คอลัมน์ Sexociety โดย เริงฤทธิ์รัก
ฝนตกแทบทุกวันอย่างนี้ มีหรือจะไปไหนได้นอกจากตั้งก๊วนกับพลพรรครักดื่มที่ไม่ปลื้มเมีย อากาศฉ่ำเย็นเพลงเบาเคล้าฝนบ่าย พวกเราก็เริ่มฮาเฮ แบบนี้ประจำร้านเก่าเจ้าเดิม
เปลี่ยนกันโม้ปล่อยกันอำตามสบาย เริ่มตั้งแต่เรื่องไม่เป็นเรื่อง จนกระทั่งเข้าเรื่อง จากการเมืองสู่การมุ้งมุ่งลงที่การเมีย ลับตาเมียคะนองปากจนสาวเชียร์เบียร์รินแทบไม่ทัน แต่น้องหนูก็ต้องยิ้มด้วยภาระหน้าที่ปฎิบัติ
ตี๋เล็กระบายก่อนเรื่องนอนกับเมีย ด้วยน้ำเสียงหงุดเงี้ยวในจิตปนน้อยใจ
“แฟนผมเค้าชอบผัดวันประกันพรุ่ง วันนี้เหนื่อย เมื่อวานท้องเสีย เพลียไม่มีอารมณ์ เผลอไปไม่กี่วัน วันนั้นของเดือนมาถึงพอดี ต้องรอไปอีก 3-4 วัน เป็นอย่างนี้ประจำ ใครจะทนไหว นี่ขนาดยังไม่มีลูกเนี้ย” ตี๋เล็กถอนใจดังลั่น ยกเบียร์เข้าปากปิดท้ายวาทะ
ชายกลางแต่ดันนั่งริมสุด มองตี๋เล็กอย่างเห็นใจชายด้วยกัน พูดด้วยน้ำเสียงแข่งสายฝนว่า
“ของกรูแม่งต้องรอ เธอว่า รักแล้วรอหน่อย รอสีทาเล็บแห้ง รอหนังละครจบก่อน กระทั่งรอแม่ยายข้างห้องดับไฟหลับก่อน เกรงใจคนแก่ ใหม่ๆ พอทนได้นานไป กรูกรนนำร่องไปซะก่อน ฮ่าๆ” ปิดท้ายเสียงหัวร่อของชายกลางทะแม่งแปร่งพิกล
ไอ้เบิ้มฟังอ้าปากจนเบียร์ย้อย สงสัยจะอึดอัดขัดข้องเต็มที เลยเผยความในหนักอกออกมา ให้ก๊วนแบ่งไปมั่งว่าสาเหตุมันมี
“ของอั๊วไม่ยังงั้นหรอก แค่เธออนามัยมากไปหน่อยเท่านั้นเอง กว่าเธอจะโหมโรงออกศึก อั๊วต้องแปรงฟันสามรอบ บ้วนน้ำยาสี่เที่ยว ล้างน้องชายแทบจะเปื่อย ดีนะที่ไม่ให้เอาแอลกอฮอล์ราดก่อน เธอบอกว่าไม่งั้นหมดอารมณ์ อั๊วเลยยกให้เป็น เจ้ากรมอนามัย เธอหัวเราะชอบใจฉายา แล้งสั่งให้ทำเหมือนเดิมทุกครั้ง”
ไอ้แป๊ะนักรักประจำก๊วน ปกตินั่งเงียบคอยแต่เหล่เล็มน้องเชียร์เบียร์เป็นหลัก คราวนี้คงทนไม่ได้เต็มแก่ โพล่งออกมาค่อนข้างเหี้ยม
“แรกๆ อีก็ร้อนดีหรอก แค่เห็นไฟลุกทุกที แต่เดี๋ยวนี้เก็กซิมชิบ ตอนแต่งใหม่ซิงๆ โคตรเอ็กเซ็กซ์แตกเลยแหละ พอมีหมวยเล็กเท่านั้น หมวยใหญ่กลายเป็นซิ้มทันที นึกออกไหมละว่าซิ้มแต่งตัวยังงาย จากบางเบาสายเดี่ยวกลายเป็นชุดแพรแขนยาวขายาวตัวโค่ง ประแป้งก่อนขึ้นเตียงทุกคืนต่างหาก บอกไปหลายหน หมวยไม่ว่าแต่อย่าเป็นซิ้ม ทำเอาหน่ายอารมณ์ ไม่เหมือนน้องเบียร์คนนี้เล้ย” ไอ้แป๊ะปิดประเด็นหันไปหมาหยอกไก่ตามเดิม
เฮียโชคนั่งซดเบียร์ยิ่งกว่าอูฐอยู่นานสองนาน คงทนไม่ได้เต็มแก่เห็นน้องนุ่งปล่อยฟอร์มไม่เหลือ เลยเปิดปากมั่ง
“ของเฮียแม่งเจอสองเด้ง คือ ไม่เด้งแถมไม่รอ อยู่กันมาสิปปี ท่าไหนก็ท่านั้น ไม่ยอมร่วมมือสรรค์สร้างท่าใหม่ จะกวางเหลียวหลังกวางหมอบไม่สนใจ มิชชั่นนารีสโมสรท่าเดียว จนลูกสองเข้าไปแล้ว ยังอมตะท่าเดิม ไม่มีเปลี่ยนแปลง เฮียเลยต้องแว่บออกมาฝึกวิทยายุทธกันลืมประจำ
ซ้ำร้ายพักหลัง เจ๊สุขสมแล้วไม่ยอมรอเฮียเลย บ่นว่าเฮียช้าไปหน่อย บ่นจนเฮียเซ็ง พลันหดหายงดเด้งโดยอัตโนมัติ อย่างเจ๊ของเฮียต้องเรียกว่า ถึงฝั่งไม่รั้งรอ”
นอกร้านฝนยังปรอยไม่ขาดเม็ด ขวดเบียร์เรียงเป็นตับเหมือนแถวทหาร กลิ่นน้ำหอมสาวเบียร์กรุ่นไปตามความเคลื่อนไหวรอบโต๊ะ ผมฟังจนเคลิ้ม อยู่ๆ ไอ้เบิ้มสะกิดสีข้างถามแบบห้วนๆ
มึงละไอ้เริงนั่งฟังท่าดื่มท่าเดียวอยู่ได้ คงรักษาแชมป์ไว้เหมือนเดิมรึไง
เพื่อนร่วมก๊วนหันมามองเหมือนถามด้วย ผมจะเงียบก็กระไรอยู่ จำต้องสารภาพอย่างสิ้นทระนงสงสัย
“กรูเจอหมดแล้วทุกหัวข้อของพวกเอ็ง แต่ทำไงละลูกตั้งสาม ไม่งั้นจะมานั่งจ่อมเป็นเป็นไก่เหงากะพวกเอ็งงี้เรอะ”
พลพรรคร่วมก๊วนนั่งเงียบไปแป๊ปเดียว แล้วพรวดลุกขึ้นยื่นแก้วปริ่มเบียร์ พร้อมยื่นแก้วปริ่มเบียร์มาตรงหน้า พร้อมตะโกนเสียงกลบสายฝนพรำ
“หมดแก้วนี้ไปต่อโว้ยพวกเรา ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ฮ่าๆๆๆ”
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
Comments are closed.