By Lady Manager
Question ชอบกินเค้กเบเกอรี่ ติดวิปด์ครีม (whipped cream) มากค่ะ สั่งกาแฟเย็นหรือไอศกรีมต้องใส่ตลอด กังวลเหมือนกันว่ากินเยอะๆ จะอ้วนแต่อดไม่ได้ ทำไงดีคะ?
Answer โดย นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการสถาบันเวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ
“ไม่ใช่แค่อ้วนนะครับ แต่กินแล้วจะไม่สวย มีโรคตามมา ยังจะกินอีกไหมครับ”
คุณหมออธิบายต่อ โดยแจกแจงเพื่อให้เข้าใจง่ายๆ ว่า เบเกอรี่วิปด์ครีมเหล่านี้มี 2 ธาตุ
“ธาตุแรก-ไขมัน เบเกอรี่วิปด์ครีมมีไขมันมฤตยูคือ Trans fat เยอะ”
Trans fat คือไขมันแปรรูปชนิดหนึ่งที่ส่วนใหญ่เกิดจากการนำไขมันไม่อิ่มตัว มีลักษณะเป็นของเหลว (Liquid Oil) มาเติมไฮโดรเจน (Hydrogenated) เช่น การแปรสภาพน้ำมันพืชเป็นเนยเทียม (Margarine) เพื่อให้ไขมันนั้นแข็งตัว มีจุดหลอมเหลวสูงขึ้น ไม่เป็นไข มีอายุการเก็บรักษานานขึ้น และมีรสชาติดี ใกล้เคียงกับไขมันจากสัตว์ ในราคาที่ถูกกว่า ส่งผลให้ผู้ประกอบการร้านอาหาร และร้าน Fast Food นิยมใช้ Trans fat เป็นส่วนประกอบของอาหาร
ดังนั้น ในปัจจุบัน จึงมีอาหารและวัตถุดิบประกอบอาหารหลายชนิดที่มี Trans fat เป็นส่วนประกอบ อาทิ มันฝรั่งทอด คุ้กกี้ ขนมขบเคี้ยว และขนมปัง เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม มีการวิจัยพบว่า ไขมัน Trans fat ทำให้ผู้บริโภคมีปริมาณคลอเรสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL-C) เพิ่มขึ้นในหลอดเลือด ซึ่งส่งผลให้เกิดการอุดตันอันเป็นสาเหตุของความดันโลหิตสูง และมีโอกาสต่อการเป็นโรคหัวใจและโรคอ้วน
“ระยะแรกอาจเป็นเรื่องสิว แต่ระยะยาวมันสะสมได้ สะสมได้ที่ 2 หัวเลยครับ ที่หัวสมองกับหัวใจ เจ้า Trans fat เข้าถึงหัวใจได้ และเข้าไปกระตุ้นให้หลอดเลือดอักเสบ
เจ้า Trans fat มันจะอยู่ในวิปครีม นมข้นหวาน ครีมเทียม ในเบเกอรี่ ในเค้ก ในคุ้กกี้ดำบางยี่ห้อ
ถ้ากินน้อยๆ ได้ ตามโภชนาการอเมริกันเค้าห้ามกินเกิน 2% ซึ่งน้อยมากนะ สมมุติคุ้กกี้ดำ ถ้าหนึ่งวันกินเกิน 2 ชิ้นก็เยอะแล้วนะ นี่อย่าลืมว่าในหนึ่งวันเรายังไม่ได้กินอย่างอื่นเลย
เพราะฉะนั้น คนที่ชอบกินกาแฟและใส่วิปด์ครีมด้วย ตัวดีเลย กระทั่งพวกไอศกรีมที่ใส่วิปด์ครีม เค้าไม่ได้ใส่ครีมสดอยู่แล้ว เพราะครีมสดเก็บไม่ได้นาน เค้าก็จะใช้วิปด์ครีมที่เป็นครีมเทียม”
ส่วนธาตุที่สองคือ แป้งกับน้ำตาล
“อย่างที่เรารู้กันอยู่ มันไปกดสวิตซ์เสพติดหวาน ผู้หญิงมีฮอร์โมนที่จะเปลี่ยนแป้งกับน้ำตาลเป็นไขมันได้ง่าย ถ้ากินพวกนี้ต้องจำกัดแป้งกับน้ำตาล เพราะหากกินแป้งกับน้ำตาลเข้าไป แนวโน้มเกิดไขมันพอกมากขึ้น
พูดง่ายๆ กินแล้วมัน burn น้อยกว่า เพราะผู้หญิงกล้ามเนื้อน้อยกว่า ให้จำง่ายๆ ว่า ที่ไหนมีกล้ามเนื้อ ที่นั่นจะ burn ได้ง่ายกว่า”
หมอกฤษดา จึงแนะให้คุณสาวๆ ขยันออกกำลังกายสร้างกล้ามเนื้อ
“ไขมันชอบไปพอกแถวขา ต้นขา สะโพก ผู้หญิงที่ชอบกินหวาน จะมีรูปร่างตรงฐานล่างค่อนข้างใหญ่หน่อย แต่ถ้าผู้หญิงสร้างกล้ามเนื้อได้เยอะ มันก็จะ burn ง่ายขึ้น ก็ต้องออกกำลังกาย
เน้นว่าออกกำลังกายชนิดสร้างกล้ามเนื้อ ไม่ใช่ ‘วิ่ง’ นะครับ บางคนยิ่งวิ่งยิ่งน่องใหญ่นะ การวิ่งไม่ได้ช่วยสร้างกล้ามเนื้อ อาจต้องยกขา ออกกำลังตรงหน้าขาสักนิด แทนที่จะซิทอัพก็เป็นยกขาขึ้นแทน ที่ไหนมีกล้าม ที่นั่นไขมันจะน้อย จำไว้ครับ”
เท่านั้นไม่พอ หมอกฤษดายังฝากเตือนสาวๆ ที่ชอบกินขนมนมเนยหวานๆ ว่า ระวังจะกลายเป็นคนซึมเศร้าหดหู่
“เพราะคนไม่ค่อยรู้ว่าการกินหวานเยอะ ไม่ได้สดชื่นอย่างที่คิด แต่กลับทำให้ซึมเศร้าได้
สมมุติเที่ยงนี้ไปกินขนมเค้กหวานจัด มันจะสดชื่นช่วงกิน อั้มไปคำแรกกลูโคส (Glucose) ขึ้นสมองแล้วภายใน 3 นาที มันจะไบร์ทเร็วเหมือนได้เติมเชื้อเพลิงในสมอง แต่บ่ายกลับมาทำงาน รู้สึกง่วง และถ้าสังเกตลึกๆ บางทีมีอาการเหมือนหดหู่หงุดหงิด บางทีหิวเร็วขึ้น
นี่คือ อาการของน้ำตาลต่ำ มันถึงทำให้ซึมเศร้า เพราะทันทีน้ำตาลขึ้นสูง ร่างกายจะ..เฮ้ย! ไม่ได้นะ ให้อินซูลินกดลงมา ลงมาหน่อย แต่พอยิ่งหวานมาก อินซูลินยิ่งเยอะ พอมันยิ่งเยอะ มันไม่ได้ฉุดลงมาในระดับสามัญนะ แต่มันจะติดลบด้วยซ้ำ
เพราะฉะนั้นเราถึงเกิดอาการน้ำตาลต่ำ และอาการน้ำตาลต่ำคือ ง่วงซึม หงุดหงิด หดหู่ ซึมเศร้า ลองไปดูคนไข้เบาหวานสิ เหงื่อออก จะเป็นลม ง่วง
การที่คุณหมอบอกกินน้ำตาลแล้วสดชื่นน่ะจริง แต่จริงแค่บางส่วน หมอบอกไม่หมด มันจะสดชื่นแค่ 3 นาทีแรก แต่ 15 นาทีให้หลังติดลบ มันจะหงอย”
# ท่านผู้อ่านสามารถฝากคำถามสารพันปัญหาคาใจหญิงเรา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพ ความงาม และแน่นอน เรื่องเซ็กซ์กับความสัมพันธ์ มาได้ที่ lady@astvmanager.com เราจะเชิญผู้เชี่ยวชาญมาเคลียร์ให้หายคลางแคลงใจเลยค่ะ *_*
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
Comments are closed.