผม ทำให้ผมเสียน้อยลงได้

“จากนั้นปรับพื้นสีผมทั้งหมดแต่ต้องให้เข้มกว่าสีไฮไลท์ โดยใช้สีน้ำตาลบลอนด์เหลืองทอง เบอร์ 6 เพราะนางแบบคนนี้ผิวขาวเหลือง จึงไม่มีปัญหาหากปรับพื้นผมที่สว่างมากๆ สามารถเลือกทุกเฉดสี ขึ้นอยู่กับความชอบ จะทำให้ทรงผมดูน่าสนใจ ขับผิวที่ขาวอยู่แล้วให้ผ่อง ดูมีชีวิตชีวา และอย่าลืมแซมไฮไลท์ที่สว่างกว่า 1 ระดับ ในโทนสีเดียวกัน ”

พร้อมแนะการเลือกสีผมสำหรับคนผิวคล้ำ

“ผู้ที่มีสีผิวคล้ำ ผิวสองสีไม่ต้องซีเรียสนะครับ ควรเลือกโทนสีในการทำสีผมในโทนสีน้ำตาลที่อ่อนกว่าผิวหน้าเล็กน้อย เช่นสีน้ำตาลหม่น หรือบลอนด์เข้มประกายทอง จะทำให้ผิวหน้าคุณดูสว่างขึ้น และจะลืมแซมไฮไลท์สีบลอนด์เหลืองที่อ่อนสุด จะทำให้เกิดมีมิติสีผมที่น่าสนใจยิ่งขึ้น

“แนะนำเลยให้ดัดผมลอนหยิกเพื่อให้เห็นสีไฮไลท์อย่างชัดเจน โดดเด่นออกมา ดูเหมือนตุ๊กตา หรือหากใจไม่กล้าพอที่จะดัดลอนถาวร ก็ใช้เป็นโรลไฟฟ้าก็ได้ จะได้ลอนที่สวยกว่าดัดถาวรอีกนะ ทำให้เห็นเส้นไฮไลท์ได้อย่างเด่นชัด สีผมเด่น ผมดูมีวอลลูม (volume) แลดูเป็นเกลียวคลื่น”

“ปกติแชมพูโดยทั่วไปจะไม่มีคุณค่าของสารบำรุงสำหรับเส้นผมที่ผ่านเคมี แต่หากเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับสภาพเส้นผม สีของเราก็จะเงางาม และไม่ซีดจางง่าย”

ดังนั้นควรจะเลือกแชมพูสำหรับผมทำสี เพราะจะมีในเรื่องของโปรตีน วิตามิน และคุณค่าของการบำรุงครบถ้วน ทำให้สีผมของเราไม่หลุดง่าย ดูนุ่มนวล มีน้ำหนัก ผมที่ทำสีไปแล้วสักระยะ ถ้าใช้แชมพูทั่วไป ประกายสีมันจะหลุดไป

หลุดไปทุกครั้งของการทำสีผม ถ้าเกิดโดนความชื้น หรือโดนน้ำ เกล็ดผมจะเปิด หลังจากนั้นเม็ดสีก็จะหลุดออกมา มันจะเหลือแต่แกนผม ทำให้สีผมดูแห้ง

“หากเราโกรกผมสีบลอนด์ทอง สระไปสระมาจะเป็นสีแดง เพราะพื้นผิวผมจริงๆ เป็นสีดำ แต่พอโดนสีที่เปลี่ยนลงไป พื้นเค้าก็จะเปลี่ยนไปเป็นน้ำตาล พอประกายต่างๆที่เริ่มหลุดไป จะเหลือแต่แกนผม เป็นพื้นที่โดนการทำเคมี ปฏิกิริยาเคมีของสีผม ดังนั้นจึงต้องใช้ครีมนวด และแชมพูสำหรับผมทำสี

แต่ที่มากกว่าครีมนวด คือ ลีฟออน (Leave – on) เซรั่มบำรุงผมทำสี ซึ่งมีคุณสมบัติในการล็อกสีผมให้ติดทน และเพิ่มประกายเงางามให้กับสีผมด้วย ใช้ทุกครั้งเพื่อป้องกันสีผมถูกทำร้ายจากแสงแดด ความร้อนจากการตัดแต่งทรงผม เพราะทุกครั้งที่ผมคุณผ่านการจัดแต่งทรงผม ความร้อนของไดร์ หรือเครื่องรีดผม ทำให้สีผมจางได้เร็ว” อ.ศิวกร ฝากเตือนด้วยความห่วงใย

อ.ศิวกร บอกคอนเซ็ปต์ของร้านตนเอง

“ช่างผมบางทีมักทำเว่อร์จนเกินไป พอลูกค้าออกไปไม่มั่นใจ เหมือนมันจะเยอะเกินไป ต้องมีความพอดี ซึ่งจะทำให้กล้าเปลี่ยนในครั้งต่อไป ทำให้ดูว่าผู้หญิงดูเป็นยุคนั้นตลอดเวลา ไม่ใช่ว่าตามเทรนด์ไม่ทัน”