Advice

ผอมลง โดยไม่เหี่ยว! ด้วยนวัตกรรมใหม่ ทั้งดูด ทั้งกระชับ

Pinterest LinkedIn Tumblr

By Lady Manager

วิธีกำจัดไขมันอันได้รับความนิยมเสมอมาคงไม่พ้นการดูดไขมัน เพราะเห็นกันจะๆ ว่าไขมันออกมาจริง และตลอดเวลาที่ผ่านมาก็ได้มีการพัฒนาเครื่องไม้เครื่องมือการดูดไขมันกันอย่างไม่หยุดยั้ง ทว่าปัญหาหนึ่งที่ยังแก้ไม่ตก คือ เมื่อไขมันถูกดูดไปแล้ว ผิวหนังสาวเรายังคงหย่อนย้อยเป็นคลื่น ไม่เรียบเนียนเอาซะเลย

“ตอนนี้มีนวัตกรรมใหม่ ใช้พลังงาน RF (Radio Frequecy) เข้าไปสลายไขมัน คลื่นมันเข้าไปเหมือน Laser Lipo ดูดไขมันออกมาได้ง่าย แต่มันต่างตรงที่ทำให้ผิวกระชับด้วย” แพทย์หญิงนันทภัทร์ สุภาพรรณชาติ แห่ง Apex Profound Beauty กล่าวถึง Body Tite  หรือ RF assisted liposuction เทคโนโลยีความงามตัวล่าสุด ซึ่งผ่านการรับรองจาก อย. (องค์การอาหารและยา) แล้ว

“สมัยก่อนดูดไขมันใช้ท่อใหญ่ๆ ท่อที่มีรูตรงกลางเหมือนท่อน้ำ เวลาดูด ก็ดึ้ก ดึ้ก ดึ้ก ดูดไขมันออกไป ทำให้รุนแรง เกิดเลือดออก มีช้ำ มีบวม มีปวด และการเอาท่อไปดูดออก ไม่มีตัวช่วยให้กระชับตึง พอดูดเสร็จผิวเราข้างในก็เป็นรู รู รู ผิวเราจะไม่ค่อยเรียบ และถ้าดูดบ่อยๆ เนื้อหนังก็จะไม่แน่น

“ถัดมา ก็มี Laser Lipo มีพลังงานอัลตร้าซาวด์ (Vaser) เข้าไปสลายไขมันก่อน ไขมันก็จะเหลว ดูดออกมาง่ายขึ้น เพราะแบบเดิมมันกระทุ้งมาก”

…พัฒนาจากท่อใหญ่เป็นท่อเล็กๆ เท่าหัวปากกา แผลเปิดเล็กลง ผลข้างเคียงก็น้อยลง

“แต่ก็ได้แค่เรื่องง่ายขึ้น ไม่ใช่เรื่องผิวตึงขึ้น” หมอนันทภัทร์ กล่าว

จริงๆ แล้ว Laser Lipo อาจมีส่วนช่วยให้ผิวเรียบได้บ้างแต่ก็ไม่มาก ส่วน Vaser นั้นไม่สามารถช่วยให้ผิวกระชับได้เลย และด้วยความรุนแรงของพลังงานยังอาจก่อให้เกิดการอักเสบของเนื้อเยื่อผิวด้านใต้ ทำให้ผิวเป็นก้อนแข็งไม่เรียบ และเป็นร่อง ทำให้หลังดูดไขมันแล้วยังต้องมีการทำทรีตเมนต์อื่นเพิ่ม เช่น เทอร์มาจ (Thermage) เพื่อฟื้นฟูคอลลาเจน ให้กระชับตึงสามารถยึดจับเซลล์ไขมันได้ดีขึ้น จึงทำให้ค่าใช้จ่ายในการมีหุ่นดีค่อนข้างสูง ถึงสูงมาก ขณะที่ Body Tite ตัวใหม่มาล่านี้ใช้พลังงาน RF แบบเดียวกับเทอร์มาจ จึงสามารถดูดไขมันและกระชับผิวไปในตัว พร้อมกันเลย

“มันจะมีขาสองขา หัวมันจะเป็นเหมือนสองแง่ง เพราะฉะนั้นพอตัวมันเองลงไปปั๊บ พลัง RF จะทำการ tightening” หมอนันทภัทร์ฟันโช๊ะว่า แก้ปัญหาคอ-ต้นแขน-ต้นขาด้านในที่ห้อยย้อยได้ดีมาก

เพราะพลังงาน RF ไม่เพียงแต่ลงไปสลายผนังเซลล์ไขมัน ที่จับตัวกันเป็นก้อน แต่ยังลงไปเปลี่ยนโครงสร้างและปัจจัยทางชีวเคมีในบริเวณนั้น เปลี่ยนโครงสร้างการไหลเวียนของน้ำเหลือง ทำให้ขณะที่กำลังสลายไขมันก็จะได้ผลเป็นการกระชับผิวหนังไป พร้อมๆกัน รวมถึงขจัด Cellulite ไปด้วย

นอกจากนี้ยังเป็นเครื่องมือเดียวในการดูดไขมัน ที่สามารถฟื้นฟูคอลลาเจน ทำให้ผิวมีโครงสร้างที่แข็งแรงขึ้น ทำให้โอกาสที่ไขมันจะกลับมาสะสมใหม่ยากกว่าการดูดไขมันแบบเดิม

ทั้งนี้ไม่ใช่หมายความว่า จะรีดไขมันสาวตุ้ยนุ้ยให้กลายเป็นสาวผอมไปในพริบตา หมอนันทภัทร์พูดตรงๆ ว่า

“ไม่ใช่ทำให้คนอ้วนผอมลง แต่ถ้าอยากลดกางเกงสัก 2 ไซส์ มาทำให้มันหายไป อันนี้เหมาะ”
ใช้เวลาทำไม่นานค่ะ ประมาณ 1-2 ชั่วโมงเหมือนดูดไขมันปกติ

“อย่าดูดออกมากเกินไป คนไข้อยากดูดหลายจุด แต่หมอจะบอกคนไข้ว่า ‘อย่า’ หมอไม่ทำให้ทั่วตัวแน่นอน หมอจะให้ทำทีละส่วน อาทิตย์นี้ทำพุง อาทิตย์หน้าทำขา อาทิตย์ต่อไปทำแขน ฯลฯ และคนไข้ต้องไม่มีโรคประจำตัว อย่าง ความดัน เบาหวาน”

ค่ะ สาวๆ ท่านใดสนใจอยากรีดไขมันด้วยนวัตกรรมนี้ ควรศึกษาหาข้อมูลให้รอบคอบก่อนนะคะ ที่สำคัญ เลือกหมอระดับมือฉมังไว้ใจได้จริงๆ

 

>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่  http://www.celeb-online.net

Comments are closed.

Pin It