คอลัมน์ Sexociety โดย Dr.DEN
ใครๆ ก็สามารถตัดสินใจได้ทั้งนั้น และถ้าคุณโชคดี คุณก็ไม่ต้องเจ็บปวดกับผลกรรมที่ตามมา
แต่ผู้หญิงบางคนไม่โชคดีขนาดนั้น แต่ละคนทำความผิดพลาดอย่างหนึ่งซึ่งส่งผลให้ชีวิตของเธอปั่นป่วนแทบเป็นบ้า อย่างไรก็ตามเรื่องราวของพวกเธอก็สามารถนำมาเป็นอุทาหรณ์สอนใจคนอื่นๆได้อีกมากมาย ดังกรณีนี้
ในฤดูใบไม้ผลิของปี 2006 แอเดรียนา โดมิงเกซ นักศึกษาปีที่ 2 ของโรงเรียนกฎหมายบรุ๊คลิน ในนิวยอร์ค กำลังรู้สึกหดหู่ ไม่เพียงเพราะโดนแฟนทิ้งเท่านั้นที่ทำให้เธอสูญเสียความมั่นใจในตนเอง แต่เธอกำลังจวนเจียนจะโดนไล่ออกจากโรงเรียน เพราะถังแตกจนไม่มีเงินจ่ายค่าเล่าเรียนด้วย
ขณะที่แอเดรียนากำลังคลิกหางานทำเป็นรายได้เสริมจากอินเตอร์เน็ตอยู่นั้น สายตาของเธอก็หยุดลงที่โฆษณาชิ้นหนึ่ง ซึ่งกำลังหาหญิงสาวมาเป็นนักแสดงในรายการหนึ่งที่มีชื่อว่า NAKED HAPPY GIRLS (สาวเปลือยแสนสุข) โดยมีค่าแสดงมากพอที่จะเป็นค่าครองชีพของเธอไปได้เป็นเดือน
“ฉันไม่ได้ใฝ่ฝันจะเป็นดาราวีดีโอโป๊เปลือยแต่ประการใด แต่ฉันกำลังเดือนร้อนด้านการเงิน”
แอเดรียนา ซึ่งปัจจุบันอายุ 30 อธิบาย เธอตัดสินใจส่งรูปถ่ายพร้อมชีวประวัติและได้งานดังกล่าวในเวลาต่อมา “มันเป็นแค่การเปลือยกาย ไม่มีเซ็กซ์ และฉันไม่คิดว่ามันจะมีผลกระทบต่อชีวิตและอาชีพของฉันในอนาคต” เธอกล่าว
การแสดงครั้งนั้นลงเอยด้วยการออกอากาศใน เพลย์บอยทีวี เมื่อเดือนมกราคม 2007 และก็อย่างที่แอเดรียนาหวังไว้ มันดึงดูดความสนใจเพียงเล็กน้อย
แต่ในเดือนเมษายนนั้นเอง คลิปความยาว 45 วินาทีจากการแสดงดังกล่าว ซึ่งแสดงการเปลื้องผ้าของแอเดรียนา การถูกตีก้นและการถือค้อนไม้ (ที่ผู้พิพากษาใช้ทุบขณะนั่งพิจารณาคดีบนบัลลังก์) แนบอกของเธอ ก็ถูกส่งเข้ากล่อง E-MAIL ของเพื่อนร่วมชั้นและบรรดาอาจารย์ของเธอ รวมทั้งทนายความและนักหนังสือพิมพ์ด้านกฎหมายทั้งหลายด้วย
วีดีโอดังกล่าว จุดพายุไฟในหมู่ประชาคมกฎหมายระดับสูงของนิวยอร์คขึ้นมาทันที นักกฎหมายเกือบทุกคนได้ดูมัน หนังสือพิมพ์แทบลอยด์ประโคมเรื่องราวของว่าที่ทนายสาวผู้ใฝ่สูง ซึ่งยอมแก้ผ้าให้เพลย์บอยทีวีถ่ายลงหน้าหนึ่งอย่างครึกโครม
“ฉันมารู้เรื่องของคลิปนั่นเอาเมื่อตอนที่เพื่อนร่วมห้องบอกฉันว่า พวกนักข่าวของนิวยอร์คเดลินิวส์ เรียกร้องให้มีการแสดงความเห็นต่อเรื่องนี้” แอเดรียนาพูด “ฉันตกใจและอับอาย ตลอดสัปดาห์ต่อมาบรรดานักข่าวต่างพากันติดตามฉันอย่างจ้าละหวั่นในมหาวิทยาลัย และนักเม้นต์ทั้งหลายกล่าวหาว่าฉันปล่อยคลิปด้วยตัวเองเพื่อเรียกความสนใจ ซึ่งมันไม่จริง” จนถึงวันนี้ เธอก็ยังไม่แน่ใจว่าใครเป็นคนปล่อยคลิปฉาวนั้น
ยังโชคดีอยู่บ้างที่คลิปวีดีโอนั้นไม่ทำให้การเรียนกฎหมายเธอย่อยยับ และแอเดรียนาก็จบปริญญาตรีในเดือนพฤษภาคมของปีนั้น แต่มันยังไม่หยุดตามล่าเธอสำหรับการทำงานกฎหมายในเส้นทางของมัน
หลังจากเรียนจบ เธอย้ายกลับบ้านที่แคลิฟอร์เนียและฝึกงานเป็นเสมียนจนครบ 1 ปี
แต่ทุกครั้งที่เธอไปสัมภาษณ์สมัครงานในสำนักกฎหมายต่างๆ มันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ทนายของบริษัทต้องค้นหาประวัติของเธอในกูเกิลและเจอคลิปนั้นกับการโจมตีของสื่อ ทุกสำนักบอกเธอเหมือนๆ กันว่า คลิปนั้นทำให้ไม่อาจรับเธอเข้าทำงานได้
“ฉันมีผลการฝึกงานอันน่าประทับใจและฉันเรียนหนักในโรงเรียน แต่คลิปวีดีโอนั้นทำลายอนาคตฉันซะป่นปี้” เธอว่า
นอกจากแรงกดทับดังกล่าวแล้ว เธอก็ยังมีความสัมพันธ์อันตึงเครียดกับครอบครัวของเธอที่ไม่พอใจ เพิ่มเข้ามาอีกด้วย มันท่วมท้นเหลือเกิน จนเธอสอบเนติบัณฑิตไม่ผ่านถึง 2 ครั้งติดๆ
หลังจากสอบผ่านในครั้งที่สาม เมื่อ 3 ปีก่อน เธอก็ยังถูกปฏิเสธในการเข้าทำงานตามบรรษัทต่างๆ แอเดรียนาจึงตัดสินใจว่า เธอทนมามากพอแล้ว “งานเสมียนครั้งสุดท้ายของฉันก็ทำเพื่อทนายคนหนึ่งซึ่งทำงานเพื่อตัวเขาเอง และด้วยเหตุที่เขาประสบความสำเร็จ ฉันจึงคิดว่าจะเริ่มว่าความด้วยตัวคนเดียวเช่นกัน”
เธอบอก “มันเป็นการตัดสินใจที่ฉลาดที่สุด ฉันรับแค่คดีทั่วไปและกฎหมายครอบครัว ตามที่ฉันต้องการเท่านั้น และฉันก็มีชีวิตและงานที่สมดุล” ตอนนี้เธอเชื่อว่า การไม่ถูกรับเข้าทำงานในสำนักกฎหมายต่างๆนั้น เป็นพรจากสวรรค์ที่แปลงกายลงมา
เมื่ออาชีพของเธอกลับคืนมาบนเส้นทางแล้ว เธอก็ใช้เวลาหลายเดือนต่อมาเพื่อซ่อมแซมรอยร้าวกับครอบครัวของเธอ และขอให้พวกเขาช่วยเยียวยาความยุ่งเหยิงของความอับอายจากการดูหมิ่นเกลียดชังในอดีตให้เธอด้วย การมีพวกเขาเคียงข้างเธออีกครั้ง ทำให้ทุกสิ่งเปลี่ยนไป “การให้กำลังใจของพวกเขา ช่วยให้ฉันเดินไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงจริงๆ” เธอบอก
“การถ่ายวีดีโอเพื่อเงินสดทันใจในครั้งนั้น เป็นการตัดสินใจที่น่าสยองมาก แต่ด้านดีของมันก็คือ มันเป็นการสร้างบุคลิกและทำให้ฉันมีความกล้าหาญมากขึ้น” แอเดรียนากล่าว
“และน่าแปลก มันช่วยเรื่องชีวิตรักของฉันด้วย เพราะฉันรู้ว่าผู้ชายคนใดก็ตามที่รับไม่ได้กับความผิดพลาดอย่างหนึ่งที่ฉันทำลงไป ย่อมไม่ใช่ผู้ชายแบบที่ฉันต้องการ เมื่อฉันเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนชายคนปัจจุบันของฉันฟัง มันก็ไม่ทำให้เขากังวลจริงๆแล้ว มันทำให้ความสัมพันธ์ของเราแข็งแรงขึ้นด้วยซ้ำ”
ก็ขอแสดงความยินดีกับเธอด้วย ที่ฝ่ามรสุมแห่งชีวิตออกมาได้ด้วยความมีสติอันมั่นคงและกล้าหาญ แถมยังทำให้การแก้ผ้าหาสตางค์เพียงครั้งเดียว กลายเป็นการเปลือยเพื่อชีวิต(ที่ดีขึ้น) ในที่สุดด้วย
แต่สาวๆ ทั้งหลายอย่างเอาอย่างเธอเลยครับ จำไว้เป็นบทเรียนก็พอ เพราะใครมีดีและอยากโชว์(โป๊)นั้น กว่าจะรอดพ้นจากเงื้อมมือคนดี(ที่ดัดจริตแล้ว)มาได้ ก็เละเป็นปลาร้าสับไปแล้ว เพราะไอ้เรื่องโป๊ๆเปลือยๆ เนี่ย มันหนักกบาลพวกเขามากเลย รู้มั้ย
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
Comments are closed.